ทักษิณขุดต้มยำกุ้ง พูดความจริงไม่แท้??? ยกคำสอน โลภทำให้พลาด ครอบครัวเดือดร้อน!?!

ทักษิณขุดต้มยำกุ้งปี40 จ้อพูดความจริงไม่แท้ก่อนยกคำสอนท่านพุทธทาส โลภทำให้พลาด ครอบครัวเดือดร้อน

ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องสำหรับอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งผู้ต้องหาหนีคดี โดยล่าสุดวันนี้(25 ก.พ.62) นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ที่มีหมายจับคดีทุจริตคอร์รัปชั่นอยู่หลายคดี ได้จัดรายการ กู๊ด มันเดย์ (Good Monday) ตอน “คิดให้เป็น ตัดสินใจด้วยข้อมูล” โดยมีการะบุถึงช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง เรื่องค่าเงินบาท และความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น รวมทั้งยังได้นำหลักธรรมคำสอนของท่านพระพุทธทาสภิกขุ ขึ้นมากล่าวไว้ในรายการด้วย จึงทำให้น่าสนใจว่า อดีตนายกฯผู้นี้มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องธรรมะมากน้อยแค่ไหน จริงเท็จอย่างไร??? โดยเฉพาะในเรื่องของความโลภอันเกิดจากการกระทำที่ส่งผลให้คนรอบข้างต้องได้รับผลไปด้วย ซึ่งต้องมาดูและตัดสินใจร่วมกันว่า ผู้ต้องหาหนีคดีอย่างทักษิณ เรียนรู้เรื่องเหล่านี้แท้จริงหรือแค่เปลือกนอก?!! 

 

กระนั้นลองมาดูเนื้อหาบางส่วนที่นายทักษิณ ได้กล่าวไว้ดังนี้  สวัสดีครับพี่น้องที่เคารพรักครับ วันนี้พบกันอีกครั้งหนึ่ง วันนี้ผมอยากจะพูดเรื่อง วิธีคิด เพราะวิธีคิดมันเป็นหัวใจสำคัญของเราที่จะทำให้เราก้าวหน้าหรือผิดพลาดแล้วมันไม่ได้เกิดเฉพาะตัวเรา มันจะมีผลต่อครอบครัวเราด้วย เพราะฉะนั้นก็เลยอยากพูดเรื่องวิธีคิด แต่ก่อนพูดถึงวิธีคิดก็เริ่มต้นด้วยวัฒนธรรมองค์กร

 

ยกตัวอย่างที่เกิดขึ้นในปี 1997 ต้นต้มยำกุ้ง คือเราไม่ยอมปรับค่าเงิน ให้มันเป็นความเป็นจริง เรายืนค่าเงินแข็งอยู่ ผลสุดท้ายถูกโจมตี พังเลยตอนนั้น เป็นหนี้เป็นสินต้องไปกู้หนี้ IMF มาเป็นหลายแสนล้านบาท นั่นคือสิ่งที่เขาเรียกว่าต้องเปลี่ยนก่อนถูกบังคับให้เปลี่ยน ถ้าเราไม่ได้เปลี่ยนก็ถูกเขากระแทกต้องเปลี่ยนพังเลย นี่คือสิ่งที่อยากจะบอกว่านักธุรกิจทุกคนที่ตั้งบริษัทใหม่ๆ ขึ้นมา ต้องเริ่มสร้างวัฒนธรรมที่ถูกต้อง วัฒนธรรมที่ถูกต้องก็คือวัฒนธรรมของการใฝ่รู้ ขยันที่จะเรียนรู้ แล้วก็ปรับปรุงตัวเองตลอดเวลา แล้วก็ต้องให้ทุกคน มีความสามัคคีปรองดองกัน

 

 

 

ทักษิณ ชินวัตร

 

สิ้นกระแสความนั้น จนสิ้นสุด คือไม่มีความสงสัยแล้ว หมดความสงสัยแล้ว ถึงจะมาพิจารณาว่าผิดหรือไม่ผิด เพราะฉะนั้นถ้าไม่สามารถพิสูจน์ได้ ก็ยังไม่ตัดสินใจ นั่นคือสิ่งที่หลักสมัยโบราณยังไม่มีวิทยาศาสตร์  แต่วันนี้วิทยาศาสตร์ชัดเจน ทำวิจัยก็ดีอะไรก็ดี เขาก็บอกว่าขอให้พิสูจน์แบบชนิดที่สิ้นกระแสความ หรือว่าจะวิทยาศาสตร์มาตอบ ก็ตอบให้ชัดเจนว่ามันเป็นอย่างนี้ ตอนสมัยทำการเมืองก็เหมือนกัน ทำโพลทุกรอบ เพราะฉะนั้นผมจะไม่เดาว่าถ้าเราไปถึง คนก็จะเชียร์ เราก็นึกว่าดีหรือเปล่า ไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ๆ ก็ต้องทำโพลหรือทำวิจัย อันนี้คือหลักที่ผมคิดมาตลอดว่า ทุกอย่างต้องคำตอบทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น

 

เพราะฉะนั้นคิดว่าวิธีคิดหรือการพัฒนาวิธีคิดของคนไทยสำคัญ เพราะจะเสียเปรียบ ถ้าคนไทยคิดเป็น เพราะระบบการเรียนการสอน สอนให้ท่องจำมานานเกินไป สุดท้ายมันไม่สร้างวิธีคิด เพราะฉะนั้นวันนี้ถ้าอยากจะให้ลูกหลานเก่งในอนาคตข้างหน้า หรือลูกหลานปัจจุบันไม่สายเกินไป อ่านหนังสือ มีเหตุมีผลกับวิทยาศาสตร์แล้วจะได้เชื่อในสิ่งที่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เชื่อเพราะบอกมา เหมือนที่พระพุทธเจ้า ปิดท้ายพระพุทธเจ้าบอกว่า กาลามสูตร 10  อย่าเชื่อเพราะว่าคนที่พูดเป็นครูบาอาจารย์ คือฟังได้ทุกคน แต่ว่าอย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าได้คำตอบที่เป็นวิทยาศาสตร์  มีเหตุมีผลถึงค่อยเชื่อ อย่างนั้นจะได้ฝึกวิธีคิด

 

ทั้งนี้นายทักษิณ ได้กล่าวปิดท้ายด้วยคำสอนของท่านพระพุทธทาส ที่บอกว่า โลภ โกรธ หลง ทำให้เป็นม่านบังตา หรือทำให้โง่ ก็คือว่าถ้าเมื่อไหร่ ต้องตัดสินใจบนพื้นฐานของความโลภ ความโกรธ และความหลง มันจะทำให้ตัดสินใจผิดพลาดได้ เพราะ   มันเป็นม่านบังตาให้ขาดความคิดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ เพราะฉะนั้นขอให้คิดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ แล้วจะได้คำตอบที่ถูกต้อง เป็นทางเดินของชีวิต ที่ถูกต้อง คิดถูกสำเร็จ แล้วคนรอบตัวก็จะมีความสุขและสำเร็จไปด้วย ถ้าคิดผิดคนรอบตัวเราก็จะทุกข์และก็ลำบากไปด้วย

 

ชวลิตร ยงใจยุทธ

 

นั่นเป็นข้อความเนื้อหาบางส่วนที่สำคัญซึ่งนายทักษิณ ได้หยิบยกมากล่าวอ้างโดยเฉพาะเรื่องต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 ซึ่งได้อ้างถึงการที่ไทยไม่ยอมเปลี่ยน ไม่ยอมปรับค่าเงินบาททำให้เจ๊งระนาวกันไปอย่างมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่อดีตนายกฯผู้นี้ไม่ได้บอกก็คือ เหตุการณ์ในวันนั้นมีใครได้ผลประโยชน์หรือไม่???หรือมีใครบางคนที่ล่วงรู้ถึงเหตุการณ์วิกฤติที่จะเกิดขึ้น ลองมาย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ที่ทำให้ไทยต้องสูญเสียเอกราชทางเศรษฐกิจแบบเบ็ดเสร็จให้แก่ไอเอ็มเอฟ เพื่อแลกกับเงินกู้ 1.72 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และนำไปสู่การ “ลอยตัว” ค่าเงินบาท

 

ต้มยำกุ้งปี 2540 ไม่ใช่วิกฤติทางเศรษฐกิจแรกที่ไทยเคยเผชิญ แต่เป็นวิกฤติที่หนักหนาสาหัสที่สุด สาเหตุคือ 1.ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสะสม ตั้งแต่ ปี2530-2539 สูงถึง 14,350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯควบคู่กับการขาดดุลการค้า ขาดดุลงบประมาณ 2. หนี้ต่างประเทศสูงถึง 109,270 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 3.การลงทุนเกินตัว ก่อให้เกิดฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์ 4. ประสิทธิภาพสถาบันการเงินอ่อนแอ 5. การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจผิดพลาด 6.การโจมตีค่าเงินบาทของ จอร์จ โซรอส เจ้าของกองทุนเก็งกำไร Quantum

 

ผลกระทบทางเศรษฐกิจเพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือจำนวนมาก ไทยต้องปิดสถาบันการเงิน 56 แห่ง จากทั้งหมด 58 แห่ง ธนาคารพาณิชย์เกือบครึ่งถูกเปลี่ยนมือจากสมบัติของทุนไทยไปเป็นของต่างชาติ ที่เหลืออยู่ก็มีกระทรวงการคลังถือหุ้น ตามมาตรการ 14 สิงหาคม 2541 ในขณะที่รัฐบาลต้องรัดเข็มขัด ตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็น ตัดงบทุนทุกด้าน การใช้งบประมาณถูกใช้จ่ายอย่างจำกัด ต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ เพื่อหาเงินมาชำระหนี้ ตลอดจนออกกฎหมายที่เอื้อต่อการลงทุนจากต่างประเทศ ภาคเอกชนอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจบ้านจัดสรรปิดกิจการจำนวนมาก พนักงานถูกปลดระนาว หนี้สินท่วมตัว

 

นักการเมือง

 

ขณะที่ผลกระทบทางการเมืองพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ต้องลาออกจากนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2540 โดยนายชวน หลีกภัย เป็นผู้รับไม้ต่อนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 2 ในวันถัดไป พร้อมเอา นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ มานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นแม่ทัพแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2540 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อภิปรายพาดพิงไปถึงนายโภคิน พลกุล ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในเวลานั้น โดยตั้งข้อสงสัยว่านายโภคิน จะนำมติจากที่ประชุมลับ เรื่องการลดค่าเงินบาท ไปบอก นายทักษิณ ชินวัตร ทำให้บริษัทของ นายทักษิณได้ประโยชน์หรือไม่ ซึ่งประมาณ 6 ปีต่อมา นายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ประกาศคืนหนี้ไอเอ็มเอฟทั้งหมดก่อนกำหนดเมื่อปี2546 ถือว่าเป็นการประกาศเอกราชทางเศรษฐกิจ

 

อย่างไรก็ตามในห้วงเวลานั้น ตัวละครหนึ่งที่ถูกพูดถึงกันมากในเวลาต่อมา นั่นคือ นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้น และต่อมาก็ได้กลับมาเป็นรัฐมนตรีในเก้าอี้เดิมอีกครั้งในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีการประกาศลอยตัวค่าเงินบาท หรือเปลี่ยนระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทจากระบบคงที่ เป็นระบบลอยตัวแบบมีการจัดการ และผ่านมาไม่นานก็มีเสียงครหา มีการพูดกันมากว่ามีนักการเมืองรวมทั้งนักการเงินบางคนรวยเพราะ อินไซด์ ข้อมูลก่อนถึงวันลอยตัวค่าเงินบาท ทำให้นายทนงตั้งคำถามกลับว่า "ใครจะยอมโง่ที่จะไปเสียค่าโง่ ทุกคนรู้ว่าเงินบาทจะอยู่ไม่ได้ ใครจะไปสู้"

 

แม้วิกฤติต้มยำกุ้งจะผ่านมากว่า20ปีแล้ว แต่ก็เชื่อว่าคนไทยหลายคนยังไม่ลืมเรื่องราว ผลกระทบในเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจครั้งนั้น ซึ่งทำให้ประเทศต้องหันมากลับมาทบทวนแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยจะเห็นว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไป ได้เห็นนักลงทุน เศรษฐี นักธุรกิจหลายคนหันมายึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง มีการศึกษาอย่างจริงจัง ในขณะที่นักธุรกิจผู้ผันตัวมาเล่นการเมืองอย่าง ทักษิณ ชินวัตร นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ก้าวขึ้นมาเดินบนถนนสายการเมืองอย่างเต็มที่ จนในเวลาต่อมาได้รับการเรียกขานว่า อัศวินคลื่นลูกที่สาม

 

 

กระนั้นการก้าวเข้ามาสู่การเมืองของนักธุรกิจของนายทักษิณ แรกเดิมนั้นมีความสง่างาม มีการประกาศว่า รวยแล้วไม่โกง ในขณะที่ต่อมา ถูกดำเนินคดีในข้อหาซุกหุ้นแต่ก็รอดพ้นมาได้ด้วยเรื่องราวประโยคที่ลือสั่นนั่นคือ บกพร่องโดยสุจริต จากนั้นวงจรชีวิตก็หันเหเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีความต่างๆมากมาย โดยเฉพาะข้อหากล่าวในเรื่องทุจริตเชิงนโยบาย การเล่นแง่แปรธาตุธุรกิจครอบครัวเข้ามาพัวพันกับผลประโยชน์ทางการเมือง การใช้ตำแหน่งหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี การขายหุ้น การเสียภาษี จนในที่สุดก็ต้องหาคดีทุจริตเรื่องที่ดินรัชดาโทษจำคุก2ปีจนต้องหลบหนีคดีออกนอกประเทศมาถึงทุกวันนี้ นี่ด้วยความโลภที่นายทักษิณ พยายามสอนคนอื่นหรือไม่ ฉะนั้นการยกคำสอนของท่านพระพุทธทาสในเรื่อง ความโลภ ความหลงนั้นดูจะเข้ากันกับอดีตนายกฯเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะที่บอกว่า

 

“โลภ โกรธ หลง ทำให้เป็นม่านบังตา หรือทำให้โง่ ก็คือว่าถ้าเมื่อไหร่ต้องตัดสินใจบนพื้นฐานของความโลภ ความโกรธ และความหลง มันจะทำให้ตัดสินใจผิดพลาดได้ เพราะมันเป็นม่านบังตาให้ขาดความคิดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ เพราะฉะนั้นขอให้คิดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ แล้วจะได้คำตอบที่ถูกต้อง เป็นทางเดินของชีวิตที่ถูกต้อง เราคิดถูกเราสำเร็จ แล้วคนรอบตัวเราก็จะมีความสุขและสำเร็จไปด้วย ถ้าเราคิดผิดคนรอบตัวเราก็จะทุกข์และก็ลำบากไปด้วย”

 

นี่คือสัจธรรมจริงแท้ แต่ทักษิณ ชินวัตร ไม่เคยสำนึกรู้จริง ใช่หรือไม่ !?!

 

นักการเมือง 1

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไร้ราคา!​ Good Monday ทักษิณโหนกระแสฝุ่นพิษ​ ไม่อยู่ในสายตาสื่อหลัก โบ้ย "สาเหตุเพราะรถ" ทวนความจำ "นโยบายรถคันแรก" เป็นของใคร

สุดยอดวิชาโกง!!! ครบ 9 ปีเต็มยึดทรัพย์ “ทักษิณ” จำไม่ลืมคำสาปแช่ง สุดท้ายดาบคืนสนอง...จบสิ้น(หวัง)กลับแผ่นดินไทย

ยิ่งกว่าเชื้อโรค? ... อันตรายต่อประเทศ! "กำนันสุเทพ" ลั่น "รปช." ไม่ร่วมกับระบอบทักษิณ ย้ำ ไม่แทงกั๊กเหมือนบางพรรค!

กระชากความจริงเบื้องหลัง​ "พลังบริสุทธิ์" คนรุ่นใหม่​ของ​ธนาธร​ คือ​ เครือข่าย​ IO​ จัดตั้งของธนาธรและแนวร่วมทักษิณ

"ทักษิณ"เป็นปฏิปักษ์กับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข??