พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงวันเลือกตั้ง ปี 2562 ที่กำหนดให้เป็นวันที่ 24 มี.ค. 62 รู้ชื่อบัญชีนายกฯ 4-8 ก.พ.

จากกรณีที่วันนี้ (23 ม.ค.2562) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ.2562 โดยมีรายละเอียดดังนี้  สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นการเลือกตั้งทั่วไป อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 และมาตรา 268 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

 

มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการทั่วไป พ.ศ.2562

 

มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

 

มาตรา 3 ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นการเลือกตั้งทั่วไป

 

มาตรา 4 ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

 

หมายเหตุ : เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 268 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้ดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญตามมาตรา 267 (1) (2) (3) และ (4) มีผลใช้บังคับแล้ว สมควรกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นการเลือกตั้งทั่วไปจึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

 

 

 

ประกาศชัดแล้ว! กกต.แถลงวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. รู้ชื่อบัญชีนายกฯ4-8 ก.พ.

 

ต่อมพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ได้ออกมา เปิดเผยภายหลังมีการประกาศพระราชกฤษกีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปในราชกิจจานุเบกษาว่า วันนี้ เวลา 13.00 น. คณะกรรมการ กกต. มีวาระการประชุมเพื่อพิจารณา และจะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมเพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง ส.ส. และภายหลังการประชุม นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. จะแถลงขั้นตอนการเตรียมความพร้อมการจัดการเลือกตั้ง ล่าสุดมีรายงานออกมาแล้วว่าทาง กกต. ได้สรุปเอาวันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นวันเลือกตั้ง วันรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง วันที่ 4-8 ก.พ. ซึ่งเป็นวันที่พรรคการเมืองส่งรายชื่อแบบบัญชีรายชื่อพร้อมแนบชื่อบุคคลเป็นายกรัฐมนตรี โดยที่ยื่นกกต.แจ้งวัฒนะ ส่วนประกาศรายชื่อผู้สมัคร 15 ก.พ. ลงคะแนนนอกราชอาณาจักร วันที่ 4 -16มี.ค. ลงคะแนนนอกเขต 17 มี.ค. ซึ่งขั้นตอนต่อเตรียมส่งรัฐบาลประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยนายอิทธิพรได้นำแถลงต้องมีการลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกราชอาณาจักรและนอกเขตเลือกตั้ง และจะประกาศใน3วันถึงสถานที่วันรับสมัคร คือจะประกาศให้ทราบในวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้กกต.มติเสียงข้างมาก  ไม่ใช่เอกฉันท์ เพราะมีเสียงส่วยน้อยเสนอวันที่10 มี.ค. แต่หากเป็นวันที่ 10 มี.ค.เกรงว่าจะกระชั้นไปในแง่ของการให้พรรคการเมืองหาเสียง ย้ำวันที่ 24 มี.ค. เหมาะสมกับการให้แต่ละพรรคจัดตั้งสาขาพรรคและตัวแทนพรรคได้ทันตามกำหนด  รวมถึงมั่นใจประกาศผลได้ภายใน 60 วันตามบทบัญญัติกฎหมาย โดยถ้าเสร็จก่อนก็ไม่จะเป็นต้องรอนานถึง 60 วัน

 

ขณะที่สำนักนายกรัฐมนตรีออกแถลงการณ์ เรื่อง การเลือกตั้งทั่วไป โดยเป็นภาษไทย 1 ฉบับ และภาษาอังกฤษ 1 ฉบับ ระบุว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2562 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้นำ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลใช้บังคับแล้ว ผลก็คือภายใน 5 วันนับแต่วันนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดวันเลือกตั้ง วันรับสมัครเลือกตั้งแบบแบ่งเขต จำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี จำนวนเขตเลือกตั้งแต่ละจังหวัด และสถานที่ที่พรรคการเมืองจะส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ เป็นไปตามมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. นอกจากนั้นวิธีการหาเสียงเลือกตั้ง ตลอดจนระยะเวลาในการคำนวณค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง จะต้องปฏิบัติและเริ่มนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตามาตรา 173 น่าจะเป็ฯการยุติความลังเลสงสัยได้ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ และเมื่อใด

 

การกำหนดวันเลือกตั้งเป็นอำนาจของ กกต. แต่การประสานงานระหว่างรัฐบาล กับ กกต. เป็นหน้าที่ของรัฐบาลซึ่งเท่าที่ผ่านมาได้ประสานเพียงเท่าที่จำเป็นต่อการแจ้งข้อมูลให้ กกต. ทราบถึงกำหนดการและกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกทั้งที่จะมีขึ้นก่อน ระหว่างพระราชพิธี และภายหลังพระราชพิธี เพื่อไม่ให้กิจกรรมเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ที่จะต้องดำเนินการภายหลังวันเลือกตั้ง บางเรื่องสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมอยู่แล้ว ไปทับซ้อนหรือเสี่ยงต่อการทับซ้อนกับกำหนดการพระราชพิธีดังกล่าว หรือพระราชพิธีประจำปีในเรื่องอื่น ๆ เช่น พระราชพิธีสงกรานต์ พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา ตลอดจนเพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับรู้เพื่อจะได้ช่วยกันรักษาบรรยากาศ ในระหว่างนั้นมิให้เกิดความสับสน ความขัดแย้ง หรือเสียความตั้งใจดี และการมีจิตอาสาสาธารณะ เพราะประชาชนทั่วไปกำลังปลื้มปิติยินดีมีสมานฉันท์ในอันที่จะได้มีโอกาสร่วมในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์อันหาได้ยากอีกครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่พระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อ พ.ศ. 2493 เป็นต้นมา

 

สำนักนายกรัฐมนตรี ระบุอีกว่า รัฐบาลเชื่อว่าวันเลือกตั้งที่ กกต กำหนดขึ้นจะไม่กระชั้นชิดเกินควรจนกระทบต่อระยะเวลาหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองและผู้สมัคร และไม่ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างผู้ใด ทั้งจะไม่ช้าเกินควรจนเกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่ประเทศชาติ และประชาชน เพราะอย่างไรก็ไม่ยาวนานกว่า 150 วันนับจากวันที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลใช้บังคับอยู่แล้ว หมายความว่าการมี ส.ส. และรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะเกิดขึ้นในราวกลางปีนี้อันเป็นไปตามกำหนดการที่วางไว้เมื่อหลายเดือนก่อน

 

รัฐบาลขอให้ประชาชนช่วยกันรักษาบรรยากาศความสงบเรียบร้อย และความสามัคคีปรองดองดังที่ปรากฏตลอดระยะเวลา 4 ปีเศษที่ผ่านมาให้ยั่งยืนต่อไป จนผ่านพ้นการเลือกตั้งและการจัดพระราชพิธีบรมราชภิเษก เพื่อความเป็นสวัสดิมงคลแก่บ้านเมือง และเป็นที่ชื่นชมยินดีของนานาชาติ การหาเสียงเลือกตั้ง การชี้แจงนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ย่อมทำได้ตามวิถีทางประชาธิปไตย เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด และเป็นไปได้จริงแก่ประชาชน แต่ความขัดแย้ง ข้อพิพาทบาดหมางจนนำไปสู่วิกฤติของบ้านเมืองดังในอดีต ไม่ควรจะย้อนกลับมาหลอกหลอนเราอีก ขณะเดียวกันขอให้พี่น้องประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งช่วยกันออกไปใช้สิทธิให้มากที่สุดให้สมกับที่รอคอย โดยขอให้มีความรู้เท่าทันผู้สมัคร และมีความเข้าใจวิธีการเลือกตั้งแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างไปจากเดิม รัฐบาลหวังว่า กกต. และทุกฝ่ายจะช่วยกันใช้เวลาทีมีอยู่นับแต่นี้ไป สร้างความรับรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องเหล่านี้แก่ประชาชน เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งแรกนี้เป็นไปอย่างเรียบร้อย บริสุทธิ์ และยุติธรรมสมตามความมุ่งประสงค์ของพวกเราทุกคน

 

ประกาศชัดแล้ว! กกต.แถลงวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. รู้ชื่อบัญชีนายกฯ4-8 ก.พ.