ตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี “ทลายแก๊งเงินกู้นอกระบบ พื้นที่ภาคกลาง”

ตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอกประวิตร       วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ โดย นำมาตรการต่าง ๆ ทางกฎหมายเข้ามาบังคับใช้ เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมและคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชน 

เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง/รองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี, พลตำรวจตรีชัยน์วัฒน์ อรัญวัฒน์   ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี, ฝ่ายปกครองจังหวัดสิงห์บุรี และเจ้าหน้าที่ทหาร รส.ป.71 ร่วมกันตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งถูกร้องเรียนจากประชาชนว่ามีบุคคลมีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้นอกระบบ เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด จึงดำเนินการเข้าตรวจค้น เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2562 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 148/8 หมู่ที่ 6 ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จว.สิงห์บุรี พบ นางพงษ์ลดา วีระพงษ์ อายุ 54 ปี แสดงตัวเจ้าบ้าน ตรวจยึด สมุดบัญชีรายชื่อลูกหนี้ (เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด กู้ยืมเงิน 5,000 บาท ผู้กู้ต้องจ่ายเงินวันละ 200 บาท เป็นเวลา 26 วัน จึงจะหมดหนี้ คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเกือบร้อยละ 60 ต่อปี)

และวันที่ 3 เมษายน 2562 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 178/8 หมู่ที่ 6 ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี พบ นายวินัย หลำหนู อายุ 51 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าบ้าน ตรวจยึด สมุดบัญชีรายชื่อลูกหนี้ (เรียกเก็บดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อเดือนหรือร้อยละ 60 ต่อปี) และตรวจยึดรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ยึดเป็นหลักประกันการกู้ยืมเงิน จำนวน 71 คัน และในวันที่ 4 เมษายน 2562 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 72/1 หมู่ที่ 1  ต.งิ้วราย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี  พบ นายโนรี หลำหนู อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นบิดา นายวินัย ตรวจยึดสมุดบัญชีรายชื่อลูกหนี้ (เรียกเก็บดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5     ต่อเดือน หรือร้อยละ 60 ต่อปี) และรถจักรยานยนต์ที่ถูกยึดเป็นหลักประกันกู้ยืมเงิน อีกจำนวน 10 คัน

รวมมียอดเงินตามสัญญากู้ยืมเงินรวมกว่า 4 ล้านบาท และสามารถตรวจยึดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ถูกยึดเป็นหลักประกันกู้ยืมเงิน จำนวน 81 คัน มูลค่ากว่า 16 ล้านบาท จึงจับกุมผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบทั้งหมดแจ้งข้อหา “เป็นผู้ให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ดำเนินคดี ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบทรัพย์สินของกลางอย่างละเอียด และตรวจสอบว่าเป็นทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรม หรือใช้กระทำความผิดเรื่องใดอีกหรือไม่  และจะเรียกลูกหนี้มาพบเพื่อเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ เพื่อให้สัญญามีความถูกต้องตามกฎหมายและเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป 

ภาพ/ข่าว ณัฏฐนารา ปานมี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สิงห์บุรี