ทนายรณรงค์ พา13 ครอบครัวผู้เสียชีวิตไฟไหม้เมาท์เทนบี ร้องขอกองปราบรับโอนคดี หวั่นผู้มีอิทธิพลเเละตำรวจในพื้นที่

 15ส.ค.65  ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ พา 13 ตัวแทนครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุไฟไหม้ผับชลบุรี เมาท์เทน บี เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง(บช.ก.)  ขอให้โอนสำนวนคดีมาให้ตำรวจกองปราบปราม รับผิดชอบ เนื่องจาก เกรงถึงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และมองว่าตำรวจและฝ่ายปกครองในพื้นที่ มีผลประโยชน์ทับซ้อน

13ครอบครัวเหยื่อเมาท์เทนบี ร้องขอโอนคดี หวั่นไม่เป็นธรรม อิทธิพลในพื้นที่
ทนายรณณรงค์ เปิดเผยว่า วันนี้นำข้อมูลหลักฐานบางส่วน มาให้ตำรวจกองปราบปราม เพื่อให้โอนคดีกลับมาเนื่องจากไม่เชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจในพื้นที่ ซึ่งการให้ตำรวจกองปราบปราม รับสอบสวนดำเนินคดีนี้ จะทำให้พยานมีความมั่นใจในการเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจมากขึ้น

13ครอบครัวเหยื่อเมาท์เทนบี ร้องขอโอนคดี หวั่นไม่เป็นธรรม อิทธิพลในพื้นที่

โดยยืนยันให้ตำรวจกองปราบปรามตรวจสอบใน 3 ประเด็น ที่ว่า สถานบันเทิงดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ และสถานบันเทิงแห่งนี้มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประเด็นที่เจ้าของผับที่ถูกดำเนินคดี ไม่ใช่เจ้าของสถานประกอบการดังกล่าวตัวจริง

13ครอบครัวเหยื่อเมาท์เทนบี ร้องขอโอนคดี หวั่นไม่เป็นธรรม อิทธิพลในพื้นที่

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วตนไปร้องให้กรมสิบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ.)รับโอนคดีเมาท์เท่นบี มาทำแทนตำรวจ วันนี้มาร้องกองปราบฯ ขอให้ที่ใดที่หนึ่งทำคดีนี้แทนท้องที่เพราะเชื่อว่ามีคนอื่นที่มีอิทธิพลอยู่ข้างหลังแน่นอน ไม่ใช่มีแค่เสี่ยบี ที่อ้างเป็นเจ้าของเท่านั้น และจะพาญาติผู้เสียหายที่เสียชีวิตและบาดเจ็บไปร้อง ผบ.ตร.ในเร็วๆ วันนี้ต่อไปด้วย


  ส่วนความรู้สึกบางส่วนของตัวแทนครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ และเดินทางมาในวันนี้ ส่วนใหญ่ บอกว่า ค่าชดใช้เยียวที่ ผู้ประกอบการจ่ายให้ ไม่เพียงพอต่อค่ารักษาพยาบาล และไม่สามารถทดแทนความเสียหายต่างๆที่เกิดขึ้นได้

 

   โดยนายอภิชัย อินศิริ พ่อของน้องไอซ์ อาทิตยา อินศิริ ผู้เสียชีวิตคนที่ 19 รายล่าสุดของเหตุการณ์นี้ เปิดเผยว่า ต้องการความชัดเจนเรื่องการเยียวยา ค่ารักษาพยาบาล รวมทั้งในเรื่องของคดีความ ซึ่งลูกสาวตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว ทำให้ครอบครัวได้รับผลกระทบ โดยที่ผ่านมา มีตัวแทนเจ้าของสถานบันเทิงให้ความช่วยเหลือมา 30,000 บาท แต่ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย

13ครอบครัวเหยื่อเมาท์เทนบี ร้องขอโอนคดี หวั่นไม่เป็นธรรม อิทธิพลในพื้นที่

ส่วน นางสาวยุพิน ทองนก แม่ของนางสาวลัดดาวัลย์ เกษกร ผู้บาดเจ็บ เป็นอีกหนึ่งคนที่ยอมรับว่า ตัวแทนเจ้าของสถานบันเทิงติดต่อขอให้ช่วยเหลือเป็นเงินจำนวน 30,000 บาท เช่นกัน และอ้างว่าให้ผู้ได้รับบาดเจ็บไปรักษาตัวต่อในโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งครอบครัวมองว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเพราะว่าลูกสาวควรได้รับการดูแลที่ดีกว่านี้ เพราะมีบาดแผลที่เกี่ยวกับการศัลยกรรม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเพลิงไหม้ตามร่างกายหลายแห่ง

13ครอบครัวเหยื่อเมาท์เทนบี ร้องขอโอนคดี หวั่นไม่เป็นธรรม อิทธิพลในพื้นที่

   ขณะที่ นางสาวณิชารัศม์ กีรติจริยาพรรณ พี่สาวของ วิน รังสิมันต์ วนิชโรจนาการ มือคีย์บอร์ด​ ที่เสียชีวิตบอกว่า ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากตัวแทนผับ จำนวน 50,000 บาท แต่ว่าไม่เพียงพอ เพราะผู้เสียชีวิต มีลูก 2 คนที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษา ส่วนที่ ตัดสินใจเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษที่กองปราบปราม เพราะว่า ไม่มั่นใจการทำงานของตำรวจในพื้นที่ เนื่องจากกังวลในเรื่องของกลุ่มอิทธิพล กดดันการสอบสวนของตำรวจ


เบื้องต้นพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามสอบปากคำผู้ร้อง พร้อมรับเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

ชมคลิป

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainewsonline