สุดยื้อชีวิต ลุงวัย 59 ปีขับ จยย.ย้อนศรตัดข้ามถนนเพื่อยูเทิร์น ถูก จยย.นศ.ชนอย่างจัง สิ้นใจก่อนถึง รพ.(คลิป)

วันนี้ (5 มี.ค.62)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.30 น.ของเย็นวานนี้ ร.ต.ท.(หญิง )กันทิมา หวังรวมกลาง พนักงานสอบสวน สภ.เมือง สุรินทร์ ได้รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถ จยย. ชนกัน บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 10 สายสุรินทร์- ปราสาท ช่วงบ้านสกร็อม ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ตรงข้ามโรงสีทรัพย์อนันต์ มีผู้บาดเจ็บสาหัส จำนวน 2 ราย และ 1 ในผู้บาดเจ็บหมดสติกลางถนน ขอให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บส่ง รพ.สร. หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วย หน่วยกู้ชีพ อบต. นอกเมือง และ เจ้าหน้าที่ศูนย์นเรนทร โรงพยาบาลสุรินทร์ รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

 

ที่เกิดเหตุอยู่กลางถนนสายสุรินทร์-ปราสาท มีประชาชน มุงดูจำนวนมาก และมี ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 จ.สุรินทร์ ซึ่งผ่านมาเห็นเหตุการณ์ ได้เข้าให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นและอำนวยความสะดวกผู้คนที่สัญจรไปมา โดย เจ้าหน้าที่พบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น MSX สีฟ้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มอยู่ เป็นรถพึ่งออกใหม่ สภาพด้านหน้าพังเสียหาย เนื่องจากชนเข้าอย่างจัง ข้างรถพบผู้บาดเจ็บสวมกางเกงวอร์มสีดำ เสื้อยืดสีขาว มีเลือดไหลอาบใบหน้า ทราบชื่อคือ น.ส.กุลกัลยา สังขะโห อายุ 17 ปี อยู่ บ.ปอยตะแบง ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 เอกเลขานุการ วิทยาลัยอาชีวะศึกษาสุรินทร์ เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือ ก่อนนำส่ง รพ. ใกล้กันพบรถ จยย.แบบผู้หญิง ยี่ห้อซูซูกิ สีดำ-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนล้มอยู่ ด้านหน้าและข้างรถพังเสียหาย ใกล้กันพบผู้บาดเจ็บสาหัสหายใจรวยริน สวมกางเกงลายพรางทหาร เสื้อเชิ้ตลายสีเทา ทราบชื่อคือ นายคัมภีร์ วรดี อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 ม.10 บ.สก็อม ต.เฉนียง (ฉะ-เนี๋ยง) อ.เมือง จ.สุรินทร์ พบว่าศีรษะฟาดพื้นอย่างแรง ทำให้หนังศีรษะเปิดเป็นแผลฉกรรจ์ขนาดใหญ่ เลือดไหลนองพื้นออกมาจำนวนมาก นอนหมดสติอยู่ เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือ ด้วยการปั้มหัวใจช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน ขณะที่ครอบครัว ญาติพี่น้อง ที่ทราบข่าวต่างเดินทางดูเหตุการณ์ และต่างร้องไห้ระงม ขณะที่ลูกสะใภ้ ถึงกับร้องไห้เป็นลมล้มฟุบอยู่ในที่เกิดเหตุ ก่อนที่ญาติพี่น้องจะพยุงไปนั่งที่เกาะกลางถนน เป็นภาพที่น่าเวทนายิ่งนัก ขณะที่รถยนต์ที่สัญจรไปมาติดขัดยาวเหยียด ส่วน จนท.กู้ภัย ก็ได้ช่วยอำนวยความสะดวกในการช่วยระบายรถและเคลียร์พื้นที่หลังนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่ง รพ.เสร็จเรียบร้อยแล้ว

 

 

 

 

เจ้าหน้าที่สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.กุลกัลยา สังขะโห อายุ17 ปี นักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ ได้ขับขี่ รถ จยย.ฮ้อนด้า สีฟ้า ออกจากตัวเมือง เพื่อที่จะกลับบ้าน ที่บ.ปอยตะแบง ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ ในขณะที่ขับมาถึงที่เกิดเหตุ นายคัมภีร์ วรดี อายุ 59 ปี หรือช่างอ็อด ได้ขับรถ จยย.ยี่ห้อซูซูกิ ขนกระเทียมถุงใหญ่ สวนเลนเข้ามา เพื่อที่จะตัดข้ามเกาะกลางถนน ไปบ้านที่ บ.สกร็อม ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ และไม่ทันเห็นรถ จยย.อีกคันขับมา จึงชนกันอย่างจังจนร่างกระเด็นหัวฟาดพื้นถนนลาดยางอย่างแรงหมดสติ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ และจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง ในการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป

 

 

 

 

ขณะที่ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ และออกมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้วิจารณ์ถึงสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเรื่องของเกาะกลางถนนที่มีระยะทางไกลเกินไป ซึ่งชาวบ้านส่วนที่ใช้รถจักรยานยนต์ในละแวกดังกล่าว มักจะใช้เกาะกลางถนนในการยูเทิร์นกลับรถเป็นประจำ รวมไปถึงไฟส่องสว่างในเวลากลางคืนที่ไม่มี ทั้งที่เป็นถนนสายหลักรถสัญจรไปมาจำนวนมาก และชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณ จะข้ามทางก็ลำบาก บ่อยครั้งที่จำต้องขับรถข้ามเกาะกลางถนน ซึ่งที่ผ่านมาก็เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งที่บริเวณดังกล่าว อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยมาแก้ไขด้วย ชาวบ้านและผู้ใช้รถใช้ถนน จะได้มีที่ไว้กลับรถใกล้ๆกว่านี้ และจะไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาอีก

 

 

 

 

ภาพ/ ทีมข่าวเฉพาะกิจสุรินทร์ และ เขมชาติ ชุณหกิจขจร

ข่าว/ รมิตา สิงหเสรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดสุรินทร์