สั่งเชือด ด.ต.ท่องเที่ยว เรียกเก็บส่วย ถูกฝ่ายปกครองรวบตัวขณะล่อซื้อ​ สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ฐานประพฤติชั่วร้ายแรง

สั่งเชือด ด.ต.ท่องเที่ยว เรียกเก็บส่วย ไล่ออกราชการฐานประพฤติชั่วร้ายแรง

วันนี้ (8 ก.ค.)​ ที่ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) พลตำรวจโท สุคุณ พรหมาย  ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) ได้มีคำสั่ง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ที่ 556 / 2565 ระบุว่า เรื่องให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน ด้วย ดาบตำรวจภูวเมศฐ์ หิรัญวงศ์วราดล ผู้บังคับหมู่สถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 

รับเงินเดือน ระดับ ป.3 ชั้น 30.5 เงินเดือน 31,340 บาท มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามคำสั่งกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 และ ต้องหาว่ากระทำความผิดอาญากรณีมีพฤติกรรม ไม่เหมาะสม เป็นการกระทำอันได้ ชื่อว่าประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง กระทำผิดตาม มาตรา 78 อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง กล่าวคือต้องไม่กระทำการหาผลประโยชน์อันทำให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน และองค์กร มีเหตุให้ออกราชการไว้ก่อน ได้ตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. 2547 ข้อ 3 (1) , (3)

 

สั่งเชือด ด.ต.ท่องเที่ยว เรียกเก็บส่วย ไล่ออกราชการฐานประพฤติชั่วร้ายแรง

 

"โดยให้ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง และต้องหาว่ากระทำผิดอาญาในเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ โดยถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ และร่วมกันกรรโชกทรัพย์​ และมีความประพฤติหรือพฤติการณ์อันไม่น่าไว้วางใจ ซึ่งหากให้คงอยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดการเสียหายแก่ราชการ และเป็นผู้อยู่ระหว่างถูกควบคุมหรือขังโดยเป็นผู้ถูกจับในคดีอาญา และพิจารณาแล้วเห็นว่า"  ผบช.ทท.​ กล่าว

ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว​ กล่าวอีกว่า​ สำหรับการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง และการพิจารณาคดีในความผิดทางอาญา จะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว​ ดังนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 95 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ประกอบกับ กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. 2543 ข้อ 8​

 

สั่งเชือด ด.ต.ท่องเที่ยว เรียกเก็บส่วย ไล่ออกราชการฐานประพฤติชั่วร้ายแรง

 

จึงให้ ดาบตำรวจภูเมศฐ์ หิรัญวงศ์วราดล ออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย และการพิจารณาคดี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป อนึ่ง ผู้ถูกสั่งให้ออก.จากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งนี้ มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อ ก.ตร.ได้​ ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 105 และหากประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่งหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ หรือภายใน 90 วันนับแต่วันพ้นกำหนด 90 วันนับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องขอทราบผลการวินิจฉัยอุทธรณ์ 

สั่งเชือด ด.ต.ท่องเที่ยว เรียกเก็บส่วย ไล่ออกราชการฐานประพฤติชั่วร้ายแรง

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline