เปิดคำสารภาพ สาวสองปาดคอเจ้าของร้านชำ อ้างหาเงินใช้หนี้ค่ายาบ้าให้เพื่อนสาวสองรุ่นพี่

วันนี้ 25 เม.ย. 62  พ.ต.อ.มงคล  ภูวประภาชาติ  รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดอ่างทอง  ได้ทำการจับกุม นาย ปกรณ์  หรือกร  วรรณโต  อายุ 19 ปี  ได้ที่บ้านเลขที่ 52  หมู่ที่ 1  ตำบลจำลอง  อำเภอแสวงหา  จังหวัดอ่างทอง  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอ่างทอง  เลขที่ 77/1 2562  ลงวันที่ 24 เมษายน 2562  ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ  เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจและพยายามฆ่าผู้อื่น  พร้อมนำตัวไปสอบสวนขยายผลที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง

 

               เบื้องต้น นาย ปกรณ์  หรือกร  ให้การรับสารภาพว่าที่ทำไปเพราะต้องการเงินไปใช้หนี้ค่ายาบ้า  โดยอ้างว่าเพื่อนรุ่นพี่ที่ชื่อ  แจ๊ค  สาวสองรุ่นพี่ วัย 33 ปี  ซึ่งตนเองหลังหนีออกจากบ้านมาได้เข้าอาศัยที่บ้าน นาย แจ๊ค  สาวสองรุ่นพี่  และได้ไปเชื่อยาบ้ามาร่วมกันเสพ  จึงติดเงินพ่อค้ายาบ้า จำนวน 700 บาท  จึงหาทางออกด้วยการจี้แม่ค้าขายของชำในตลาดแสวงหา  หวังนำเงินไปชดใช้ค่ายาบ้า  ซึ่งก่อนลงมือได้มาสำรวจร้านค้าและทางหนีก่อน 1 วัน  และอาศัยในช่วงเวลาเช้ามืดลงมือก่อเหตุ  เนื่องจากมีคนน้อย  และพี่แจ๊ค  ได้หาอาวุธมีดให้ตนเองมาลงมือเพียงลำพัง  หลังก่อเหตุเจ้าของร้านชำได้ขัดขืนและทำการต่อสู้  ตนเองตกใจกลัวความผิด  จึงได้วิ่งหนีไปกลางทุ่งนาและได้ทิ้งกระเป๋าสตางค์ที่มีรูปของตนเอง  โทรศัพท์มือถือ  และกุญแจรถจักรยานยนต์ไว้ในที่เกิดเหตุ  โดยตนเองเดินวนเวียนและพักอยู่บริเวณกลางทุ่งนา  หมู่ที่ 1  ใกล้บ้านตนเองนานกว่า 2 วัน  สุดท้ายได้ตัดสินใจกลับเข้าบ้านก่อนโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ที่บ้านตนเอง  และควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผลดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย

 

 

 

 

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผานมา  นาง สุมาลี สวนสุข อายุ 51 ปี เจ้าของร้านขายของชำ  เจ้เกศ  เลขที่ 69  หมู่ที่ 1  ตำบลแสวงหา  ได้เดินทางเข้าแจ้งความและให้ปากคำกับ ร.ต.อ.ชินพันธุ์  จันทเขต  รองสารวัตรสอบสวน สภ.แสวงหา  หลังจากช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาเวลาประมาณ 05.00 น.  ได้มีสาวประเภทสอง  ทำทีเดินเข้ามาซื้อของในร้าน  ระหว่างที่กำลังหยิบของให้ลูกค้า  เมื่อคนร้ายสบโอกาสได้ใช้อาวุธมีคมปาดที่คอ  จากนั้นได้เกิดการต่อสู้กันขึ้นก่อนที่คนร้ายวิ่งหนีไป  แต่ได้ทิ้งหลักฐานเป็นโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ที่มีแต่รูปถ่าย และกุญแจรถจักรยานยนต์  จึงได้นำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อทำการจับกุมตัวมาดำเนินคดี

 

 

 

 

จากการสอบสวน นาง สุมาลี ให้การว่า ในตอนเช้ามืดตนเองได้ออกมาเปิดร้านขายของชำตามปกติ ได้มีสาวประเภทสอง เดินเข้ามาในร้านทำทีเป็นเดินเลือกซื้อของ โดยวางกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ และพวงกุญแจรถจักรยานยนต์ ไว้บนกล่องกาแฟสำเร็จรูป ระหว่างที่ตนเองหยิบของใส่ถุงและกำลังคิดเงิน คนร้ายจึงออกอุบายบอกว่าอยากได้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพิ่มจะได้ครบจำนวนเงิน 700 บาท  เมื่อตนเองก้มลงไปหยิบซองบะหมี่สำเร็จรูปใส่ถุง คนร้ายจึงสบโอกาสใช้อาวุธมีคม  ซึ่งตนเองเข้าใจว่าเป็นอาวุธมีดปาดเข้าที่คอของตนเองถึง 2 ครั้ง  ตนเองรู้สึกแสบจึงได้ทำการต่อสู้กับคนร้าย พร้อมตะโกนให้เพื่อนฝูงที่อยู่ร้านค้าใกล้เคียงช่วย คนร้ายจึงตกใจวิ่งหนีไปทางถนนใหญ่ โดยทิ้งกระเป๋าสตางค์ที่มีแต่รูปถ่าย โทรศัพท์มือถือ และพวงกุญแจรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ไว้โดยที่ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไป ตนเองหลังจากที่ทำแผลเย็บ5เข็ม เสร็จแล้วจึงได้เข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนให้จับกุมสาวประเภทสองรายนี้มาดำเนินคดี เพราะมีเจตนาถึงกับจะฆ่าแกงกันเลยทีเดียว

               ซึ่ง นาง ทิพวัลย์  วรรณโต  อายุ 46 ปี  ผู้เป็นแม่  เปิดเผยว่า  นาย ปกรณ์  หนีออกมาจากบ้านและได้ขโมยเงินไป จำนวน 7,000 บาท  หนีออกจากบ้านไปพร้อมรถจักรยานยนต์  และตนเองได้ไปตามตัว นาย ปกรณ์  และรถจักรยานยนต์กลับมา  พร้อมได้ล่ามโซ่รถจักรยานยนต์ไว้  แต่ นาย ปกรณ์  ได้หนีออกจากบ้านไปและมาก่อเหตุดังกล่าว

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว : ศุภเสกข์  แสงตระการ  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์  จ.อ่างทอง