ขุดหลุม "เสือดำ" ทนาย "เปรมชัย" แทงคดี ขณะเจ้าหน้าที่ลงจับนายใหญ่ไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุ ทำโซเชียลเดือด

กลายเป็นประเด็นร้อนที่ทำให้สังคมต้องจับตามองอีกครั้ง จากกรณีความคืบหน้า ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้ไต่สวนสืบพยานฝ่ายโจทก์ในดดีที่อัยการจังหวัดทองผาภูมิ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด

ขุดหลุม "เสือดำ" ทนาย "เปรมชัย" แทงคดี ขณะเจ้าหน้าที่ลงจับนายใหญ่ไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุ ทำโซเชียลเดือด

กลายเป็นประเด็นร้อนที่ทำให้สังคมต้องจับตามองอีกครั้ง จากกรณีความคืบหน้า ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้ไต่สวนสืบพยานฝ่ายโจทก์ในดดีที่อัยการจังหวัดทองผาภูมิ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด พร้อมพวกอีก 3 คน ล่าสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก โดยไม่ได้รับอนุญาต ที่ก่อนหน้านี้เรื่องราวดูเหมือนจะหายเข้ากลีบเมฆ แต่ทางภาครัฐได้ให้การยืนยันมาตลอดว่าคดียังอยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย
 
ล่าสุด นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ออกมาเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ทางทนายของนายเปรมชัยพยายามต่อสู้คดี ด้วยการพยายามนำสืบว่า ขณะเจ้าหน้าที่จับกุม นายเปรมชัยไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุที่พบการล่าเสือดำ แต่ทางกรมฯ ยืนยันว่าไม่วิตกแต่อย่างใด เพราะมั่นใจว่าศาลจะยึดตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ไม่สามารถบิดเบือนได้อย่างแน่นอน
 
อย่างไรก็ตามได้นำมาซึ่งคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์ ขณะเดียวกัน น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ดาราและพิธีกรชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความบนเฟสบุ๊กส่วนตัวระบุว่า จากหลักฐานที่เป็นภาพถ่าย พบว่านายเปรมชัยอยู่ที่เกิดเหตุจริง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเงินค่าจ้างทนายในคดีดังกล่าวน่าจะแพงมาก จึงสามารถซื้อจิตวิญญาณและจิตสำนึกคนได้ และหากไม่เป็นความจริง ตนขอเรียกร้องให้ทนายความของนายเปรมชัย ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวด้วยเพื่อความชัดเจน พร้อมกันนั้นได้มีผู้เข้ามาผสมโรงออกมาแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นการเสียดสีและประณาม ทั้งทนายความและนายเปรมชัยอย่างเผ็ดร้อน

 

ขุดหลุม "เสือดำ" ทนาย "เปรมชัย" แทงคดี ขณะเจ้าหน้าที่ลงจับนายใหญ่ไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุ ทำโซเชียลเดือด

ขุดหลุม "เสือดำ" ทนาย "เปรมชัย" แทงคดี ขณะเจ้าหน้าที่ลงจับนายใหญ่ไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุ ทำโซเชียลเดือด

สำหรับรายละเอียดคดีอาญาหมายเลขดำที่ 219/2567  มีจำเลยทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 นางนที เรียมแสน จำเลย ที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 ใน 6 ข้อหา คือ

1. ฐานร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต 

2. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 

3. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 

4. ฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต 

5. ฐานร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย 

6. ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
 
หลังการพิจารณาคดีทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยได้ทยอยเดินออกมาจากศาล โดยนายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 ได้มาพร้อมกับนายวิเชียร ชิณวงษ์ โดยที่นายวิเชียร ได้ขอตัวกลับที่ทำการสำนักงานเขตฯ โดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ส่วนนายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 ได้เปิดเผยว่า กรณีจำเลยที่ 1 ขออ่านคดีลับหลังก็สามารถทำได้ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย และช่วงนี้จำเลยที่ 1 ไม่ต้องเดินทางมาที่ศาลจนกระทั่งสืบพยานฝ่ายโจทก์เสร็จ และระหว่างนี้จำเลยที่ 1 จะเดินทางมาศาลก็ได้หรือไม่เดินทางมาก็ได้ เพราะเป็นการพิจารณาคดีลับหลังของจำเลยที่ 1 แต่เมื่อถึงวันนัดสืบพยานฝ่ายจำเลย จำเลยที่ 1 จะต้องเดินทางมาทุกนัด

ขุดหลุม "เสือดำ" ทนาย "เปรมชัย" แทงคดี ขณะเจ้าหน้าที่ลงจับนายใหญ่ไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุ ทำโซเชียลเดือด

ส่วนกรณีการสืบพยานหัวหน้าวิเชียรยังไม่จบ กรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเรียกค่าเสียหาย จากจำเลยเป็นเงินกว่า 12 ล้านบาทนั้น เรื่องนี้ก็เป็นหน้าที่ของกรมอุทยาน ซึ่งในส่วนของอัยการเองก็จะทำตามหน้าที่ 
 
สำหรับการอ่านคดีลับหลังของนายเปรมชัย ผู้ตกเป็นจำเลยที่ 1 ทางทนายความส่วนตัวกล่าวว่า "เนื่องจากท่านเป็นประธาน บริหารบริษัท จึงติดภารกิจเกี่ยวกับการบริหารประกอบกับมีโรคประจำตัวหลายอย่างต้องดูว่า การสืบพยานโจทก์จะมีอะไรคาดเคลื่อนหรือไม่เพราะว่าการสืบพยานโจทก์ใช้เวลามากพอสมควร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างอัยการซักถามพยานโจทก์ คิดว่าอัยการยังมีเนื้อหาอีกมาก ส่วนกรณีที่ทางกรมอุทยานเรียกร้องเงินค่าเสียหายกว่า 12 ล้านบาทนั้น ในเบื้องต้นได้ให้การปฏิเสธ เพราะจะสู้ในคดี ส่วนเรื่องของค่าเสียหายซึ่งศาลกำหนดไว้ให้เรายื่นเรื่องน่าจะเป็นวันที่ 6 ธ.ค. 2561 นี้ และยังคงยืนยันว่าทางฝ่ายตนนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะชนะคดีหรือไม่เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่กับศาล แต่ก็ยังไม่มีอะไรให้หนักใจ
 
อย่างไรก็ตามต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่า บทสรุปของคดีอันยืดเยื้อจะเป็นไปในทิศทางใด . . .

ขุดหลุม "เสือดำ" ทนาย "เปรมชัย" แทงคดี ขณะเจ้าหน้าที่ลงจับนายใหญ่ไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุ ทำโซเชียลเดือด