หนุ่มสิบแปดมงกุฎอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอหลอกตุ๋นเงิน

   เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายปรีชา สมภาร หรือสมทรัพย์ ทวีกุล อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 207 ม.1 ต.บ้านมาง อ.เชียงม่วน จ.พะเยา ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่237/2560 ลงวันที่ 19 เมษายน 2560 ข้อหา ฉ้อโกงทรัพย์ จับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถหลัง ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ภายใน ซ.โยธินพัฒนา 3 แยก 8 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ
 

รวบตัว"หนุ่มวัย28ปี" เเอบอ้างเป็น"ดีเอสไอ" หลอกลวงรีดไถ"ปชช." สามารถพาเข้าฝากงานได้ (คลิป)

 


    สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นปี 2560 ที่ผ่านมา นายปรีชาได้มีพฤติการณ์แอบอ้างตัวว่าเคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ก่อนจะไปหลอกลวงผู้เสียหายรายหนึ่งว่าสามารถพาฝากเข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ได้ แต่มีข้อแม้ผู้เสียหายจะต้องยอมจ่ายเงินจำนวน 1.7 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ทั้งนี้ผู้เสียหายเห็นว่านายปรีชา มีการแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ จริง และมีบุคลิกน่าเชื่อถือ จึงหลงเชื่อยอมจ่ายเงินให้ดังกล่าว แต่ต่อมาเมื่อถึงกำหนดนัดหมายที่จะเริ่มเข้าทำงาน

 

รวบตัว"หนุ่มวัย28ปี" เเอบอ้างเป็น"ดีเอสไอ" หลอกลวงรีดไถ"ปชช." สามารถพาเข้าฝากงานได้ (คลิป)

 

    รวบตัว"หนุ่มวัย28ปี" เเอบอ้างเป็น"ดีเอสไอ" หลอกลวงรีดไถ"ปชช." สามารถพาเข้าฝากงานได้ (คลิป)

 

 

    นายปรีชากลับยังไม่สามารถพาฝากเข้าทำงานได้สำเร็จ จึงเริ่มเอะใจและได้ไปทำการตรวจสอบข้อมูลที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำให้ทราบความจริงว่าตนเองนั้นถูกหลอกและนานปรีชานั้นก็ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจริงตามที่กล่าวอ้าง จึงเข้าแจ้งความเอาผิด ที่สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กระทั่งมีการออกหมายจับดังกล่าว นอกจากนี้จากแนวทางสืบสวนยังทราบอีกว่า นอกจากนายปรีชา จะใช้วิธีการแอบอ้างพาฝากเข้างานที่กรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว ยังมีพฤติกรรมหลอกรับซื้อดาวน์รถก่อนเชิดหนีไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย อย่างไรก็ตามต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่านายปรีชา นั้นกบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ย่านรามอินทรา จึงนำกำลังเข้าทำการจับกุมตัวได้ดังกล่าว

 

 

รวบตัว"หนุ่มวัย28ปี" เเอบอ้างเป็น"ดีเอสไอ" หลอกลวงรีดไถ"ปชช." สามารถพาเข้าฝากงานได้ (คลิป)

 

จากการสอบสวน นายปรีชา ให้การรับสารภาพ โดยยอมรับว่าต้องการนำเงินไปใช้เที่ยวเตร่ทั่วไป ที่ผ่านมาเคยทำมาแล้วหลายครั้ง ทั้งนี้ภายหลังจากเกิดเรื่องด้วยความที่กลัวว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวได้ จึงยอมใช้ชีวิตแบบเร่ร่อน ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาศัยการเปิดห้องพักรายวันตามโรงแรมต่างๆสลับผลัดเปลี่ยนไม่ให้ซ้ำกันเพื่อให้ยากต่อการติดตาม จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว เบื้องต้นจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง เพื่อดำเนินคดีต่อไป