ปลัดอำเภอเสมียนตรา และพนักงานราชการ อ.ทุ่งสงรวม 8 คนยื่นหนังสือ ขอย้ายตัวเอง-ระบุนายอำเภอมุ่งแสวงหาประโยชน์จึงทำงานร่วมกันไม่ได้

 (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้ทำหนังสือถึงนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช  ระบุว่าตัวนายอำเภอคือต้นเหตุของปัญหาสร้างความแตกแยก แตกความสามารถคี ทุจริตต่อหน้าที่แสวงหาประโยชน์ส่วนตนโดยมิชอบ ซึ่งในหนังสือระบุการทุจริตคอรัปชั่นของนายอำเภอจำนวน 5 เรื่อง  ประกอบด้วย   แ1.ได้แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวโดยเฉพาะการเบิกจ่ายน้ำมันซึ่งเกินความเป็นจริงรถป้ายทะเบียน 5กร-9743 ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งของนายอำเภอมี 1 คัน ความจุของการเติมน้ำมันในจำนวน 1 ถังไม่น่าเกิน 2,000 บาท แต่มีการเติมน้ำมันครั้งละ 5,000 บาทเต็มถัง ซึ่งเกินความเป็นจริง บางครั้งก็ได้สั่งน้ำมันใส่ถังครั้งละ 5,000 บาท ซึ่งสงสัยว่าน่าจะเอาไปใส่รถ แม็คโคร เพื่อขุดต้นไม้นำไปปลูกที่บ้านส่วนตัวที่อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา 2.นายอำเภอคนนี้ได้เรียกผู้รับจ้างสร้างห้องน้ำด้านหลังที่ว่าการอำเภอเข้าไปพบและบอกว่านายอำเภอได้ดำเนินการซ่อมแซมบางส่วนแล้วไม่ต้องดำเนินการเองโดยบอกว่าให้นำเงินที่เป็นค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้นายอำเภอจำนวน 33,300 บาทซึ่งกรณีไม่สามารถดำเนินการได้เพราะไม่เป็นไปตามแบบแปลนที่กำหนดและผู้รับจ้างพรุ่งนี้สามารถเป็นพยานได้ 3.การเรียกรับผลประโยชน์จากร้านอาหารและจากการเล่นการพนันในพื้นที่ นายอำเภอได้สั่งให้สั่งการให้สมาชิกอส.เข้าไปดำเนินการจัดเก็บในทุกพื้นที่ของอำเภอทุ่งสงซึ่งกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เพื่อทราบมาโดยตลอดและสามารถระบุได้ว่าสมาชิกคนไหนเก็บผลประโยชน์ให้นายอำเภอและสามารถที่จะนำผู้ที่ถูกเลือกเก็บเงินมาเป็นพยานได้ 4. ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบโดยเฉพาะการขอใช้รถของเทศบาลตำบลที่วัง อำเภอทุ่งสง ขุดต้นไม้ในวันหยุดราชการโดยนายอำเภอคนนี้ได้โทรศัพท์ไปหานายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสงและด้วยความเกรงใจนายกเทศมนตรีตำบลที่วังจึง ต่างคนขับรถนำรถแม็คโครออกมาช่วยขุดต้นไม้ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลที่วังอำเภอทุ่งสง และ 5.การเรียกรับผลประโยชน์จากการขออนุญาตมีและใช้อาวุธปืนนายอำเภอคนนี้ได้กำหนดค่าใช้จ่ายไว้ขออนุญาตมีและใช้อาวุธปืนขนาด.38 และ 9 มม.และลูกซอง ผู้ขออนุญาตจะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้นายอำเภอคนนี้กระบอกละ 10,000 บาท ส่วนอาวุธปืน .357 และ 11 มม.ต้องเสียค่าใช้จ่ายกระบอกละ 20,000 บาท ซึ่งราษฎรที่รับอนุญาตทราบดีถึงขนาดบางคนไม่กล้าขึ้นมาขออนุญาตมีและใช้อาวุธปืนเนื่องจากไม่มีเงินเพื่อนำมาให้นายอำเภอคนนี้และกรณีที่ข้าราชการได้มายื่นขออนุญาตมีและใช้ลูกปืนและมีบางคนได้บริจาคเพื่อในอำเภอนำไปใช้เพื่อกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ทางราชการแต่ละอำเภอคนนี้กับนำเงินดังกล่าวไปใช้ส่วนตัวแทนที่จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ทางราชการ

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตามในส่วนของปลัดอำเภอทั้ง 4  คนที่ถูกนายอำเภอเสนอย้ายพร้อมปลัดอำเภอ เสมียนตราและพนักงานราชการสำนักงานปกครองอำเภอทุ่งสงอีก 4 คนรวมเป็น 8 คนได้ทำหนังสือจากที่ว่าการอำเภอทุ่งสง เลขที่ 0618/995 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2562 ถึงนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช  โดยระบุว่านายวิโรจน์ สำแดง นายอำเภอทุ่งสงเป็นผู้บังคับบัญชาที่ขาดภาวะผู้นำ มีทัศนคติที่เป็นลบต่อผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้ร่วมงาน มองผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นศัตรู ประพฤติตนไม่เป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้ใต้บังคับบัญชา แสวงหาผลประโยชน์โดยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปดำเนินการแทน แต่นายวิโรจน์ สำแดง เป็นผู้รับผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว หากยังปฏิบัติงานร่วมกันก็จะไม่เกิดประโยชน์ต่อองค์กรและราชการ เพื่อลดความขัดแย้งในองค์กร ข้าราชการ/พนักงานราชการที่ทำการปกครองอำเภอทึ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จึงขอย้ายออกจากการปฏิบัติหน้าที่ ณ.ที่ทำการปกครองอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 8 ราย

                โดยทุกคนได้ลงชื่อกำกับท้ายหนังสือดังกล่าว ประกอบด้วย นายสมคิด กาฬสุวรรณ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ,นายพิศิษฎ์ คงตุก ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความ นางบราณี กุญชรินทร์ ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการมั่นคง นายวัชระ ยอดระบำ ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ) นายสุรสิทธิ์ รักทอง ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานชำนาญการ),  นายจักรพันธ์ ศรีจันทร์ ปลัดอำเภอ(เจ้าพนักงานชำนาญการ) นางเกสร พุ่มมณี เสมียนตราอำเภอทุ่งสง และนายภาณุวัฒน์ หมื่นพล พนักงานราชการ (สำนักงานปกครองอำเภอทุ่งสง)

 

 

 

 

 

ทางด้านนางมาดี แร่สุวรรณ กำนันตำบลหนองหงส์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า อยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงตามที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตประพฤติมิชอบทั้ง 5 เรื่องว่าจริงหรือไม่ โดยในระหว่างการสอบสวนขอให้ย้ายนายอำเภอพ้นพื้นที่ไปก่อน  นอกจากเรื่องดังกล่าวแล้วนายอำเภอยังมีพฤติกรรมใส่ร้ายป้ายสีตนและนายสมคิด กาฬสุวรรณ ปลัดอำเภออาวุโส หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง อ.ทุ่งสง ว่าลักลอบเป็นชู้กัน ทั้ง ๆ ที่ตนกับนายสมคิด อยู่กินฉันสามีภรรยาอย่างเปิดเผยเป็นที่รับรู้กันของคนทั่วไป ทั้งนี้ปลัดนายสมคิดหย่าขาดจากภรรยาเก่ามาตั้งแต่ปี 2547 หย่าขาดจากสามีเก่ามาตั้งแต่ปี 2556 และเพิ่งมาอยู่กินเป็นสามีภรรยากันอย่างเปิดเปิดเผยเมื่อปี 2559 ไม่ได้ลักลอบเป็นชูกันตามที่นายโรจน์ นายอำเภอกล่าวอ้างโจมตีแต่อย่างใด ซึ่งการกระทำของนายอำเภอทุ่งสงสร้างความเสื่อมเสียให้กับตนและนายสมคิด สามีเป็นอย่างมาก จึงได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งสง เพื่อดำเนินคดีกับนายวิโรจน์ สำแดง นายอำเภอทุ่งสงตามกฎหมายต่อไปแล้ว

                ในขณะที่นายจำเริญ  ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช มีคำสั่งให้นายสมพงษ์ มากมณี ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงทั้ง 2 ฝ่ายและให้ดำเนินการไปตามระเบียบราชการ  โดยจะยังไม่ออกคำสั่งโยกย้าย 4 ปลัดอำเภอผู้ร้อง รวมทั้งนายอำเภอทุ่งสงในช่วงนี้เนื่องจากทุกคนมีภารกิจในการปฏิบัติหน้าที่เลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.2562  และหากผลการสอบสวนพบการกระทำผิดไม่ว่าจะเป็นปลัดทั้ง 4 คนรวมทั้งนายวิโรจน์ สำแดง นายอำเภอทุ่งสง จะดำเนินการมีคำสั่งโยกย้ายพ้นพื้นที่และเอาผิดตามระเบียบราชการอย่างเด็ดขาดโดยไม่ละเว้น

                ในขณะที่ทำให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้ประท้วงทั้งหมดต่างพอใจในขั้นตอนการดำเนินการของผ่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ในระดับหนึ่ง จึงได้แยกย้ายกันกลับไปปฏิบัติหน้าที่  โดยนัดหมายกันว่าหลังการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. 2562 หากมีคำสั่งย้ายปลัดทั้ง 4 คนออกมาอย่างไม่ถูกต้อง เป็นธรรม โดยที่ผลการสอบสวนนายอำเภอไม่มีความผิดและไม่มีการโยกย้ายนายอำเภอ ทุกคนจะกลับมารวมตัวกันทันที  ซึ่งข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป.

 

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว/คลิป  ยุทธนะ  เตมะศิริ สำนักข่าวทีนิวส์นครศรีธรรมราช