แก็งคอลเซ็นเตอร์เช่าบ้านหรูตั้งฐานลวงชาติเหยื่อชาติเดียวกันความเสียหายกว่า 25 ล้านบาท

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์  หักพาล ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.เชษฐา  โกมลวรรธนะ รอง ผบช.ภ.๒ รอง ผอ.พดส.ภ.๒, พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.ภาส สิริสุขะ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.ฐิติวัฒน์ สุริยฉาย รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี/หน.ชป.ศพดส.ภ.๒, พ.ต.อ.ปวัชร์ชัย สุดสาคร ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.2 สั่งการให้สืบสวนหาข่าวจับกุม กลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะกลุ่มที่ก่ออาชญากรรมในประเทศต่าง แล้วใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งหลบซ่อนกบดาน ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย

แก็งคอลเซ็นเตอร์ เช่าบ้านหรู ตั้งฐานลวงเหยื่อ ความเสียหายกว่า 25 ล้านบาท

แก็งคอลเซ็นเตอร์ เช่าบ้านหรู ตั้งฐานลวงเหยื่อ ความเสียหายกว่า 25 ล้านบาท

   เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 30 มี.ค.62  กก.สส.บก.ตม.3 ร่วมกับ ตม.จว.ชลบุรี,เจ้าหน้าที่ ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1, ศปชก.ภ.จว.ชลบุรี,เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ และ ตำรวจภูธรภาค 2 นำหมายค้นศาลแขวงพัทยาที่ 5/2562 ลงวันที่ 29 มี.ค.2562เข้าค้นบ้านเลขที่ 78/219 หมู่บ้านสยาม รอยัล วิว วิลเลจ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เช่าคือ Mr.Tomoki Chimura สัญชาติญี่ปุ่น ผู้ให้เช่าคือ นางวีณา  สุภาวรางกูล โดยได้รับค่าเช่าเดือนละ 65,000 บาท จากการตรวจค้น พบคนต่างด้าวสัญชาติญี่ปุ่น จำนวน 15 คน ทราบชื่อคือ    1.Mr.Shinkuro Handa อายุ 38 ปี 2.Me.Keiji Takeda อายุ 47 ปี 3.Mr.Takahide Takishta อายุ 26 ปี 4.Mr.Haruki Sagara อายุ 25 ปี 5.Mr.Koraro Mishiro อายุ 29 ปี 6.Me.Yoshikatsu Ueda อายุ 49 ปี 7.Mr.Yutaka Ikeda อายุ 45 ปี8.Mr.Jin Kawaguchi อายุ 22 ปี 9.Mr.Koichi Furuta อายุ 24 ปี 10.Mr.Atsushi Uemura อายุ 40 ปี 11.Mr.Yuuki Hirakawa อายุ 32 ปี12.Mr.Ryunosuke Inoue อายุ 24 ปี 13.Me.Yasutaka Toyama อายุ 55 ปี 14.Mr.Ryu Iwamoto อายุ 24 ปี 15.Mr.Seiji Ikehara อายุ 34 ปี

แก็งคอลเซ็นเตอร์ เช่าบ้านหรู ตั้งฐานลวงเหยื่อ ความเสียหายกว่า 25 ล้านบาท

แก็งคอลเซ็นเตอร์ เช่าบ้านหรู ตั้งฐานลวงเหยื่อ ความเสียหายกว่า 25 ล้านบาท

   จากการตรวจสอบ พบว่าเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรด้วยประเภทวีซ่า ผ.30 และพบโต๊ะทำงานพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ เกี่ยวกับ การติดต่อสื่อสาร เป็นโทรศัพท์แบบ IP Phone รวม 52 เครื่อง เปิดใช้งาน 19 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 19 เครื่อง เปิดใช้งาน 16 เครื่อง router ขยายสัญญาณ จำนวน 37 ตัว เปิดใช้งาน 25 ตัว โดยกล่าวหา ผู้ถูกจับทั้ง 15 รายว่า “เป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ มาตรา 8 ประกอบมาตรา 101

ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์  หักพาล ผบช.สตม.เปิดเผยว่า แก๊งดังกล่าวมักจะใช้ประเทศไทยเป็นฐานเพื่อจะหลอกลวงว่าเป็นพนักงานติดตามทวงหนี้ของบริษัทที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น โดยจะปลอมใบแจ้งหนี้ของบริษัทดังกล่าวและปลอมหมายศาลเพื่อส่งอีเมลล์ไปหาเหยื่อ สร้างความน่าเชื่อถือ หลังจากนั้นได้ใช้โทรศัพท์ติดตามทวงหนี้ที่ไม่มีอยู่จริง โดยหลอกลวงให้ผู้เสียหายส่งรหัสบัตรเติมเงินซึ่งซื้อจากร้านสะดวกซื้อในประเทศญี่ปุ่นให้กลุ่มผู้ถูกจับ เบื้องต้นมีผู้เสียหายกว่า 500 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 89 ล้านเยน (คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 25 ล้านบาท)

   นอกจากนี้ ในพื้นที่สภ.เมืองพัทยา, ตำรวจท่องเที่ยว ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 ตำรวจศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกันจับกุมความผิดการค้ามนุษย์โดยใช้วิธีการล่อซื้อค้าประเวณี ที่ร้านเอชเค ดาร์ทบาร์ เลขที่ 437/96 หมู่ที่ 9  ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเปิดให้บริการขายอาหาร และเครื่องดื่ม  โดยมีหญิงให้บริการพูดคุยเพื่อแลกดื่ม(ดริ้งค์) ซึ่งคิดราคาดริ้งค์ละ 200 บาท ซึ่งร้านฯจะได้รับจำนวน 150 บาท ที่เหลือเป็นค่าตอบแทนของพนักงานจำนวน 50 บาท และจะเลือกขายบริการทางเพศให้กับชาวต่างชาติเท่านั้น ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าในสถานบริการดังกล่าวมีการลักลอบขายบริการทางเพศโดยมีหญิงซึ่งอายุต่ำกว่า 18 ปี อยู่ในสถานบริการดังกล่าว โดยได้ทำการจับกุม หญิงไทย จำนวน 4 คน อีกด้วย

แก็งคอลเซ็นเตอร์ เช่าบ้านหรู ตั้งฐานลวงเหยื่อ ความเสียหายกว่า 25 ล้านบาท

แก็งคอลเซ็นเตอร์ เช่าบ้านหรู ตั้งฐานลวงเหยื่อ ความเสียหายกว่า 25 ล้านบาท

 

ภาพ/ข่าว อนันต์ สุขวัฒนะ ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.ชลบุรี รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออกสวนนงนุช พัทยา จ.ชลบุรี