มาแล้วผลตดสิน! ศาลพิพากษาจำคุกอดีตผกก.บ้านโป่ง แก๊งโดนตลอดชีวิตชดใช้ 2.7ล้าน

จากกรณีอุ้มนางสาวสุภัคสรณ์ หรือ หญิง พลไธสง อายุ 28 ปี สาวทอม จากอพาร์ตเมนต์ ซอยเพชรเกษม 114 พื้นที่ สน.หนองค้างพลู ไปฆ่าฝังดินที่จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2559  ขณะที่บิดา มารดา ของนางสาวสุภัคสรณ์ ได้นำรูปถ่ายของบุตรมารอฟังคำพิพากษาด้วย โดยหวังว่าศาลโทษจำเลยทั้งหมดด้วยโทษสถานหนักเพื่อบุตรจะได้รับยุติธรรม

 

ทั้งนี้โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ มีความสอดคล้องต้องกัน คำกล่าวอ้างของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ว่าถูกข่มขู่และนำชี้ที่เกิดเหตุตามคำสั่งของตำรวจนั้น เลื่อนลอยไม่อาจหักล้างพยานโจทก์ได้ จึงพิพากษาว่ามีความผิดตามฟ้อง ส่วนพันตำรวจเอกอำนวย พงษ์สวัสดิ์ อดีตผู้กำกับ สภ.บ้านโป่ง จำเลยที่ 4 กับจำเลยที่ 5 นั้น จากการนำสืบเชื่อได้ว่ามีเจตนาเพื่อสั่งสอนผู้ตายให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับจำเลยที่ 3 ที่ตนเองมีความสัมพันธ์เท่านั้น จึงพิพากษาให้มีความผิดฐานใช้ จ้างวาน กระทำการหน่วงเหนี่ยว กักขัง ข่มขืนใจ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย

 

ศาลพิพากษาคดีอดีตผกก.บ้านโป่ง อุ้มสาวทอมฝังดิน

 

 

 

ส่วนจำเลยที่ 3 พยานโจทก์มีเพียงการใช้โทรศัพท์ติดต่อกับพันตำรวจเอกอำนวย และยังพบข้อความผ่านแอพลิเคชั่น line ในเชิงหึงหวง ผู้ตายจึงเชื่อว่ายังมีความรักความห่วงใยกับผู้ตายอยู่พิพากษายกฟ้อง รวมแล้วศาลพิพากษาจำคุก จำเลยที่ 1 และ ที่ 2  ประหารชีวิต ส่วนจำเลยที่ 4 จำคุก 15 ปี และจำเลยที่ 5  จำนวน 15 ปี แต่ จำเลยที่ 1,2 และที่ 5  ได้รับสารภาพในชั้นสอบสวน จึงลดโทษให้เหลือ 1 ใน 3  โดยสั่งจำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 1และ 2 ส่วนจำเลยที่ 5 จำคุก 10 ปี ทั้งนี้ศาลยังให้จำเลยทั้งหมดชดใช้ค่าเสียหาย เป็นเงิน 2,790,000 บาทแก่พ่อแม่ผู้ตาย

 

ศาลพิพากษาคดีอดีตผกก.บ้านโป่ง อุ้มสาวทอมฝังดิน

 

ด้านพ่อและแม่ของผู้ตายนั้น ระบุว่า พอใจกับคำพิพากษาส่วนหนึ่ง แต่ก็อยากจะเรียกร้องให้มีการเพิ่มโทษ ผู้กระทำความผิดถึงขั้นประหารชีวิต ในชั้นอุทธรณ์ต่อไป

 

ศาลพิพากษาคดีอดีตผกก.บ้านโป่ง อุ้มสาวทอมฝังดิน