เสรีพิศุทธ์ ออกโรงป้องลูกพรรค เปรยหากศาลยังไม่ตัดสินถือว่ายังบริสุทธิ์

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และ ตำรวจ ปส.ชลบุรี ได้บุกจู่โจมตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์ที่กำลังจะส่งไปยังประเทศฟิลิปปินส์ ผ่านทางเรือ โดยสำแดงสินค้าเป็นรองเท้าผ้าใบ และมีชื่อ นายสุบรรณ มหาชนนท์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และ ตำรวจ ปส.ชลบุรี ได้บุกจู่โจมยึดยาไอซ์ จำนวน 985 กก. ด้วยการเข้าล้อมจับและตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์พบยาเสพติดที่กำลังจะส่งไปยังประเทศฟิลิปปินส์ ผ่านทางเรือ โดยสำแดงสินค้าเป็นรองเท้าผ้าใบ และมีชื่อ นายสุบรรณ มหาชนนท์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย 

ต่อมาพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส  หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมสภาฯ และได้ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีดังกล่าว โดยบอกว่าส่วนตัวนั้นทราบข่าวนานแล้ว และเห็นว่าเป็นความผิดเฉพาะตัวบุคคล อีกทั้งข้อเท็จจริงตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ออกแบบมาเพื่อให้มี ส.ส. จากทั้งระบบเขตเลือกตั้ง และบัญชีรายชื่อ ดังนั้นทุกพรรคการเมืองจึงต้องเฟ้นหาผู้สมัครให้มากที่สุด เพื่อจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

 

เสรีพิศุทธ์ ออกโรงป้องลูกพรรค เปรยหากศาลยังไม่ตัดสินถือว่ายังบริสุทธิ์

 

ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า เคยเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเสรีรวมไทย ลำดับที่ 50 ถูก ป.ป.ส. และตำรวจชลบุรี จับกุมพร้อมของกลาง ไอซ์ 1,000 กิโลกรัม มูลค่ามากกว่า 2 พันล้านบาท ส่วนตัวยืนยันว่า ไม่เคยรู้จักและไม่เคยเห็นหน้า ทราบเพียงว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพราะตามกฎหมายต้องส่งให้ครบตามที่กฎหมายกำหนด 150 คน

 

เสรีพิศุทธ์ ออกโรงป้องลูกพรรค เปรยหากศาลยังไม่ตัดสินถือว่ายังบริสุทธิ์


อ่านข่าว : ลองฟังเหตุผลแต่ละข้อ!! "เสรีพิศุทธิ์"ออกตัวไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ผู้สมัครส.ส.โดนจับค้ายาไอซ์ โยนบาปรธน.เร่งหา 150 รายชื่อ

ล่าสุด ที่ห้องประชุมสำนักงานทีโอที จำกัดมหาชน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพถ่ายคู่กับนายสุบรรณ มหาชนนท์ อดีตผู้สมัครบัญชีรายชื่อ ลำดับที่50 ถูกจับคดีค้ายาเสพติดว่า ไม่มีอะไร เมื่อผู้สมัครมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ทุกคนก็อยากถ่ายภาพกับหัวหน้าพรรค แต่ไม่ได้รู้จักเพราะไม่ได้เจอกันทุกวัน 

 

 

 

เมื่อถามว่าเมื่ออดีตผู้สมัครของพรรคทำความผิดทางพรรคจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปปักใจว่าเขากระทำความผิด เพราะตามรัฐธรรมนูญบุคคลที่กระทำความผิดก็ต่อเมื่อศาลพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าเขาเป็นผู้กระทำความผิด ฉะนั้นตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษาและคดียังไม่ถึงที่สุดเขาก็ยังไม่มีความผิด ยกตัวอย่างถ้าศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษเขาก็ยังถือไม่ได้ว่าเขายังไม่กระทำความผิด เพราะศาลอุทธรณ์และศาลฏีกาอาจจะยกฟ้องก็ได้  และเราจะเห็นว่ามีข้าราชการถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกก็ยังรับราชการต่อ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง เพราะยังถือว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด 

 

เสรีพิศุทธ์ ออกโรงป้องลูกพรรค เปรยหากศาลยังไม่ตัดสินถือว่ายังบริสุทธิ์

 


แต่กรณีของสมาชิกพรรคเป็นเพียงเพื่อนตำรวจไปจับกุมดำเนินคดี สมมติในกรณีนี้อาจจะสงสัยเพราะอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ตำรวจก็ต้องจับไปเพราะมีเหตุอันควรเชื่อว่าตำรวจก็จับแล้ว ต่อมาเมื่อตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานเขาอาจจะไม่มีส่วนกระทำความผิด ตำรวจอาจจะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องและอัยการสั่งไม่ฟ้องได้ แล้ววันนี้เราจะไปบอกเขาว่าเขากระทำความผิดไม่ได้ เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน

 

 

 


ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่ากรณีของ นายสุบรรณ เหตุเพิ่งเกิดขึ้น ต้องมีการรวบรวมหลักฐาน จึงยังไม่มีการสรุปว่าผิดหรือถูกเพราะยังไม่ผ่านการพิจารณา ถ้าตำรวจและอัยการฟ้องศาลก็ต้องรับฟ้อง ถ้าอยู่ดีๆเราไปฟ้องกันเองศาลไม่รับว่าเราเป็นจำเลย ต้องมีการไต่สวนก่อนว่ามีมูลหรือไม่ ถ้ามีมูลถึงจะเป็นจำเลย ดังนั้นตอนนี้เราอย่าเพิ่งไปกล่าวหาใคร 

 

 


เมื่อถามว่าสถานะสมาชิกพรรคของ นายสุบรรณ จะมีไปถึงขั้นให้ออกหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า พรรคเราคงไม่ถึงขนาดนั้นคงพิจารณาเพียงว่า ถ้าสมมุติอัยการสั่งฟ้อง เราก็อาจจะประชุมกรรมการบริหารพรรคเพราะตามกฎหมายถ้าสมาชิก หรือ ผู้สมัครของพรรคไปกระทำความผิด คณะกรรมการบริหารพรรคก็ต้องมีมติ2ใน3 ที่จะขับออกพรรค ซึ่งสามารถทำได้

 

 

 

เมื่อถามว่า การกระทำของสมาชิกพรรคที่มีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดทำให้เสียชื่อหัวหน้าพรรค ในฐานะที่เคยเป็นนายตำรวจใหญ่อาจทำให้เสียหายได้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เราอาจเคยเป็นนายตำรวจใหญ่มาก่อน ซึ่งไม่ได้ไปปรักปรำใครเพราะอาจจะมีคนที่ไม่มีปัญหาอะไรก็มาพึ่งใบบุญเพราะชื่อ เสรีพิศุทธ์ คนรู้จักทั้งประเทศ คนก็อยากมาสมัครในพรรคเสรีรวมไทย จะเห็นได้ว่าคะแนนทั้งหมดที่พรรคได้มาจากตนทั้งนั้น เพราะไปที่ไหนคนรู้จักทั้งประเทศ

 

 

 

เสรีพิศุทธ์ ออกโรงป้องลูกพรรค เปรยหากศาลยังไม่ตัดสินถือว่ายังบริสุทธิ์