ญาติโจรงัดบ้านถูกกระทะฟาดซึ้งเจ้าของบ้านช่วยค่ารถขนศพมาส่งให้!

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุบุกรุกบ้านแห่งหนึ่งในซอยงามวงศ์วาน 18 จ.นนทบุรี ทว่าคนร้ายเผลองีบหลับไป เมื่อเจ้าของบ้านมาเจอได้เกิดการต่อสู้กันเจ้าของบ้านคว้ากระทะฟาดหัวและตัวจนคนร้ายนอนนิ่งไป สุดท้ายพบว่าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

 

โดยที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์3ชั้นในซอยงามวงศ์วาน 18 จ.นนทบุรี  เจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงพบผู้เสียชีวิตที่ชั้นล่างของบ้าน สภาพศพเป็นชายสวมเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น ตามตัวมีรอยเขียวช้ำและมีบาดแผลที่ศีรษะ ต่อมาเจ้าของบ้านได้แสดงตัว ซึ่งมีชายหนุ่มวัย 23 ปี พร้อมด้วยบิดา ได้เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเองได้กลับเข้าบ้านมาช่วงค่ำ พบว่าข้าวของในบ้านถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย จึงค่อยๆเดินดูทั่วบ้าน ก็พบว่าประตูหลังบ้านถูกงัด 

 

 

จากนั้นตนจึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งบิดาว่าบ้านถูกงัดและเดินสำรวจบ้านต่อและขึ้นไปบนชั้น 2 ก็พบว่าคนร้ายนอนอยู่บนที่นอนภายในห้องของตน โดยมีมีดอีโต้วางอยู่บนหัวนอน ในจังหวะนั้นคนร้ายตื่นขึ้นมาพอดีก็ตกใจหยิบมีดอีโต้เข้ามาไล่ฟัน ตนจึงวิ่งหนีและพยายามหาสิ่งของรอบตัวมาเป็นอาวุธ จนไปคว้าเอากระทะเหล็กมาได้จึงใช้ฟาดเข้าที่ศรีษะของคนร้ายอย่างแรง จนล้มลงนอนแน่นิ่ง 

 

 

 

 

จากนั้นพ.ต.อ.อริยะ พันธุฟัก ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นจะให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน ส่วนจะแจ้งข้อหาหรือไม่คงต้องรอให้สอบสวนเพิ่มเติมครบถ้วนก่อน ต้องเร่งให้ชุดสืบสวนส่วนลงพื้นที่หาข้อมูล จากนั้นจึงมอบผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิตเพื่อชันสูตร

 

ต่อมามีประเด็นร้อนเกิดขึ้นเมื่อตำรวจตั้งข้อหานายทรงวุฒิ ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ซึ่งนายทรงวุฒิยอมรับว่ามีการต่อสู้กัน หากไม่สู้ก็คงต้องตาย จึงต้องป้องกันตัว 

ซึ่งทางพ.ต.อ.อริยะ พันธุฟัก ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี กล่าวว่า ตำรวจได้สอบปากคำนายทรงวุฒิโดยละเอียดพร้อมแจ้งข้อหาฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายแล้ว แต่จะสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากเป็นเจ้าของบ้านและต่อสู้เพื่อป้องกันตัวและได้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องประกันตัว

 

 

ล่าสุดมีการสัมภาษณ์ญาติของผู้ก่อเหตุ ซึ่งทางญาตินั้นไม่ติดใจเอาความกับเจ้าของบ้าน อีกทั้งยังบอกด้วยว่าเจ้าของบ้านยังช่วยเหลือเรื่องค่ารถขนศพของผู้ก่อเหตุมาส่งให้ทางบ้านเพื่อนำไปประกอบพิธี โดยเป็นเงินค่าขนส่งศพจากกรุงเทพฯไปส่งยังจ.ศรีสะเกษ เป็นจำนวนเงิน 13,000 บาท ด้วย

 

 

นอกจากนี้ญาติยังเปิดเผยว่าผู้ก่อเหตุนั้นยืนยันตัวแล้วว่าเป็นญาติของตนจริงแต่หนีหายออกจากบ้านไปนานว่า 20 ปีแล้ว ตอนเห็นศพเสียใจมากและไม่คิดมาก่อนว่าผู้ก่อเหตุจะมาเป็นโจรเพราะเมื่อก่อนไม่เคยมีนิสัยลักขโมยแถมเคยบวชเรียนมาตั้งแต่คุณแม่เสีย พอสึกก็เดินทางจากจ.ศรีสะเกษมาทำงานในกรุงเทพฯและจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย