เตือน! คนฉีดฟิลเลอร์-โบท็อกซ์ เจอฝุ่น PM2.5 ทำหน้าอักเสบถึงผิดรูป

พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ไม่มีผลกระทบโดยตรงกับการฉีดฟิลเลอร์ หรือ โบท็อกซ์ใดๆ ทั้งสิ้น แต่การเกาจากอาการคัน บริเวณที่ได้ฉีดฟิลเลอร์ต่างหากที่เป็นตัวการ 

จึงอยากเตือนกลุ่มคนที่ฉีดฟิลเลอร์ หากมีอาการคัน พยายามอย่าเกา อาจทำให้เสียทรงได้ ส่วนโบท็อกซ์อาการจะคล้ายกัน แต่จะไม่เสียทรงเหมือนฟิลเลอร์ โดยส่วนใหญ่จะเป็นอาการอักเสบ

 

เตือน! คนฉีดฟิลเลอร์-โบท็อกซ์ เจอฝุ่น PM2.5 ทำหน้าอักเสบถึงผิดรูป

 

โดยปกติ หลังการฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะแนะนำไม่ให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมที่จะกระทบกระเทือน  บริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เช่น ไม่ให้นวดหน้า ถูหน้าแรงๆ ไม่ให้ทำเลเซอร์ เป็นต้น เพื่อรอให้สารเติมเต็ม มีการเซตตัวให้คงที่ตรงจุุดที่ฉีด ตามความต้องการ การไปรบกวนบริเวณนั้น เช่น การเกา ก็อาจจะทำให้การเซตตัวของสารเติมเต็มผิดรูปได้ จึงควรระมัดระวังในประเด็นนี้ให้มาก ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่มีหรือไม่มีฝุ่น PM 2.5 มากหรือน้อย 

 

เตือน! คนฉีดฟิลเลอร์-โบท็อกซ์ เจอฝุ่น PM2.5 ทำหน้าอักเสบถึงผิดรูป

 

เพราะฉะนั้น ถ้าจะตอบคำถามว่า ช่วงนี้ซึ่งมีข่าวเรื่องฝุ่น PM 2.5 มาก จะฉีดฟิลเลอร์ หรือ ทำหัตถการทาง ผิวหนังได้หรือไม่ และควรระวังอะไรตอบได้เลยว่า ทำได้ตามปกติ เพียงแต่ให้ระมัดระวัง "อย่าเกา" ไม่รบกวนผิวหนังจุดที่ทำเท่านั้นค่ะ


ขณะที่สถานการณ์ผู้ป่วยโรคผิวหนัง เช่น ผื่น ภูมิแพ้ ที่มาหาหมอสถาบันโรคผิวหนัง ในช่วงเดือนนี้ ที่มีปัญหาฝุ่นควัน กลับไม่พบสถานการณ์รุนแรง หรือผู้ป่วยมากขึ้น ที่สำคัญประชาชนต้องดูแลสุขภาพ กลับจากทำงานเข้าบ้านให้รีบทำความสะอาดร่างกาย และในกรณีคนที่ฉีดฟิลเลอร์มาใหม่ๆ ควรหลีกเลี่ยงฝุ่นอย่างน้อย 2 สัปดาห์

 

เตือน! คนฉีดฟิลเลอร์-โบท็อกซ์ เจอฝุ่น PM2.5 ทำหน้าอักเสบถึงผิดรูป