ย้อนวีรกรรม "เณรแอ" ต้นตำรับปิ้งย่าง ก่อนโดนเมียเก่าแฉเป็นจอมลวงโลก

ย้อนวีรกรรม "คดีเณรแอ" เริ่มโด่งดังปี 2537 จากคลิปกุมารทอง โดนเมียเก่าแฉเป็นจอมลวงโลก แต่ล่าสุดยังมีคนเลื่อมใส ศรัทธา

ย้อนวีรกรรม "เณรแอ" ต้นตำรับปิ้งย่าง ก่อนโดนเมียเก่าแฉเป็นจอมลวงโลก : กลับมาฉาวโฉ่อีกครั้งสำหรับ "เณรแอ" หรือ นายหาญ รักษาจิตร์ อายุ 63 ปี หลังจากที่หญิงสาวรายหนึ่ง เข้าแจ้งความว่าถูกเณรแอกระทำอนาจาร ทว่า"เณรแอ"ได้ออกมาเปิดใจว่า ตนกำลังคบหากับหญิงสาวคนดังกล่าวฉันสามีภรรยา อีกทั้งยังส่งเสียเลี้ยงดู แต่เมื่อหญิงสาวไม่ได้ตามที่ต้องการ จึงไปร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ซึ่งส่วนหนึ่งตนเองมองว่าฝ่ายหญิงอาจมีปัญหาทางจิต

 

เณรแอ จอมขมังเวทย์

 

 

"เณรแอ" ยืนยันว่า มีหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงิน ใบเสร็จค่าเช่าบ้านและแชทการสนทนาทั้งหมด แต่ช่วงหลังฝ่ายหญิงได้มาข่มขู่จะเอาเงิน และอ้างว่าท้อง แต่ตนเองได้ไปตรวจกับโรงพยาบาลแล้ว ยืนยันว่าเป็นหมัน ไม่สามารถมีลูกได้ จึงรู้ว่าฝ่ายหญิงโกหก และมีชายอื่น จึงได้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ฝ่ายหญิงยังเรียกร้องเงิน 2 แสนบาท แต่ตนเองไม่ยอมจ่ายแล้ว เพราะมองว่าฝ่ายหญิงพฤติกรรมไม่ดี

เณรแอ จอมขมังเวทย์


สำหรับ "เณรแอ จอมขมังเวทย์" หลายๆ คนคงได้ยินชื่อนี้มานานแล้ว ซึ่งประวัติเณรแอคร่าวๆ พบว่า เณรแอบวชเป็นสามเณรอยู่ที่วัดหนองระกำ อ.หนองโดน จ.สระบุรี อยู่นานหลายปี แม้ว่าอายุจะถึงวัยที่ต้องบวชเป็นพระภิกษุ แต่ก็ไม่ยอมอุปสมบท แต่เลือกที่จะร่ำเรียนไสยศาสตร์มนต์ดำแทน 

 

ในปี 2537 "เณรแอ จอมขมังเวทย์" กลายเป็นที่รู้จักทั่วประเทศเพราะถูกจับหลังทำ "กุมารทอง" ตามพิธีโบราณ ที่ต้องย่างศพเด็กทารก ซึ่งเขาใช้ใต้ถุนเมรุวัดหนองระกำทำพิธีปลุกเสก ซึ่งผู้คลั่งไคล้ไสยศาสตร์ เชื่อกันว่า จะทำให้เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน การค้าการขายได้กำไรดี แต่ในพิธีปลุกเสก "กุมารทอง" ได้มีการบันทึกภาพวิดีโอขั้นตอนการปลุกเสกถูกเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ จนกลายเป็นกระแสข่าวดัง และขั้นตอนการย่างทำหลายคนสลดกับภาพที่เห็น

เณรแอ จอมขมังเวทย์

หลังจากนั้น "เณรแอ จอมขมังเวทย์" ถูกกรมการศาสนาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองโดน ให้ดำเนินคดี ในข้อหาอุตริมนุษยธรรมที่ไม่มีตัวตน ทำให้"เณรแอ จอมขมังเวทย์" ติดคุกอยู่ 1 ปีเต็ม

 

 

ต่อมาหลังจาก "เณรแอ จอมขมังเวทย์" พ้นโทษ ก็ได้ใช้บ้านพักทรงไทย ปลูกสร้างอยู่ในเนื้อที่ 5 ไร่ เลขที่ 18 หมู่ 6 ต.หนองโดน อ.หนองโดน จ.สระบุรี เป็นสถานที่ทำเสน่ห์ยาแฝดให้แก่ผู้ที่ศรัทธา และชื่อของ "เณรแอ จอมขมังเวทย์"  ก็ไม่ได้ห่างหายไปจากแวดวงไสยศาสตร์

 


กระทั่งปี 2538 "เณรแอ จอมขมังเวทย์" แต่งงานกับ นางชไมพร รักษาจิตร์ แต่ต้องเลิกรากันไป เนื่องจาก นางชไมพร อ้างว่าทนพฤติการณ์ของ "เณรแอ" ไม่ไหว กรณีบังคับให้หลอกลวงหญิงสาวที่มีปัญหาครอบครัวให้มาทำพิธีไสยศาสตร์ และได้ฟ้องหย่าต่อศาล

เณรแอ จอมขมังเวทย์


จนปี 2548 อดีตภรรยาเข้าร้องเรียนต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวหา "เณรแอ จอมขมังเวทย์" ว่าเป็นจอมลวงโลก มีพฤติการณ์ต้มตุ๋นหลอกลวงประชาชน อ้างพิธีทางไสยศาสตร์หลอกข่มขืนหญิงสาวที่หลงเชื่อ แถมยังแอบถ่ายวิดีโอไว้แบล็กเมล์เหยื่อจนเกิดการสอบสวน และดำเนินคดี "เณรแอ จอมขมังเวทย์" ในที่สุด

 


ในปี 2548 ตำรวจพบ "เณรแอ" นอนอยู่ในห้องพักกับหญิงสาววัย 19 ปี รายหนึ่ง โดยหญิงสาวรายนี้ยอมรับกับตำรวจว่า เดินทางมาพบ "เณรแอ" เพื่อให้ทำเสน่ห์ยาแฝดให้ แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าพิธี จึงต้องยอมร่วมหลับนอนกับ "เณรแอ" แทน การค้นบ้านพักของ "เณรแอ" ครั้งนั้น ยังพบเครื่องรางของขลังและอุปกรณ์การทำพิธีไสยศาสตร์อยู่เต็มบ้าน และยังพบยาไวอากร้า และยากล่อมประสาท ซุกซ่อนอยู่ใต้ฐานพระภายในห้องทำพิธีด้วย

 


และ "เณรแอ" ถูกพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ต่อศาลอาญา เอาผิดฐานฉ้อโกงประชาชน กระทั้งศาลได้พิพากษาจำคุก "เณรแอ" เป็น เวลา 100 ปี แต่คำให้การของจำเลยมีประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง จึงลดโทษให้เหลือจำคุก 75 ปี แต่ตามกฎหมายเมื่อลงโทษจำคุกจำเลยทุกกระทงความผิดแล้ว จำคุกได้ ไม่เกิน 20 ปี

 


อย่างไรก็ตาม "เณรแอ จอมขมังเวทย์" อยู่ในคุกเกือบ 10 ปี ก่อนได้รับอิสรภาพจากการเป็นหนึ่งในผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2558 และยังมีชื่อเสียงแวดวงไสยศาสตร์ ซึ่งเจ้าตัวเคยประกาศหลังพ้นโทษว่า ยึดมั่นสายอาชีพไสยศาสตร์ โดยกลับใจไม่เล่นมนต์ดำแต่หันหาคุณไสยสายพุทธคุณ กระทั่งมีประเด็นกับหญิงสาวล่าสุด 

 

เณรแอ จอมขมังเวทย์