- 20 พ.ย. 2566
ตำรวจตั้ง 3 ปม คดีคนร้ายยิงเด็กนักเรียนดับที่เขตดุสิตเมื่อเช้านี้ แกะรอยจากกล้องวงจรปิดพบเบาะแสสำคัญในการติดตามตัวคนร้าย
คืบหน้ากรณียิงนักเรียนดับที่เขตดุสิต เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตํารวจนครบาล ได้เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีกับทีมพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวน ที่ สน.ดุสิต โดยได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนระบุว่า คดีนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้สั่งการให้ทีมสืบสวนนครบาล ลงมาร่วมมือทำการสืบสวนสอบสวน คดีนี้ เบื้องต้นได้ตั้งประเด็นแนวทางการสืบสวนเอาไว้ 3 ข้อ ได้แก่ เรื่องความขัดแย้งส่วนตัวของผู้เสียชีวิต เรื่องความขัดแย้งของเพื่อนผู้เสียชีวิต และเรื่องต่างสถาบัน
ซึ่งหลังจากการประชุม ก็ได้ดำเนินการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจนแล้ว ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนทำงานอย่างละเอียดก่อน ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่าเป็นฝีมือต่างสถาบันหรือไม่ เชื่อว่ามีการวางแผน แต่ไม่ได้วางแผนอย่างซับซ้อน
โดยจากภาพวงจรปิดพบว่า คนร้ายมาด้วยรถจักรยานยนต์ 2 คันมากัน 3 คน เป็นรถจักรยานยนต์ที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นนักเรียนหรือเยาวชน เพราะสวมหมวกกันน็อคทั้ง 3 คน ส่วนอาวุธปืนที่พบในที่เกิดเหตุยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นปืนที่ใช้ยิงผู้เสียชีวิตหรือไม่ ต้องรอการตรวจสอบทางนิติเวชโดยละเอียด ส่วนอาวุธนี้ที่พบในที่เกิดเหตุ แน่ชัดแล้วว่าเป็นอาวุธมีดของผู้เสียชีวิตที่พกเอาไว้ป้องกันตัว ซึ่งจากภาพวงจรปิด พบว่าผู้เสียชีวิตได้ใช้อาวุธมีดดังกล่าวป้องกันตัวด้วยการแทงไปที่ผู้ก่อเหตุหลายครั้ง จึงวิเคราะห์ว่าคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บและต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหรือคลินิกในเขตกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล ซึ่งขณะนี้ได้ให้ชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าสืบสวนตามโรงพยาบาล
ซึ่งหากสามารถสืบสวนได้แน่ชัดแล้วว่าคนร้ายเป็นใครจะดำเนินการฝากประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนและสื่อมวลชนแจ้งไปเบาะแสผู้กระทำความผิดทั้ง 3 คนและรถจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุต่อไป ส่วนประชาชนหากเห็นว่ามีชาย 3 คนมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเนื่องจากถูกแทงด้วยอาวุธมีด ก็สามารถแจ้งเบาะแสมาที่สืบนครบาลหรือตำรวจ สน.ดุสิต ได้ จะดำเนินการปกป้องข้อมูลความลับให้
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช ยังกล่าวแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นนักศึกษา ปวช.ชั้นปีที่ 2 ของวิทยาลัยเทคนิคดุสิต ซึ่งเบื้องต้นยังไม่พบว่าเคยมีประวัติขัดแย้งกับใคร ส่วนตัวสถาบันนั้นอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่ามีสถาบันคู่อริหรือไม่ ทั้งนี้ยังไม่พบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ยิงกันที่คลองเตย เพราะเป็นคนละสถาบันแต่ก็จะพยายามเร่งไล่ล่าตัวคนร้ายจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำรอยขึ้นอีก