"ทิม พิธา" เล่าปัญหาครอบครัว

จากกรณีที่เป็นประเด็นร้อนแรงสำหรับปัญหาครอบครัวของ ต่าย ชุติมา อดีตนักแสดงชื่อดัง และ ทิม พิธา นักธุรกิจ-นักการเมือง ที่เกิดศึกชิงลูก หลังฝ่ายชายไม่ยอมส่งมอบลูกให้ ต่าย ชุติมา ตามสัญญา จนต่ายต้องประกาศตามหา และไปแจ้งความ อีกทั้งยังโพสต์ข้อความเสียดายว่าน้องพิพิม ยังไม่ได้ดูดิสนีย์ ออน ไอซ์ อย่างที่ต้องการ ทำให้ล่าสุด ทิม พิธา ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องราวดังกล่าวทั้งน้ำตา

จากกรณีที่เป็นประเด็นร้อนแรงสำหรับปัญหาครอบครัวของ ต่าย ชุติมา อดีตนักแสดงชื่อดัง และ ทิม พิธา นักธุรกิจ-นักการเมือง ที่เกิดศึกชิงลูก หลังฝ่ายชายไม่ยอมส่งมอบลูกให้ ต่าย ชุติมา ตามสัญญา จนต่ายต้องประกาศตามหา และไปแจ้งความ อีกทั้งยังโพสต์ข้อความเสียดายว่าน้องพิพิม ยังไม่ได้ดูดิสนีย์ ออน ไอซ์ อย่างที่ต้องการ ทำให้ล่าสุด ทิม พิธา ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องราวดังกล่าวทั้งน้ำตา
 

โดยทิม พิธา บอกว่า ความรักของตนกับต่ายนั้น มาถึงทางตัน มันเกิดขึ้นเพราะความรักถึงทางตันเมื่อประมาณ 13-14 เดือนก่อน ยอมรับว่าไม่มีใครอยากให้มันเป็นแบบนั้น ก่อนที่เรื่องจะมาถึงจุดนี้ ก็มีการให้ผู้ใหญ่ช่วยคุย มีการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการสมรส แต่สุดท้ายไม่ไหวจริงๆ ประคับประคองไม่สำเร็จ ต้องแยกกันอยู่ประมาณ 6-7 เดือน ถึงกระนั้น เราทั้งสองคนยังไม่ไปหย่าที่เขตแต่อย่างใด

 

"ทิม พิธา" เล่าปัญหาครอบครัว


พอเราจะหย่า ปัญหาก็เกิด  สิ่งสำคัญหลังจากที่ทั้งสองคนแยกกันอยู่คือ น้องพิพิม ลูกสาว ตนไม่สามารถอธิบายผลกระทบที่เกิดขึ้นกับน้องได้ แต่จริงๆ คือ ตนห่วงลูกสาวเป็นหลัก ลองคิดถึงหัวใจกระดาษของลูก มันเกินไปก่อนหน้านี้ เราเองเป็นสามีภรรยากัน สิทธิ์ในตัวลูกคือ 50-50 ซึ่งฟังดูง่าย แต่ไม่ง่าย แต่เมื่อแยกกันอยู่ ก็ตกลงกันว่าจะให้น้องพิพิมไปอยู่บ้านแต่ละคน คนละ 5 วัน แต่ลองให้คุณนึกดูว่า  มีใครอยากจะใช้ชีวิตในกระเป๋าเดินทางไหม ? เก็บของ เก็บตุ๊กตา ย้ายไปย้ายมาโดยไม่มีคำอธิบาย เราเป็นผู้ใหญ่เรายังทนไม่ได้กับการเดินทางไปมา

          

 

 


เรื่องนี้ทำให้ตนกังวล จึงมีการให้น้องพิพิม เข้าไปพบกับผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก โดยมีแพทย์รับรองทั้งสิ้น 7 คน และแพทย์ลงความเห็นว่า น้องเกิดความสับสนกับชีวิต สิ่งที่พ่อแม่ทำตอนนี้คือไม่ถูกต้อง และพ่อแม่ควรจะคิดถึงความผาสุก ความมั่นคงทางอารมณ์ของลูกเป็นหลัก

 

 

 


ทนไม่ได้ที่ลูกต้องอาศัยอยู่บนความขัดแย้ง  ตั้งแต่เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา น้อง 2 ขวบครึ่งแล้วต้องเข้าโรงเรียน จึงมีการไปดูโรงเรียน 3 ที่ ในละแวกสุขุมวิท และไปจบที่โรงเรียนนานาชาติแถวสุขุมวิท สอน 3 ภาษา ภาษาไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น สอนในสไตล์ฝรั่ง แต่ฝึกวินัยแบบญี่ปุ่น และคิดว่าคุณต่ายน่าจะชอบ เราทั้งคู่พูดภาษาญี่ปุ่นพอได้ ต่อมาได้มีการโอนเงินไปให้โรงเรียน แต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อความขัดแย้งของเราบานปลาย ต่ายเลยตัดสินใจพาลูกไปสมัครเรียนอีกที่หนึ่งที่ใกล้บ้านต่าย เพราะบ้านของต่ายและบ้านของตนไกลกัน อยู่คนละที่ กลายเป็นว่า น้องพิพิม ต้องเข้าโรงเรียน 2 แห่ง โรงเรียนหนึ่งใกล้บ้านพ่อ อีกโรงเรียนใกล้บ้านแม่

 

"ทิม พิธา"  และ  ลูกสาว
 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง   "ทิม พิธา"โพสต์แจงหลัง "ต่าย ชุติมา" ขึ้นโรงพักตามหาตัวลูกน้อย

ส่วนการฟ้องหย่าต่าย ตนทำไปเพื่อขอสิทธิ์เลี้ยงดูน้องพิพิม จนได้สิทธิ์เลี้ยงดูบุตรผู้เดียว ด้วยความที่น้องพิพิมต้องย้ายบ้านไปมา จึงเป็นเหตุให้ตนไปฟ้องหย่าต่าย เพราะลูกไม่โอเคกับการต้องย้ายไปมา คนละ 5 วัน และมีการไต่สวนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้านต่ายขาดนัดศาล ไม่ได้มา จึงเป็นการดูหลักฐานของตนฝ่ายเดียว ซึ่งศาลก็พิพากษาให้หย่าขาดจากกัน และให้สิทธิ์ปกครองบุตรกับตนเพียงผู้เดียว ทว่า ต่ายได้ยื่นขออุทธรณ์ แต่ไม่เป็นไร ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ

 

 


สำหรับเรื่องราวที่ต่ายแจ้งความ แท้จริงนั้นเรานัดคุยกันที่เซ็นทรัลเวิลด์ หาข้อยุติลูกอยู่ 2 บ้าน เรียน 2 โรงเรียน แต่เกิดอุบัติเหตุ ตนได้นัดต่ายคุยที่เซ็นทรัลเวิลด์ เพราะตนต้องการเอาลูกออกจากความขัดแย้ง อย่างน้อยต้องคุยกัน 2 คน อย่างมากต้องมีทนายมาคุย ในที่ลับ แต่เกิดอุบัติเหตุคือ แบตฯ โทรศัพท์ของตนหมด และบอกต่ายก่อนหน้านี้ว่า มีอะไรคุยกับทนาย แต่ตนไม่ได้ประสานทนาย เมื่อต่ายโทร. หาทนาย ทนายเลยไม่รู้เรื่อง ต่ายเลยเดือดเนื้อร้อนใจ โทรศัพท์หาคนขับรถ คนขับรถก็บอกว่าไปส่งที่เซ็นทรัลเวิลด์แล้วตั้งแต่ 6 โมง และกว่าตนจะชาร์จแบตฯ โทรศัพท์ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว และที่ตนไม่ให้ลูกไปดูดิสนีย์ ออน ไอซ์ เพราะกลัวนักข่าวจะรุมลูก

 

"ทิม พิธา" เล่าปัญหาครอบครัว


ตอนนี้ตนวอนต่าย มาคุยกันดีๆ  ไม่เอาแชต ไม่เอาโทรศัพท์ ไม่เอาคนกลาง ขอแค่ 2 คน ไม่อยากให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องสาธารณะ ขอคุยกันดี ๆ แค่ 2 คน ไม่เอาแชต ไม่เอาโทรศัพท์ ไม่เอาคนกลาง เพื่อหาทางออกร่วมกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตนไม่ได้กีดกันต่ายกับลูก ต่ายจะมาหาลูกเมื่อไรก็ได้ แต่ต้องไม่โยนลูกเป็นสิ่งของอย่างที่เรา 2 คนทำ ตนอยากจะขอความกรุณาให้แยกแยะ ตนมาที่นี่ในฐานะคุณพ่อ ตนยังมีความเชื่อว่ายังสามารถแก้ไขปัญหาได้ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของเรา 2 คน มีสติเยอะ ๆ มาคุยกันว่าวิธีที่จะอยู่กันอย่างมีเสถียรภาพจะทำอย่างไร เราทำได้ดีกว่านี้ แต่ที่ผ่านมาเราไม่มีข้อแก้ตัวว่ายังทำได้ไม่ดี จุดยืนคือ ความมั่นคงทางอารมณ์ของลูกเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด พิพิมเข้าเรียนหนังสือแล้ว ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้กู้

 

 

เมื่อนักข่าวถามว่ายังรักต่ายอยู่ไหม? ทิมได้ตอบสั้นๆว่า มันเป็นความหวังดีที่มีต่อกัน แต่บทบาทสามีภรรยาก็ยุติ รักมีหลายแบบ ครอบครัวตนก็ไม่ต่างจากครอบครัวคนอื่น เป็นไปไม่ได้ที่เราจะกลับมาเป็นสามีภรรยา

 

 

"ทิม พิธา"   และ ครอบครัว

 

ต่าย และ ลูกสาว

 

 

"ทิม พิธา" เล่าปัญหาครอบครัว

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-"ต่าย ชุติมา" โพสต์ภาพอุ้ม "น้องพิพิม" เขียนบรรยายชีวิต 24 ชม. ของคนเป็นแม่ สยบข่าวลือติดปาร์ตี้ทิ้งลูกน้อยนอนป่วย
-ต่าย ชุติมา โผล่คอมเมนต์ " เป็นห่วง" หลังทิม พิธา ตัดเล็บให้น้องพิพิม