- 31 ก.ค. 2561
ลำดับเหตุการณ์ ไขเงื่อนงำ คดี "น้องหญิง" ตกรถเทรลเลอร์ ครอบครัวสงสัย ฆาตกรรมอำพราง หรือโดดลงไปเอง? นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นมือช่วย จับพิรุธใครเอี่ยว ด้านตำรวจถูกเด้ง 10 นาย สังเวยคดีนี้ ล่าสุดผลของ รพ.ปทุมธานี ยืนยันว่าอาวุธที่ใช้เป็นค้อนแน่นอน
กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่กำลังได้รับการแชร์ส่งต่ออย่างมากมายในโลกโซเชียลขณะนี้ สำหรับกรณีที่สมาชิกเฟซบุ๊กใช้ชื่อ "Baifern Pns" ได้มีการโพสต์ข้อความอุทาหรณ์ที่เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว ซึ่งเป็นน้องสาวชื่อว่า "น้องหญิง" ที่ไปเที่ยวผับกับเพื่อน แต่กลับถูกเพื่อนทิ้งกลางทางให้กลับกับคนแปลกหน้า ทั้งที่น้องหญิงกลัวและพยายามขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีใครช่วยได้ กระทั่งพบตัวเธอในสภาพโคม่า กะโหลกแตก สมองบวม ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยแพทย์ชันสูตรเบื้องต้นพบถูกตีด้วยของแข็ง ทำให้ข้อมูลดังกล่าวนั้นขัดแย้งกับข้อมูลจากทางคนที่ขับรถไปส่ง ซึ่งอ้างว่าน้องหญิงกระโดดลงมาจากรถเอง ทำให้ทางครอบครัวเกิดความสงสัยและต้องการพิสูจน์ความจริง (อ่านข่าว : เงื่อนงำอื้อ!!พี่สาวเปิดหลักฐานร้องขอความเป็นธรรม น้องตายปริศนาสภาพศพไม่ตรงสำนวนคดี ฟังแต่ชายพาขึ้นรถอ้างโดดลงไปเอง!? ) ต่อมามีข้อมูลเพิ่มเติมรายงานจากสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่ได้โพสต์คลิปวิดีโอ จากกล้องวงจรปิดด่านตรวจน้ำหนักบางปะอิน และมีการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นข้อความสนทนาระหว่างหญิงสาวผู้เสียชีวิต โดยในระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอได้ส่งข้อความมาบอกเพื่อนว่า กลัว อยากกลับบ้าน (อ่านข่าว : ฆาตกรรมอำพราง??ชาวโซเชียลไม่ยอมสาว19ตายฟรี เปิดคลิปหลักฐานใหม่ ขัดแย้งหนุ่มอ้างโดดจากรถเอง!?? )
แชทสนทนาในไลน์ระหว่างน้องหญิงกับเพื่อน
แชทสนทนาในไลน์ระหว่างน้องหญิงกับเพื่อน
แชทสนทนาในไลน์ระหว่างน้องหญิงกับเพื่อน
แชทสนทนาในไลน์ระหว่างน้องหญิงกับเพื่อน
แชทสนทนาในไลน์ระหว่างน้องหญิงกับเพื่อน
ขณะที่แฟนหนุ่มของน้องหญิง ได้โพสต์ข้อความอาลัยถึงการเสียชีวิตของแฟนสาว โดยระบุว่า "ตัวเองต้องไม่ตายฟรี" รวมไปถึงภาพคู่พร้อมข้อความสุดเศร้า ทำให้เพื่อนๆ และชาวโซเชียล ต่างแห่เข้าไปให้กำลังใจอย่างมาก โดยด้านตำรวจได้เร่งไขคดีนี้ให้เกิดความกระจ่าง หลังจากทางญาติพบหลักฐานต่าง ๆ ในโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย จึงติดต่อตำรวจให้ส่งศพไปชันสูตร ขณะที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เผยว่าทางพ่อของน้องหญิง สาววัย 19 ที่เสียชีวิตปริศนานั้น ได้เดินทางมาพูดคุยกับชมรมฯ ถึงคดีดังกล่าว โดยเชื่อว่าเป็นคดีฆาตกรรมอำพรางอย่างแน่นอน พร้อมมอบหลักฐานในคดีนี้และมอบอำนาจให้ทางชมรมฯ เป็นผู้ดำเนินการทางกฎหมายทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งเป็นที่เรียบร้อย โดยทางชมรมฯ จะรีบดำเนินการคลี่คลายคดีนี้ให้เร็วที่สุดภายใน 3 วัน (อ่านข่าว : ต้องไม่ตายฟรี!! แฟน "น้องหญิง" โพสต์อาลัยคนรักตายมีเงื่อนงำ พ่อหอบหลักฐานยื่น "อัจฉริยะ" ลุยสางฆาตกรรม?? )
หลังจากนั้นนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมฯ ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณี “น้องหญิง” ระบุว่าคดีนี้ไม่ใช่คดีที่เกิดขึ้นจากการที่น้องหญิงกระโดดลงจากรถเทรลเลอร์ เเน่นอน เพราะถ้าเราดูจากสภาพของน้องจะพบว่าบาดเเผลที่น้องมี มีเฉพาะตรงท้ายทอยเท่านั้น นอกจากนั้นยังได้พูดถึงการทำงานของผู้กำกับ สภ.บางปะอิน ว่าไม่ให้ความช่วยเหลือกับคดีนี้ ซึ่งตนในฐานะผู้รับมอบอำนาจไม่อนุญาตให้ สภ.บางปะอิน ทำคดีอีกแล้ว ต่อมา นายอัจฉริยะ พร้อมคุณพ่อของน้องหญิงเเละเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ชี้จุดที่นายอ๊อฟอ้างว่าน้องหญิงกระโดดลงจากรถเทรลเลอร์จนเสียชีวิต ซึ่งนายอัจฉริยะ ยังยืนยันว่าไม่เชื่อที่น้องหญิงกระโดดลงจากรถเทรลเลอร์ เเน่นอน พร้อมยังให้สัมภาษณ์พูดถึงกรณีการทำงานของผู้กำกับสภ.บางปะอิน ว่ายังคาใจที่ผู้กำกับเเจ้งข้อหานายอ๊อฟก่อนพาไปฝากขังทั้งที่พ่อผู้เสียหายยังไม่ได้เเจ้งความเป็นคดีอาญา พร้อมกับยังไม่ได้ถูกสอบปากคำ ตนจึงกลัวว่านายอ๊อฟจะหลุดจากคดีนี้ นายอัจฉริยะ ยังกล่าวอีกว่าจะดำเนินคดีกับผู้กำกับ สภ.บางปะอิน ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยจะเข้าร้องกองปราบในวันที่ 30 กค.นี้ ด้าน พ.ต.อ.ฤทธิ์ ศิริเทพ ผกก.สภ.บางปะอิน ให้สัมภาษณ์กรณีน้องหญิง อายุ 19 ปี สาวดับปริศนาว่า ตั้งเเต่ได้รับเเจ้งเหตุวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการมาตลอด ไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่วนเรื่องที่พนักงานสอบสวนให้ผู้เสียหายไปหาข้อมูลหลักฐานเอง ตนก็ไม่ขอพูดถึงประเด็นนี้ เพราะพนักงานสอบสวนก็รายงานเกี่ยวกับคดีตลอด ส่วนเรื่องนายอัจฉริยะ จะเเจ้งความดำเนินคดีกับตนนั้น ก็ไม่ได้กังวลเพราะตนก็ทำตามหน้าที่ตลอด ถ้าเห็นว่าการปฏิบัติงานของตนเป็นความผิด ก็เเล้วเเต่นายอัจฉริยะเลย เพราะตนก็ไม่รู้จะเเจ้งตนในข้อหาอะไร (อ่านข่าว : เดือดปุด!!"อัจฉฉริยะ"ลุยตรวจจุดเกิดเหตุ มั่นใจหลักฐานฆาตกรรม"น้องหญิง"นัดร้องกองปราบทำคดีแทน ผกก.สวนปังผมผิดข้อหาอะไร? (คลิป) )
ต่อมา นายแหวน (นามสมมติ) พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาล เปิดเผยกับสื่อว่า ตนจำได้ว่าผู้ต้องหาขับรถเทรลเลอร์มาจอดในโรงพยาบาลช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.05-06.10 น. ซึ่งขณะนั้นตนเข้าใจว่าเป็นรถพยาบาลแต่ก็รู้สึกเอะใจว่าทำไมรถจึงไฟสว่าง เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ จึงพบว่าเป็นรถสิบล้อ ตนจึงเดินเข้าไปเพื่อให้รถออกไปจอดลานด้านนอก เนื่องจากรถเทรลเลอร์ขับเข้ามาจอดตรงจุดจอดส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยตนไม่เห็นว่ามีคนเจ็บอยู่บนรถ และไม่ทันได้สังเกตว่ามีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างไร จึงไม่แน่ใจว่าเวรเปลหรือผู้ต้องหาเป็นคนอุ้มน้องหญิงลงจากรถ ตนมาเห็นอีกทีก็ตอนคนเจ็บอยู่บนเตียงพยาบาล และมีแพทย์กำลังทำ CPR อยู่ แต่ตนได้มีโอกาสถามนายอ๊อฟว่าคนเจ็บเป็นอะไรมา ซึ่งนายอ๊อฟบอกว่า น้องตกรถ ด้วยท่าทางพูดรัวๆ อาการสั่นๆ ตนจึงคิดว่ามีพิรุธ และคงเมาสุรามาด้วย เพราะได้กลิ่นแอลกอฮอลล์จากร่างกายของนายอ๊อฟ โดยตอนแรกตนเข้าใจว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน เพราะเมื่อนายอ๊อฟส่งผู้บาดเจ็บถึงห้องฉุกเฉิน ก็ยังคงเดินวนไปมาบริเวณหน้าห้องเพื่อรอดูอาการ จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.30 น. เพื่อนผู้หญิง 2 คนของผู้บาดเจ็บก็เข้ามาติดต่อที่โรงพยาบาล
จากนั้นทางโรงพยาบาลได้ส่งผู้ป่วยไปอีกโรงพยาบาล ซึ่งขณะนั้นนายอ๊อฟก็ยังขับรถเทรลเลอร์ออกไปในเวลาเดียวกัน แต่ตนไม่แน่ใจว่านายอ๊อฟได้ขับรถตามไปอีกโรงพยาบาลหรือไม่ โดยขณะนั้น ตนก็เห็นนายอ๊อฟนิ่งๆ แต่ดูท่าทางมีกังวล ซึ่งตนยืนยันได้ว่า นายอ๊อฟเป็นคนมาส่งน้องหญิงที่โรงพยาบาล ไม่ใช่รถกระบะขับมาส่งน้องหญิงตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม นายแหวน กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้ทราบจากพนักงานในโรงพยาบาลว่าสภาพบาดแผลตามร่างกายไม่น่าเชื่อว่ามีการกระโดดรถ เพราะไม่มีรอยถลอกตามร่างกาย อีกทั้ง ช่วงดึกคืนนั้นมีฝนตกลงมา หากกระโดดลงจากรถก็น่าจะมีรอยดินหรือหญ้าติดตามร่างกายบ้าง แต่ยอมรับว่าอาการน้องหญิงค่อนข้างสาหัสจึงมีการส่งผู้ป่วยไปอีกโรงพยาบาล (อ่านข่าว : เปิดปาก!!! รปภ. แฉจับพิรุธ "อ๊อฟ" ไม่เชื่อ "หญิง" กระโดดรถเอง ทั้งที่ฝนตกทั้งวัน แต่ร่างไม่เปื้อนดินเลย!!! )
ต่อมา มีการเปิดเผยว่า ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจไปช่วยราชการที่ ศปก.ภ.1 รวมทั้งหมด 10 นาย จาก 3 สถานีตำรวจในพื้นที่บางปะอิน จากคดี "น้องหญิง" สาววัย 19 ปี เสียชีวิตอย่างปริศนา ตั้งแต่ระดับ ผกก.-สว. โดยมีคำสั่งย้ายดังนี้- พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี - พ.ต.ท.สมยศ ดำจันทร์ รอง ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี - พ.ต.ต.ไพรัตน์ วรรณี สวส.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ช่วยราชการสถานีตำรวจภูธรเมืองปทุมธานี
ส่วนทางด้าน สภ.พระอินทร์ราชา จากข้อมูลทางสื่อต่างๆ ที่ให้เห็นว่าสภ.พระอินทร์ราชาได้ ปล่อยปละละเลยให้สถาบันเทิงที่อยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบเปิดให้บริการเกินเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้นจึงให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงโดยกล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจบกพร่องต่อหน้าที่ ได้แก่ - พ.ต.อ.นฤดม มารศรี ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา - พ.ต.ท.ภัทรชนนท์ ประไพลศาล รอง ผกก.ป.สภ.พระอินทร์ราชา - พ.ต.ต.ณัฐพัชร สังข์ประเสริฐ สวป.สภ.พระอินทร์ราชา - ร.ต.อ.นฤดม เขมันเขตรการ รอง สวป.สภ.พระอินทร์ราชา โดยมี พ.ต.อ.ฉลอง สุขจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง สั่ง ณ วันที่ 28 ก.ค.61
ขณะที่ทางด้าน สภ.บางปะอินนั้น นอกจากจะมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ฤทธิ์ ศิริเทพผกก.สภ.บางปะอิน ก็ยังได้สั่งย้าย พ.ต.ท.สมาน ศรีอรุณ รองผกก.สอบสวน สภ.บางปะอิน และร.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ วงค์ภูผานนท์ รองสว.สอบสวน สภ.บางปะอิน เจ้าของคดี ไปช่วยราชการที่ ศปก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เป็นเวลา 30 วัน โดยมีผลทันที พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง(อ่านข่าว : ฟันไม่เลี้ยง!! โดนเด้งด้วยผกก.ปทุมฯเซ่นคดีฆาตกรรมอำพราง "น้องหญิง" สั่งสอบรวด 10 นายตร.บกพร่องหน้าที่!?? (รายละเอียด) )
คำสั่ง ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี
คำสั่ง ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
คำสั่ง ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ต่อมาด้าน ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นบนเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่าสมควรโดนแล้วเนื่องจากผกก.ทั้ง3 บกพร่องต่อหน้าที่ ไม่มีจิตสำนึกไม่เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง สมควรแล้ว ที่โดนเด้ง เพราะเป็นผู้กำกับหัวหน้าสถานีแต่ไม่ได้มีสำนึก ความเป็นตำรวจ โดยระบุว่า คดีมีพิรุธอย่างเห็นชัดแจ้งแต่กลับไม่ใส่ใจช่วยเหลือประชาชน คงเพราะเห็นว่าเป็นคนจน นอกจากเด้งควรจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง และดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 157 ด้วยน่าจะดีเพราะทำให้ภาพลักษณ์สํานักงานตํารวจแห่งชาติเสียหาย และยังระบุอีกว่า ตำรวจ สภ.บางปะอินใช้ความเชื่อ ไม่ได้ดูจากสภาพศพ ไม่ได้ดูที่เกิดเหตุ ไม่สอบพยานในที่เกิดเหตุ ไม่ตรวจสอบพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ แสดงถึงความไม่ใส่ใจในหน้าที่ของตัวเอง สมควรถูกเด้งเพราะไม่ได้เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง (อ่านข่าว : สมควรโดน!! "ทนายเดชา" จัดหนัก "3 ผกก." ที่โดนเด้งคดีน้องหญิง ไม่มีสำนึกคงเพราะเห็นว่าเป็นคนจน! )
ซึ่งทางด้าน พ่อของนายอ๊อฟ ได้เปิดเผยกับทีมสื่อแห่งหนึ่งถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ว่า ในวันเกิดเหตุตนขับรถเทรลเลอร์สวนทางกับลูกชาย ใกล้ๆ กับลานจอดเทรลเลอร์ จึงติดใจว่าทำไมลูกชาย ถึงยังไม่ขับรถไปตามหมายงาน ตนจึงได้โทรศัพท์ไปถามอ๊อฟ และอ๊อฟได้บอกว่ามีคนกระโดดลงจากรถ แล้วเพิ่งไปส่งที่โรงพยาบาลมา จึงรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ ตนได้สอบถามลูกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเขายืนยันว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผู้เสียชีวิต และหลังเกิดเหตุ ลูกชายก็โทร. ติดต่อกับพ่อของผู้เสียชีวิตตลอด ที่ผ่านมา ลูกชายตนเป็นคนมีสัมมาคารวะ พูดจาอ่อนน้อม มีหางเสียงเสมอ มีมารยาท ไม่ใช่คนก้าวร้าวหรือเป็นคนรุนแรง การดื่มเหล้า หรือเที่ยวก็มีบ้าง แต่ไม่สูบบุหรี่ ส่วนเรื่องชู้สาว ตนเองไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ตนจึงอยากให้เกิดความเป็นธรรมด้วย ตนเองเชื่อมั่นว่าลูกตนไม่ใช่คนร้าย เพราะตนถามเขาแล้ว แล้วเขาก็ตอบยืนยันทำนองเดียวกันกับท็อป และเป็ด
พ่อของนายอ๊อฟ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังเกิดเหตุครอบครัวหรือญาติ ยังไม่ได้เดินไปเยี่ยมหรือได้เจออ๊อฟ ตั้งแต่เจ้าหน้าที่นำตัวไปฝากขัง ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ตนรอเจ้าหน้าที่ติดต่อมา และ หากจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อก็ให้เป็นตามนั้น และยังไม่ได้คิดเรื่องการประกันตัวแต่อย่างใด รอเพียงเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมา ครอบครัวก็จะเข้าไปดำเนินการทันที (อ่านข่าว : ลูกพ่อเป็นคนดี?? พ่อ "อ๊อฟ" แฉชัดๆ "น้องหญิง" ทะเลาะแฟนก่อนตาย ถึงน้ำตาคลอบอกลูกไม่ก้าวร้าว...ไม่ใช่คนร้ายตัวจริง!?? )
ขณะที่ล่าสุด แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้รายงานต่อ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ว่า น้องหญิงถูก ค้อน ตีที่ศีรษะหลายครั้งจนถึงแก่ชีวิตถือว่าเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมอำมหิตผิดมนุษย์ ในการล่อลวงน้องหญิง จนกระทั่งมีการทำร้ายจนเสียชีวิต เป็นไปตามคาด ทางชมรมฯ และครอบครัวของน้องหญิง ไม่เชื่อตั้งแต่แรกว่าน้องหญิงจะตกรถเทรลเลอร์ วันนี้ทุกในที่เกิดเหตุ จะมีความคืบหน้าค่อนช้างชัดเจน (อ่านข่าว : ด่วน!!แพทย์เผย ผลชันสูตร"น้องหญิง"ที่รายงานต่อ พล.ต.อ.ศรีวราห์...โหดกว่าที่คิด!!(คลิป) ) จากผลเอกซเรย์สมองของน้องหญิงที่ ร.พ. ปทุมธานี ซึ่งถูกตีด้วยของเเข็ง ผลออกมาปรากฏว่าตรงผลที่ได้รับจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นผลของ ร.พ.ธรรมศาสตร์ ส่งไปตรวจ โดยยืนยันว่าอาวุธที่ใช้เป็นค้อนแน่นอน (อ่านข่าว : ด่วนที่สุด!! เปิดผลชันสูตรศพ "น้องหญิง" สรุปถูกทำร้ายตาย กระโหลกแตก-ยุบ "อัจฉริยะ "มั่นใจ "ไอ้อ๊อฟ" ใช้ค้อนทุบ)