ย้อนดูชัดๆ นาที "อัจฉริยะ" ปะทะเดือด ชี้หน้าด่าตัวแทนรพ. ปฏิเสธรับผิดชอบสาวถูกสาดน้ำกรด ตร.เผยความคืบหน้าคดีล่าสุด

จากรณีเหตุการณ์ที่นายอัจฉริยะ เรื่องรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พาครอบครัว น.ส.ช่อลัดดา ทาระวัน อายุ 38 ที่ถูกนายคำตัน สามีเอาน้ำกรดสาดที่ใบหน้ามาจากสาเหตุความหึงหวง แล้วได้หลบหนีไป บุกโรงพยาบาลพระราม 2 โดยเมื่อคืนวันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 โดยนส.ช่อลัดดา ต้องทนพิษบาดแผลให้ ลูกสาววัย12 ปี พามาทำการรักษายังร.พ.บางมด แต่โชเฟอร์แท็กซี่เห็นว่าอาการหนัก จึงนำตัวส่งรักษาร.พ.พระราม 2 แทน

ต่อมากลับถูกทางร.พ. ปฏิเสธการรักษา โดยให้ผู้ป่วยให้ขึ้นแท็กซี่ไปรักษาตัวที่รพ.อื่น ทั้งๆ ที่ผู้ป่วยยังไม่ได้อยู่ในอาการที่ปลอดภัย พ้นขีดอันตราย จนสุดท้ายน.ส.ช่อลัดดา ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในระหว่างทางเดินทางบนรถแท็กซี่

 

 

ย้อนดูชัดๆ นาที "อัจฉริยะ" ปะทะเดือด ชี้หน้าด่าตัวแทนรพ. ปฏิเสธรับผิดชอบสาวถูกสาดน้ำกรด ตร.เผยความคืบหน้าคดีล่าสุด  

 


ล่าสุดทางด้านพ.ญ.วัลลภา ไชยมโนวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระราม 2 พร้อม น.พ.พีระ คณานวัตน์ ศัลยแพทย์ทั่วไป และที่ปรึกษาประจำโรงพยาบาลพระราม 2 ได้เปิดคำแถลงชี้แจ้งต่อหน้าสื่อมวลชนโดยมีนายอัจฉริยะ และครอบครัวของผู้เสียหายร่วมเจรจา
 

 

ย้อนดูชัดๆ นาที "อัจฉริยะ" ปะทะเดือด ชี้หน้าด่าตัวแทนรพ. ปฏิเสธรับผิดชอบสาวถูกสาดน้ำกรด ตร.เผยความคืบหน้าคดีล่าสุด

 

 

โดยน.พ.พีระ เปิดเผยว่า เบื้องต้นตนเองได้รับเรื่องราวจากสื่อที่นำเสนอและจากบันทึกของทางพยาบาล ซึ่งระบุว่า ผู้ตายและลูกสาวได้เดินทางมาโรงพยาบาลช่วยเวลาประมาณ 05.00 น.ทางประตูด้านหลังของห้องฉุกเฉิน ด้วยสภาพร่างกายเต็มไปด้วยคราบสีขาว จากนั้นทางพยาบาลเวรจึงทำการสอบถามอาการเบื้องต้น โดยทางผู้ตายยังคงมีสติสามารถโต้ตอบได้พร้อมบอกว่า ตนเองมีอาการปวดแสบปวดร้อน

 

 

ทางพยาบาลจึงทำการรักษาปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมประเมินสภาพบาดแผลมาจากสารเคมี ระดับ1 ตรวจวัดความดันอยู่ในระดับปกติ ซึ่งประเมินแล้วพบว่าอาการลักษณะนี้ยังไม่สาหัส นอกจากนี้ทางผู้ตายมีสิทธิในการรักรักษาพยาบาลอยู่ที่รพ.บางมด ซึ่งอยู่ไม่ไกล แต่หากต้องการรักษาต่อที่รพ.พระราม 2 แห่งนี้ต้องเสียค่าส่วนต่างในการรักษา 

 

 

ย้อนดูชัดๆ นาที "อัจฉริยะ" ปะทะเดือด ชี้หน้าด่าตัวแทนรพ. ปฏิเสธรับผิดชอบสาวถูกสาดน้ำกรด ตร.เผยความคืบหน้าคดีล่าสุด

 


ทำให้ทางผู้ตายประสงค์จะเดินทางไปรักษาต่อยัง รพ.บางมด ทางเจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำตัวผู้ตายไปยังจุดขึ้นแท็กซี่บริเวณหน้าโรงพยาบาลพร้อมกับให้เงินสดจำนวน 40 บาทแก่ลูกสาวเพื่อใช้ในการเดินทาง โดยขอยืนยันว่าผู้ตายไม่ได้เสียชีวิตบนแท็กซี่ขณะเดินทางไปรักษาต่อ ซึ่งจะเป็นความรับผิดชอบของทางรพ.เรา แต่คือได้เสียชีวิตขณะที่อยู่ในรพ.บางมดแล้ว

 


ทั้งนี้ในระหว่างที่น.พ.พีระ ให้สัมภาษณ์ ได้เกิดการโต้เถียงกันกับญาติของผู้เสียชีวิต ทำให้ลูกสาวนางช่อลัดดาร้องไห้โฮออกมา อีกทั้งนายอัจฉริยะ ยังเรียกร้องให้นำกล้องวงจรปิดมาเปิดต่อหน้าสื่อมวลชน แต่ทางน.พ.พีระไม่ยอม พร้อมพยายามอธิบายถึงสาเหตุการเสียชีวิตและสาเหตุที่ทาง รพ.ไม่รับรักษานางสาวช่อลัดดา จากการเจรจาทางครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ตะโกนด่าทอใส่ตัวแทนของ รพ. ขณะที่นายอัจฉริยะ ลั่นวาจาออกมาว่า “กูจะถอนใบอนุญาติมึง”

 

ย้อนดูชัดๆ นาที "อัจฉริยะ" ปะทะเดือด ชี้หน้าด่าตัวแทนรพ. ปฏิเสธรับผิดชอบสาวถูกสาดน้ำกรด ตร.เผยความคืบหน้าคดีล่าสุด

 

 

ย้อนดูชัดๆ นาที "อัจฉริยะ" ปะทะเดือด ชี้หน้าด่าตัวแทนรพ. ปฏิเสธรับผิดชอบสาวถูกสาดน้ำกรด ตร.เผยความคืบหน้าคดีล่าสุด

 

 

ย้อนดูชัดๆ นาที "อัจฉริยะ" ปะทะเดือด ชี้หน้าด่าตัวแทนรพ. ปฏิเสธรับผิดชอบสาวถูกสาดน้ำกรด ตร.เผยความคืบหน้าคดีล่าสุด

 

 

โดยนายอัจฉริยะ กล่าวว่าหลังจากนี้จะไปร้องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ช่วยติดตามคดีนี้ และจะไปร้องต่อที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเอาผิดกับทางโรงพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะขณะเกิดเหตุไม่มีหมออยู่ประจำการ 

 


นอกจากนี้ทางด้านของพ.ญ.วัลลภา ไชยมโนวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระราม2 ได้เปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาลรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่าทางโรงพยาบาลไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธคนไข้เนื่องจากสามารถเรียกเก็บค่ารักษาได้จากทางรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ผู้ตายมีความประสงค์ที่จะไปรักษาตามสิทธิ์บัตรทอง เมื่อพยาบาลประเมินสภาพบาดแผลแล้วพบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ จึงช่วยประสานกับโรงพยาบาลปลายทางให้

 

 

จากนั้นนายอัจฉริยะได้เดินทางไป สน.ท่าข้าม เพื่อขอใบส่งศพชันสูตรสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป 

 

 

 

ย้อนดูชัดๆ นาที "อัจฉริยะ" ปะทะเดือด ชี้หน้าด่าตัวแทนรพ. ปฏิเสธรับผิดชอบสาวถูกสาดน้ำกรด ตร.เผยความคืบหน้าคดีล่าสุด

 


อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมจากทางสภ.ท่าข้ามพระราม 2  โดยทางด้านผกก.อภิรัฐ พุ่มกุมาร  ได้เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างรวดเร็ว ในวันเกิดเหตุเราได้ออกหมายจับทันที เพราะเป็นการกระทำที่รุนแรง และยังติดตามคดีอย่างใกล้ชิด มั่นจะว่าจะสามารถจับกุมผู้ลงมือก่อเหตุได้อย่างแน่นอน