โดนัลด์ ทรัมป์ ค้านหัวชนฝา ไม่ยอมรับความปราชัย ยืนยันเลือกตั้งยังไม่จบ ลั่นฟ้องศาลแน่นอน

ต่อสู้กันมายาวนานเกือบสัปดาห์ ในที่สุดสหรัฐอเมริกาก็ได้ว่าที่ผู้นำคน 46 คนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ผลการนับคะแนนเลือกตั้งจะยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ในทุกรัฐ แต่จากคะแนนโดยรวมก็ชี้ชัดได้ว่า นายโจ ไบเดน แห่งพรรคเดโมแครตก็เอาชนะ นายโดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ไปแบบขาดลอย ซึ่งเวลา 10.18 น. ตามเวลาประเทศไทยระบุว่า นายโจ ไบเดน มีคะแนนนำ นายโดนัลด์ ทรัมป์ อยู่ที่ 290 ต่อ 214 คะแนน

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง - อัพเดตผลคะแนน เลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ โจ ไบเดน เข้าใกล้วความจริง เตรียมยึดตำแหน่งผู้นำอเมริกาจาก โดนัลด์ ทรัมป์

ทว่าล่าสุดสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ทันทีที่สื่อหลายสำนักในสหรัฐฯ ประกาศให้ นายโจ ไบเดน เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ออกแถลงการณ์ผ่านสำนักงานเลือกตั้งของเขาทันที ระบุว่า ไบเดนถูกประกาศอย่างรีบร้อนและไม่ถูกต้องว่าเป็นผู้ชนะ พร้อมประกาศว่าการเลือกตั้งยังไม่จบ

“เริ่มตั้งแต่วันจันทร์นี้ (9 พ.ย.) ทีมหาเสียงของเราจะเริ่มกระบวนการฟ้องร้องต่อศาล เพื่อรับประกันว่ามีการปฏิบัติตามกฎการเลือกตั้งโดยสมบูรณ์ และให้ผู้ชนะที่ถูกต้องได้ตำรงตำแหน่ง” โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุ “ผมจะไม่พักจนกว่าชาวอเมริกันจะได้เห็นการนับคะแนนอย่างซื่อสัตย์ที่พวกเขาสมควรได้รับ และเป็นประสงค์ของประชาธิปไตย”

 

นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐเผยแพร่แถลงการณ์ ระบุว่า "ความจริงก็คือการเลือกตั้งยังห่างไกลจากคำว่ายุติ" และ "คะแนนถูกกฎหมายเท่านั้นที่จะตัดสินว่าใครคือประธานาธิบดีคนต่อไป ไม่ใช่การคาดการณ์จากสื่อ" ส่งสัญญาณว่าทรัมป์จะเดินหน้าฟ้องร้องผลการเลือกตั้งต่อศาลฎีกา ในกรุงวอชิงตัน แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนให้ความเห็นไปในทางเดียวกัน ว่าเป็นไปได้ยากมาก ที่ทรัมป์จะสามารถพลิกผลการเลือกตั้งทั้งหมดได้ ยิ่งไปว่านั้น ผู้นำสหรัฐไม่มี "หลักฐานเชิงประจักษ์" ว่ามีการทุจริตเลือกตั้งเกิดขึ้นจริง
 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานด้วยว่า ทีมงานในทำเนียบขาว "เสียงแตก" กับการออกมาสนับสนุนให้ทรัมป์เดินหน้าฟ้องร้องศาลสูงสุด หรือ "เกลี้ยกล่อม" ให้ผู้นำสหรัฐแถลงยอมรับความปราชัย และแหล่งข่าวหลายคนในทำเนียบขาวให้ข้อมูลไปในทางเดียวกัน ว่ากระบวนการถ่ายโอนอำนาจของไบเดนอาจต้องเผชิญกับเส้นทางที่ "ยากลำบาก" กว่าว่าที่ผู้นำสหรัฐอีกหลายคน เมื่อทรัมป์อาจทำลาย "วัฒนธรรมทางการเมือง" อันยาวนานของสหรัฐ ด้วยการไม่เชิญไบเดน หรือแม้แต่ทีมงาน ไปพบหารือที่ทำเนียบขาว ก่อนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 20 ม.ค. 2564

 

 

>> Lazada ลดแหลก แจกกระจาย ถูกสุดในรอบปี! 11.11 ฟรีจัดส่ง ลดสูงสุด 90% <<