ตำรวจสั่งล่า "โจ๋วัย 17" ทำร้ายยายเสียชีวิต ก่อนนำร่างทิ้งข้างถนน?

วันนี้ (18/12/2561) ที่บริเวณ ร้านค้าแห่งหนึ่งในชุมชนเทพารักษ์ 1 และ 2 ริมถนน เทพารักษ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น บันทึกวินาทีกลุ่มวัยรุ่นในชุมชนขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้านค้า ก่อนจะมีวัยรุ่นชาย 1 ในนั้นเดินเข้าไปด่าทอ ยาย คนหนึ่งที่กำลังนำถุงขยะมาทิ้ง ซึ่งในเหตุการณ์มีการชี้หน้าด่าทอ ก่อนชายวัยรุ่นดังกล่าวจะลงมือตบเข้าที่ใบหน้าของยายที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างแรงจนใบหน้าสะบัด แต่วัยรุ่นคนดังกล่าวก็ยังไม่ยอมหยุดชี้หน้าด่าทอยาย

 

โดยภาพในกล้องวงจรปิดนั้น จะเห็นว่า ภาพช่วงหนึ่งที่วัยรุ่นชายดังกล่าวเดินไปหยิบบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาเป็นอาวุธ ลักษณะคล้ายกับขวดแก้ว จะพุ่งเข้าหายายเพื่อทำร้ายอีกครั้ง แต่เพื่อนๆในกลุ่มได้เข้ามาห้ามเอาไว้ ก่อนที่ทุกคนจะเดินเข้าไปในซอย แต่วัยรุ่นที่ลงมือทำร้ายยายไม่ได้ออกมา มีเพียงวัยรุ่น 2 คนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันเดินออกมาเข็นรถจักรยานยนต์กลับเข้าไปอีกครั้ง กระทั่งพบว่า คุณยาย ที่อยู่ในคลิปเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว กระทั่งต่อมามีพลเมืองดีโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ และนำร่างของคุณยายขึ้นรถกู้ชีพไป

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ พบว่า คุณยาย ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทราบชื่อคือนางวนิดา แพนุ่น หรือยายติ๋ม เป็นเจ้าของร้านขายของชำ อยู่ริมถนนเทพารักษ์ โดยไปดูจุดที่ชาวบ้านพบร่างของยายติ๋ม ซึ่งอยู่ห่างจากร้านขายของชำประมาณ 20 เมตร ภายในซอยที่จะเข้าไปในชุมชนเทพารักษ์

 

จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุทราบว่า ยายติ๋มค้าขาย และอาศัยอยู่เพียงลำพังในชุมชนแห่งนี้มานานกว่า 30 ปีแล้ว เพราะลูกชายคนโตทำงานอยู่ต่างพื้นที่ และอีกคนกำลังศึกษาอยู่ระดับมหาวิทยาลัย ยายติ๋มจะเปิดร้านขายของชำตั้งแต่เวลา 05.00 น.ถึงเวลา 20.00 น.ของทุกวัน จนวันเกิดเหตุช่วงเช้ามืดได้ยินเสียง ยายติ๋ม ทะเลาะกับวัยรุ่นชื่อ เบนซ์ ซึ่งเป็นชาวชุมชนทุกคนรู้จักกิตติศัพท์ดีว่า เป็นอันธพาล ขาโจ๋ประจำหมู่บ้าน

จนประมาน 30 นาทีก็มีเสียงคล้ายคนถูกทำร้ายภายในซอย เมื่อเสียงเงียบจึงออกจากบ้านมาดูพบร่าง ยายติ๋ม นอนเสียชีวิตอยู่ข้างทาง ในสภาพใบหน้าบวมปูด ศีรษะแตกเลือดอาบทั้งตัว จึงขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ชีพและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบ และสังเกตว่า สร้อยคอทองคำ พร้อมสร้อยข้อมือที่ยายติ๋มใส่เป็นประจำได้หายไป แต่ก็ไม่ทราบว่าในวันเกิดเหตุยายติ๋มได้สวมใส่เอาไว้หรือไม่