รวบ "บังฮา" ชักมีดบุกเดี่ยวจี้ร้านสะดวกซื้อ พีคที่ประวัติไม่ธรรมดา

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 13 เม.ย. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2  พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ รอง ผบก.น.2  ได้รับรายงานจากพ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.สส.บก.น.2 โดยสั่งการให้ พ.ต.ท.พลวรรธน์ พุ่มสวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง พ.ต.ต.วุฒิชัย บุญยู้ พ.ต.ต.ภาคิน ดอกไม้ สว.สส.สน.ดอนเมือง ร.ต.อ.สมโซค คงตำหนิ ร.ต.ท.เชาว์ สุขเอี่ยม ร.ต.ต.พิเชษฐ โคกทอง รอง สว.สส.สน.ดอนเมือง ร่วมกันจับกุมนายเอกชัย นิยม หรือบังฮา อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 975/2566 ลงวันที่ 1 เมษายน 2566

ฐานความผิดชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ และใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั่นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมของกลางเสื้อแขนสั่นสีขาวลายไพ่ 1 ตัว เสื้อคลุมแขนยาวสีน้ำเงิน และหมวกกันน็อคสีขาว ที่ใส่ในวันก่อดหตุ โดยจับกุมได้บริเวณหน้าร้านจำหน่ายใบกระท่อม แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. เมื่อเวลา 21.30 น. ( 12 เม.ย. ) ที่ผ่านมา

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดอนเมืองได้รีบแจ้งเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวถือมีดเข้าไปชิงทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อ ( เซเว่น ) สาขาแฟลต2 เคหะทุ่งสองห้อง ได้เงินสดไปจำนวนกว่า 3000 บาท หลังรับแจ้งฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางร้านและเส้นทางหลบหนีเพื่อติดตามตัวคนร้าย

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางร้านพบว่าเมื่อวันที่ 30 มี.ค. เวลาประมาณ 04.55 น. คนร้ายเป็นชายสวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินใส่หมวกกันน็อคสีขาว สวมกางเกงขายาวสีดำ ขับรถจักรยานยนต์สีแดง มาจอดริมถนนหน้าแฟลตแล้ววิ่งถือมีดเข้ามาภายในร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะปีนข้ามเคาเตอร์ไปข้างในก่อนใช้มีดจี้บังคับพนักงานสาวเปิดช่องเก็บเงินจำนวน 2 เครื่อง แล้วหยิบเงินสดไปได้จำนวน 3000 บาท ใช้เวลาเพียง 1 นาทีก่อนวิ่งออกมาขับรถหลบหนี

สอบสวนเบื้องต้นนายเอกชัย ยอมรับสารภาพว่าในวันเกิดเหตุได้ยืมรถมาจากเพื่อย่านเตาปูน ขับรถมาจากบางซื่อแล้วขับตระเวนไปเรื่อยจนถึงแถวถนนนาวงพัฒนา ได้ขับรถวนดูร้านสะดวกซื้อแถวนั้นอยู่หลายรอบแต่มันเป็นที่โล่งคนเยอะ จึงขับวนมาเจอร้านนี้ซึ่งด้านหน้าที่ร้านค้าบัง ประกอบกับเห็นพนักผู้หญิงยืนอยู่คนเดียวจึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุ หลังก่อเหตุได้หักซิมทิ้งเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวได้ แล้วขับรถไปคืน ก่อนจะไปเช่าโรงแรมรายวันอยู่ แล้วมาถูกจับกุมขณะนั่งดื่มกินกับเพื่อนที่หน้าร้านกระท่อม 

และเมื่อตรวจสอบประวัติพบว่าที่ผ่านมาก่อเหตุปล้นทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง ชิงทรัพย์ 4 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ก่อเหตุคนเดียว เมื่อปี 57 ถูกจับกุมร่วมกับเพื่อนอีก 4 คน ปล้นทรัพย์ปั๊มน้ำมันในพื้นที่ ปากเกร็ด ปทุมธานี ต่อเนื่องกัน 2-3 คืน ได้เงินมาร่วมแสนบาท และเพิ่งพ้นคุกออกมาเมื่อวันที่ 12 เมษายน 65 ก่อนมาถูกจับ เงินที่ได้มาก็เอามากินมาใช้ส่วนตัว ซึ่งถือว่าเป็นประวัติที่น่าหนักใจเพราะผู้ก่อเหตุก่อเหตุซ้ำหลายครั้ง และยังกลับมาก่อเหตุซ้ำแม้ได้รับโทษจำคุกไปแล้ว

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป