หนุ่มเพี้ยน "แฮรี่พอตเตอร์" ยังไม่เข็ด ย่องเบาฉกเสื้อ-ถ้วยชามกลางดึก ชาวบ้านผวา เกรงคลุ้มคลั่งอาละวาด

กลับมาอีก !!! หนุ่มเพี้ยน แฮรี่พอตเตอร์ ย่องกลางดึก ฉกเสื้อ ถ้วยชาม ถึงหน้าบ้าน วอนหน่วยงานเกี่ยวข้อง นำตัวไปรักษา เกรงจะคลุ้มคลั่งทำร้ายชาวบ้าน

กรณีที่หนุ่มวัย 35 ปี ที่มีอาการคล้ายคนป่วยทางสมอง ได้ก่อกวน สร้างความวุ่นวาย และทำลายข้าวของภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เข้าตรวจสอบและนำตัวไปส่งที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

ความคืบหน้าวันนี้ (11 ก.พ.62) นายกัณฑ์อเนก สระภูริพงศ์ อายุ 24 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 62 ถนนศรีธรรมราช ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ไนำคลิปกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพขณะหนุ่มรายดังกล่าว ก่อเหตุบุกหน้าบ้านกลางดึก และแอบฉกเสื้อยอดคอกลม และถ้วย – ชาม จำนวนหนึ่ง ที่วางอยู่หน้าบ้าน ตรวจสอบเป็นคลิปพบว่าเมื่อเวลาประมาณ 00.30 ของวันที่ 10 ก.พ.ที่บันทึกหนุ่มเพี้ยนคนดังกล่าว เดินข้ามถนนฝั่งตรงข้าม ตรงมาที่บริเวณหน้าบ้าน โดยที่ไม่สวมเสื้อ แต่นุ่งผ้าขาวม้า และถือไม้กวาดกับถังน้ำ ก่อนจะหยิบเสื้อยืดคอกลมที่วางอยู่บนแคร่หน้าบ้าน นำมาคลี่ออกแล้วสวมใส่ จากนั้นเดินตรงไปที่กองถ้วย ชาม และเครื่องครัวที่วางอยู่ แล้วหยิบถ้วย ชามประมาณ 2 – 3 ใบ แล้วเดินหนีไป

 

 

 

นายกัณฑ์อเนก เจ้าของคลิป เล่าว่า เมื่อช่วงเวลา 00.30 คืนวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา ขณะนอนอยู่ในบ้าน ปรากฏว่าได้ยินเสียงสุนัขหลายตัวส่งเสียงเห่าอยู่บริเวณหน้าบ้าน จึงลุกขึ้นออกมาดูและพบว่ามีหนุ่มคนดังกล่าว ยืนอยู่หน้าบ้าน ตนจึงถามกลับไปว่ามาทำอะไร หนุ่มคนดังกล่าว จึงตอบกลับมาว่าเป็นคนกวาดขยะเทศบาล ฯ แล้วเดินหนีไป ตอนนั้นตนไม่กล้าเปิดประตูบ้านออกไป เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย เพราะหนุ่มคนดังกล่าว มีท่าทางแปลก กระทั้งเช้าพบว่ามีสิ่งของหายไป จึงตรวจสอบคลิปกล้องวงจรปิดหน้าบ้าน และพบว่าหนุ่มคนดังกล่าวหยิบไป อย่างไรก็ตามสิ่งของที่หายไปมีค่าเพียงเล็กน้อย จึงไม่ได้ไปแจ้งความกับตำรวจ

 

 

นายกัณฑ์อเนก เล่าอีกว่า ตนมาทราบภายหลังว่าหนุ่มคนดังกล่าว เป็นคนเดียวที่ไปก่อกวน สร้างความวุ่นวายและทำลายข้าวของภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เมื่อ 2 – 3 วันก่อน และน่าจะมีอาการป่วยทางสมอง และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับและนำตัวไปส่งที่โรงพยาบาลแล้ว แต่หนีออกมาอีก ส่วนตัวตนมองว่าพฤติกรรมของหนุ่มคนดังกล่าวที่พบช่วงกลางดึกที่หน้าบ้าน ไม่น่าจะเป็นคนป่วยทางสมอง เพราะพูดคุยปกติ ที่สำคัญหยิบเสื้อยืดของตนที่วางบนแคร่หน้าบ้าน ก่อนจะคลี่เสื้อยืดดูสภาพ แล้วสวมใส่ อย่างเช่นคนปกติ จึงคิดว่าหนุ่มคนดังกล่าวอาจจะแกล้งทำทีบ้า นอกจากนี้ตนยังทราบมาอีกว่าหนุ่มรายนี้ เคยแกล้งข้ามถนนให้รถยนต์ชนบนถนนราชดำเนินหน้าวัดพระมหาธาตุฯ และมีการเรียกค่าเสียหายกับเจ้าของรถยนต์อีกด้วย ตนจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบดำเนินการ หากหนุ่มรายนี้มีอาการป่วยทางสมองจริงๆ ก็ขอให้นำตัวไปบำบัดรักษาที่โรงพยาบาล เพราะหากปล่อยไว้แบบนี้ วันใดวันหนึ่งเกิดสร้างความวุ่นวายทำลายข้าวของหรือทำร้ายชาวบ้านได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตก็เป็นได้  

 

 

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ว่าหนุ่มรายนี้กลับมาอยู่ภายในวัดหรือไม่ แต่ไม่พบตัวหนุ่มรายนี้ และพบเจ้าหน้าที่ รปภ.วัด ให้ข้อมูลว่า หนุ่มคนดังกล่าว ได้กลับมาที่วัดอีกเมื่อวันที่ 10 ก.พ. หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับตัวไปส่งโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ตนจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง หากหนุ่มคนดังกล่าวมีอาการป่วยทางสมองจริง ก็ให้นำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี เพราะหากปล่อยไว้อาจจะเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยวได้ เพราะไม่มีใครรู้ได้ว่าหนุ่มคนนี้จะเกิดอาการคลุ้มคลั่งอีกเมื่อไร  

 

 

 

ชชาดล เจริญพงศ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดนครศรีธรรมราช