ทุกข์คนซื้อบ้าน 30 ล้าน น้ำรั่วซ่อมแล้วซ่อมอีก

เป็นเรื่องที่กำลังได้รับความสนใจจากชาวเน็ตในตอนนี้ โดยเป็นเรื่องที่มีผู้ตั้งกระทู้สนทนาในหัวข้อที่ว่า "ปัญหาน้ำรั่ว จากการซื้อบ้านเดี่ยวในหมู่บ้านย่านบางนา กม7 ของบริษัทชื่อดัง"

เป็นกระทู้ที่กำลังได้รับความสนใจจากชาวเน็ตในตอนนี้ โดยเป็นเรื่องที่มีผู้ตั้งกระทู้สนทนาในหัวข้อที่ว่า "ปัญหาน้ำรั่ว จากการซื้อบ้านเดี่ยวในหมู่บ้านย่านบางนา กม7 ของบริษัทชื่อดัง" ซึ่ง จขกท. ชื้อบ้านหลังในราคาประมาณ 30 ล้านบาท แต่ต้องมาเจอปัญหากับเรื่องน้ำรั่วไม่สามารถเข้าอยู่ได้ โครงการที่รับผิดชอบก็ส่งช่างมาซ่อมนะ แต่ปรากฏว่ายิ่งซ่อมกลับยิ่งพัง โดยมีรายละเอียดว่า...อยากจะขอแชร์ประสบการณ์ และระบายปัญหาจากการซื้อบ้านในหมู่บ้านของบริษัทชื่อดังย่านบางนา กม.7 (เพิ่งจะมีเวลามาเล่า เพราะช่วงแรกเครียดและวุ่นวายมากกับปัญหา) 

 

ทุกข์คนซื้อบ้าน 30 ล้าน น้ำรั่วซ่อมแล้วซ่อมอีก

 

เราซื้อบ้านหลังนี้เมือเดือน ก.ย. 61 ด้วยราคา 3x ล้าน ก่อนโอนก็จ้างบริษัทมาตรวจก็มีปัญหาทั้งใหญ่และเล็ก แก้ไขไปแล้ว หลังจากนั้นเราก็ built in ต่อเติมบ้านจนเสร็จ เฟอร์นิเจอร์เข้า เร่งผู้รับเหมาทุกแผนก ตั้งใจจะย้ายให้ทันช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา (เนื่องจากมีภาระกิจอีกหลายงาน) วันที่ 11 เมษา 62 เราขนของเตรียมย้ายเข้าบ้านไปหมดแล้ว แต่ไปพบว่า มีน้ำหยดลงมาจากฝ้า ที่ห้องนอนชั้นล่าง สามีเราโทรแจ้งไปที่ call center ของบริษัท ตอนแรก จนท. บอกว่าติดสงกรานต์ จะส่งช่างเข้าไปตรวจหลังสงกรานต์ แต่เราไม่โอเค จึงโทรไปอีกครั้งว่าไม่ได้ เพราะเรากำลังจะย้ายเข้าบ้านอีก2วัน จนทจึงติดต่อกลับมาว่า พรุ่งนี้จะส่งคนเข้ามาดู

 

ทุกข์คนซื้อบ้าน 30 ล้าน น้ำรั่วซ่อมแล้วซ่อมอีก

 

12 เมษา 62 จนท มา เจาะฝ้า (ที่เราเพิ่งตกแต่งเสร็จ) ที่ห้องนอนล่าง เป็นโพรง แล้วพบว่าน้ำไหลลงมาเป็นทาง ช่างยังหาจุดรั่วไม่เจอ เนื่องจากซึมออกมาจากทุกทาง แต่โครงฝ้าบริเวณนั้นเป็นสนิม ช่างบอกว่าน่าจะรั่วมานานแล้ว จนท. บอกว่าจะเอาช่างทีมใหญ่มาซ่อมให้หลังสงกรานต์ เราก็เครียดมาก แต่ก็คิดว่าจะปิดห้องนั้นไว้ รอมาซ่อม ใช้ห้องอื่นๆไปก่อน เพราะได้แจ้งออกจากคอนโดที่เช่าอยู่ปัจจุบันแล้ว

 

ทุกข์คนซื้อบ้าน 30 ล้าน น้ำรั่วซ่อมแล้วซ่อมอีก


13 เมษา 62 ขณะกำลังขนของที่เหลือขึ้นรถเพื่อไปที่บ้าน คุณพ่อโทรมาบอกว่ามีน้ำรั่วลงมาจากฝ้าที่ห้องอาหารด้วย น้ำไหลบงมาบนโต๊ะอาหารและไหลลงนองบนพื้นเลย เราได้ยินนี่เข่าแทบทรุด รีบโทรแจ้งช่างโครงการ และจึงรีบไปที่บ้าน พอเห็นสภาพนี่ร้องไห้แบบกลั้นไม่อยู่เลย ฝ้าที่ทำไว้ ถูกช่างเจาะเป็นโพรงอีกแล้ว น้ำไหลโชกลงมา โต๊ะอาหารไม้ (สั่งนำเข้า รอมา 4 เดือน) เปียกไปหมด เหมือนคนเอาน้ำมาราด จนทแจ้งว่ารั่วมากจาก พื้นห้องน้ำของห้องน้องใหญ่ชั้น2 รั่ว ให้หยุดการย้ายเข้าบ้าน ยังเข้าอยู่ไม่ได้ และต้องปิดปั้มน้ำชั้น 2 ไว้ ต้องรื้อพื้นกระเบื้องห้องน้ำ เอาสุขภัณฑ์ อ่างอาบน้ำออกหมด เพื่อตรวจหาจุดรั่ว

 

หลังสงกรานต์เราได้พูดคุยกับหัวหน้าผู้รับผิดชอบ บอกว่าจะซ่อมแซมให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เรากลัว ไม่ใช่ว่าโครงการจะไม่ซ่อม เพราะโครงการนี้ก็มีชื่อเสียงมากอันดับต้นๆของไทย แต่ที่กลัวคือ “ซ่อมนาน และ ซ่อมแล้วซ่อมอีก” กลัวผลที่ตามมาจากความเสียหายเหล่านี้ เช่นเข้าอยู่แล้วรั่วอีก เป็นเชื้อราบนฝ้า (ซึ่งเรามองไม่เห็น) แถมผนังกรุไม้ที่บิ๊วไว้ก็กลัวจะมีน้ำเข้าไปแล้วบวมผุภายหลัง เพราะเราได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนบ้านหลายหลัง

 

และพบว่า โครงการนี้มีปัญหาเรื่องน้ำกันหลายบ้าน ทั้งรั่ว ซึม น้ำขัง หนักๆก็น้ำท่วมเข้าบ้านเลยตอนฝนตกหนัก เวลาเกิดปัญหาใช้เวลาในการแก้ไขกันนานหลายเดือน บางบ้านก็แก้แล้วจบ บางบ้านแก้มานานแล้งยังไม่จบ แถมยังต้องคอยตาม ทวง เร่ง อยู่ตลอด เรารู้สึกเศร้ามากๆเลยค่ะ เราก็ทำงานยุ่งไม่ค่อยมีเงลาจะให้มาคอยตามงาน เร่งช่าง ต่างๆนานาๆก็จะไม่ไหวเอา แต่ตอนนั้นจนท ก็พูดให้เราสบายใจขึ้นระดับนึง แจ้งว่าคิดว่าจะซ่อมเสร็จ ภายใน 2 สัปดาห์ และรับปากว่าจะไม่ให้เราต้องคอยกังวลหรือมาตามงาน จะ update ความคืบหน้าให้เราทุกวัน ช่างจะเข้างานทุกวันไม่เว้นแม้เสาร์อาทิตย์ เราฟังก็มีกำลังใจขึ้นมาบ้าง

 

ช่วงแรก จนท ส่งแผนงานการซ่อมให้เราอย่างดี ทำให้เรามีความหวัง หยุดงานเพื่อเตรียมย้ายบ้านหลายครั้ง
แต่แผนงานถูกขยับออกไปเรื่อยๆ ทีละ 1 สัปดาห์ เราก็เสียงานเสียการไปบ้าง ยกเลิกเดินทางไปต่างประเทศ แถมเลิกงานตอนดึก ต้องขับรถไปดูบ้านตอน 3-4ทุ่ม แล้วถ่ายรูปปัญหาที่พบมาแจ้ง จนท อยู่เรื่อยๆ

 

ทุกข์คนซื้อบ้าน 30 ล้าน น้ำรั่วซ่อมแล้วซ่อมอีก

 

ณ วันนี้ 3 มิย 62 เกือบ2เดือนแล้ว ยังไม่สามารถย้ายเข้าบ้านได้
สรุปปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการซ่อมแซมและปัจจุบัน 

1. น้ำรั่วจาก floor drain ห้องน้ำบน ซ่อมไปแล้ว

2. รื้อพื้นห้องน้ำใหม่ทั้งหมด ปูกระเบื้องใหม่แล้ว แต่งานปูใหม่ยังไม่เรียบร้อย แจ้ง จนท ไปแล้ว ยังไม่ได้รับคำตอบว่าจะแก้ไขไหม

3. ระหว่างซ่อมน้ำรั่ว ทำพื้นปาเก้ห้องนอนเสียหายไปด้วย เพราะการ protect หน้างานไม่ดีพอ ใช้แค่พลาสติกมา wrap แค่นั้น กันได้แค่ฝุ่น แต่เอาสุขภัณฑ์ ชักโครก อ่างเป กระจก หินอ่อนมาวาง ก็เป็นรอยหลุมๆ บนพื้นไม้ จนท ไม่ได้แจ้งอะไร เราไปตรวจเจอเองว่าทำไมพื้นเป็นปุ่มๆ ไปครึ่งห้อง ถึงเข้ามาแก้ไขโดยเปลี่ยนไม้แผ่นที่มีรอย ณ ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว แต่ยังไม่เสร็จ มีบางแผ่นที่ยังเป็นรอยชัด รอการเปลี่ยนเพิ่มเติม เราก็สงสัยทำไมไม่เปลี่ยนให้หมดทีเดียว ต้องให้เรามาดูเองว่าจะเปลี่ยนแผ่นไหนอีก โอเคหรือยัง

 

ทุกข์คนซื้อบ้าน 30 ล้าน น้ำรั่วซ่อมแล้วซ่อมอีก


4. ฝ้าที่ซ่อมตอนแรกส่งงานไม่เรียบร้อย ขอบฝ้าเป็นคลื่นๆ มองก็เห็นชัดว่าตรงนี้คือซ่อม จึงต้องให้ จนท มาดูว่าแบบนี้ไม่โอเค จึงต้องแก้ไขใหม่โดยเปลี่ยนผู้รับเหมาอีกเจ้ามาแทน ตอนนี้แก้ไขแล้ว

5. น้ำรั่วไปกระทบบัว built in และผนังกรุ และยังเกิดจากตอนช่างทาสีฝ้า ไม่ protect ให้ดี ไปเลอะผนังกรุ และช่างโครงการไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องรอช่างเดิมมาแก้ไข แต่ยังไม่ทราบว่าจะมาได้เมื่อไหร่ (เนื่องจากเค้าส่งงานแล้ว คงไม่กระตือรือร้นเท่าไหร่) ยังไม่มีกำหนด

6. พื้นปาเก้ห้องนอนล่างที่เปียกน้ำเปลี่ยนใหม่หมด แต่ไปทำให้ขอบบัวประตูที่ built in เสียหาย กำลังรอช่างเดิมมาแก้ ยังไม่มีกำหนดวัน

7. โซฟาผ้านำเข้า 2 ตัว บังเอิญเราเข้าไปที่บ้านโดยไม่ได้ตั้งใจพบว่า จนท ปล่อยให้ช่างขัดพื้นฝุ่นคลุ้งเต็มบ้านโดยไม่ protect โซฟาให้เรา ทั้งที่เราได้แจ้งไปก่อนหน้านั้นแล้วว่าช่วย protect โซฟาให้ด้วย เพราะงานยังไม่เสร็จ กลัวจะมีฝุ่นเพราะเป็นผ้า อันนี้เราค่อนข้างโมโหจิงๆ เพราะเพิ่งย้ำไปเมื่อ2วันก่อน

 

8. ตอนเกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ จนท ดูเร่งมาก ส่งแผนงานซ่อม update ให้เราทุกวัน ไม่หยุดแม้เสาร์-อา แต่ตอนนี้ หยุดตามปกติค่ะ งานยิ่งน้อยลงแต่ห่างขึ้นเรือยๆ ไม่ค่อย update ปล่อยให้เราคอยตาม ค่อยเช็ค เข้าไปดูเอง

9. ตั้งแต่มีปัญหาทางบริษัทยังไม่มีนโยบาย ชดเชยค่าเสียหายอื่น นอกจากแค่บอกจะซ่อมให้เรา (ซึ่งยังทำไม่ได้ดีเลย) ทั้งที่ความเสียหายที่เราได้รับนั้นมีทั้งส่วนที่ประเมินเป็นเงินได้และไม่ได้

10. หลังจากย้ายเข้าไม่ได้ เราต้องไปหาคอนโดอื่นอยู่ชั่วคราวแบบกระทันหัน เพราะที่เดิมมีคนมาเช่าต่อแล้ว กลายเป็นได้ย้ายมาที่อื่นแทนที่จะได้เข้าบ้านตัวเอง และมีปัญหาอื่นๆอีกตามมามากจากการย้ายเข้าบ้านไม่ได้

 

สิ่งที่คิดได้ตอนนี้คือ ไม่ว่าจะซื้อบ้านแพงหรือบริษัทมีชื่อเสียงแค่ไหน คงหนีไม่พ้นว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่ขึ้นกับว่าทางบริษัทจะแสดงความรับผิดชอบต่อลูกค้าแค่ไหน บ้านหลังนี้สำหรับเราถือว่ามูลค่าสูงมาก แต่ตัดใจซื้อเพราะคิดว่าเชื่อมั่นในแบรนด์และคิดว่าอยากได้บ้านที่มีคุณภาพ แต่เจอแบบนี้เสียความรู้สึกมาก ๆ เลยค่ะ 

 

หากใครมีข้อเสนอแนะอย่างไร แนะนำได้นะคะ หากมีความคืบหน้ายังไงไว้จะมา update ให้อีก ขอบคุณค่ะ

 

ขอบคุณ : pantip