แกนนำพรรค ปชป. ยันพรรคไม่ได้ประโยชน์จากกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 มีนาคม 2562 ที่บริเวณสามแยกหาดปากเมง อ.สิเกา จ.ตรัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย หมายเลข 10 เขต 2 ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงกับชาวบ้านและผู้ประกอบการร้านค้าบริเวณหาดปากเมงอย่างคึกคัก

 โดยทั้งนี้ นายสาทิตย์ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนที่จะขึ้นเวทีปราศรัยในเรื่องของการยุบพรรคไทยรักษาชาติว่า เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งตนเคยพูดเอาไว้ว่านักการเมืองต้องเป็นต้นแบบดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดในกรณีเรื่องดังกล่าวพรรคไทยรักษาชาติเองเมื่อดำเนินการโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายในเรื่องใดก็คงต้องเป็นไปตามกฎหมายที่ระบุเอาไว้  เท่าที่ตนเองติดตามดูสัมภาษณ์ทางไทยรักษาชาติเองก็ยอมรับในมติของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนมองว่านี่เป็นตัวอย่างของพรรคการเมืองไทยในยุคปฏิรูปการเมืองในยุคหลัง ซึ่งกฎหมายจะเข้มข้นขึ้น แรงขึ้นมีโทษที่หนักมากขึ้น เพราะฉะนั้นการเอาชนะทางการเมืองอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงหลักการข้อกฎหมายก็จะเป็นข้อผิดพลาดนำไปสู่การลงโทษถึงยุบพรรคได้ อันนี้เป็นตัวอย่างสำหรับพรรคการเมืองที่เหลืออยู่ว่าจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย

สำหรับเรื่องนี้ตนมองว่าต่อไปต้องเป็นบรรทัดฐานอย่างแน่นอนในเรื่องนี้ เมื่อมีคำวินิจฉัยสั่งรัฐธรรมนูญในคดีใดก็ตามคำวินิจฉัยนั้นตามรัฐธรรมนูญนั้นจะผูกพันทุกองค์กรก็จะเป็นบรรทัดฐานของพรรคการเมืองอื่นที่จะดำเนินการต่อไปในอนาคตด้วย

สำหรับการเมืองในโค้งสุดท้ายตนมองว่าการเมืองมีความเปลี่ยนแปลงไปมาก ซึ่งตอนขึ้นต้นมีพรรคการเมืองที่ดูจะมาแรง แต่กระแสที่ออกไปหาเสียงเลือกตั้งประชาชน 70-80% ตัดสินใจดูที่นโยบายของพรรค ดูประวัติของพรรคกับตัวบุคคลว่ามีความพร้อมที่จะทำตามนโยบายได้หรือไม่ หลังจากที่ตนลงพื้นที่หาเสียง 2 เดือนที่ผ่านมา กระแสของพรรคประชาธิปัตย์เริ่มดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะการออกไปดีเบตของหัวหน้าพรรคของพรรคประชาธิปัตย์ก็ทำให้เห็นจุดยืนแนวทางนโยบายและอุดมการณ์ของพรรคชัดเจน ตอบโจทย์ในเรื่องการแก้ปัญหาปากท้องที่สำคัญที่สุดคือในภาคใต้ ตนเชื่อว่า 50 เขตในภาคใต้น่าจะมาทั้งหมดทั้ง 50 เขต ตนเชื่อว่าเหลืออีก 2 อาทิตย์กระแสของพรรคจะดีขึ้นตามลำดับ ความเชื่อมั่นต่อตัวนายอภิสิทธิ์ก็ดี ต่อนโยบายของพรรคก็ดี ก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ  ในกรณีของการยุบพรรคไทยรักษาชาตินั้นตนมองว่าไม่มีผลได้หรือผลเสีย เพราะกลุ่มในตระกูลเพื่อ รวมทั้งไทยรักษาชาติด้วยอย่างที่ใครคาดการณ์ก็มีการถ่ายเทกันได้ แต่ส่วนหนึ่งที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ดีขึ้น คือคนเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองหลักเป็นพรรคการเมืองหนึ่งในสถาบันที่ทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด อันนี้จะทำให้กระแสพรรคประชาธิปัตย์ดีขึ้น

ส่วนผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี หรือจัดตั้งรัฐบาลหลังจากเลือกตั้งในครั้งนี้ นายสาทิตย์ กล่าวว่าหลักการที่ดีที่สุดผลการเลือกตั้งออกมาแล้วพรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมากที่สุดสามารถที่จะรวมกลุ่มจับขั้วทางการเมืองชักชวนพรรคอื่นมาเป็นพรรคร่วม เพราะเชื่อว่าไม่มีใครได้เสียงข้างมากเด็ดขาดเพียงพรรคเดียวเท่านั้น อย่างพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่งสามารถชักชวนพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงรองลงมามาจับกลุ่มเป็นรัฐบาลได้ แต่ในกรณีที่เขาจับไม่ได้นั้นก็หมายความว่าพรรคการเมืองในลำดับถัดไปก็สามารถที่จะรวมกลุ่มจับขั้วทางการเมืองได้เช่นเดียวกัน นี่ก็เป็นเพียงตามหลักการทั่วไป นายสาทิตย์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว

ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดตรัง