เผยคำพูดลูกสาวคุกเข่าขอร้อง "โรแลนด์" จนยอมสารภาพปลิดชีพ "อรทัย"

จากกรณีพบร่างนางสาวอรทัย โพสีงาม อายุ 46 ปี ที่หายตัวไป โดยนายโรแลนด์ สามีฝรั่งชาวสวิตเซอร์แลนด์ วัย 53 ปี ได้ยอมรับสารภาพในที่สุดว่าเป็นผู้ลงมือสังหารภรรยาและนำร่างไปทิ้งไว้ในไร่ข้าวโพด ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยืนกรานไม่รู้เห็นและยังแสดงความเสียใจอย่างหนักที่ภรรยาหายไปไร้ข่าวคราว ทั้งนี้ได้มีการเปิดเผยว่าที่นายโรแลนด์ยอมรับสารภาพเป็นเพราะคำขอร้องของลูกสาวซึ่งเป็นลูกติดนางสาวอรทัย

 

 

โดยเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2567 มีการพบศพ นางสาวอรทัยในไร่ข้าวโพด ต่อมา นายโรแลนด์ จำนนต่อหลักฐานให้การรับสารภาพแล้วว่า สาเหตุที่ลงมือก่อเหตุเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ของวันที่ 8 มกราคม 2567ที่ผ่านมา นายโรแลนด์ได้มีปากเสียงกับภรรยาในบ้านพักเนื่องจากความหึงหวง เพราะนายโรแลนด์ต้องการเดินทางไปหาเพื่อนที่พัทยาเพียงลำพัง

นายโรแลนด์ ให้การต่อว่า จึงทำให้ภรรยาเกิดความระแวง เพราะที่ผ่านมาภรรยาก็สงสัยว่านายโรแลนด์มีผู้หญิงอื่นอยู่ก่อนแล้ว จนเกิดการทะเลาะวิวาทกัน ก่อนที่นายโรแลนด์จะใช้มือบีบคอภรรยาจนเสียชีวิต จากนั้นนำร่างขนใส่รถจักรยานยนต์ แล้วนำมาทิ้งที่ไร่ข้าวโพด ห่างจากบ้าน 6 กิโลเมตร สภาพศพ อรทัย อ้าปากค้าง ขา 1 ข้างเปื่อยเห็นกระดูกแล้ว โรแลนด์เอาไพ่แจ๊คโพธิ์แดงยัดปาก ปิดด้วยสก๊อตเทป

 

ทั้งนี้มีการเปิดเผยว่าที่นายโรแลนด์ยอมรับสารภาพเป็นเพราะลูกสาวซึ่งเป็นลูกติดของนางสาวอรทัยคุกเข่าขอร้อง โดยลูกสาวเล่าว่าได้คุกเข่าลงและพูดกับโรแลนด์ว่า

"หนูรักโรแลนด์เหมือนพ่อ ที่มาเติมเต็มชีวิตครอบครัวหนู ไม่ว่าแม่จะมีชีวิตอยู่หรือไม่ หนูรับได้ ขอแค่ช่วยพาหนูไปหาแม่นะ" จึงทำให้นายโรแลนด์ใจอ่อนยอมสารภาพออกมา

 

 

ว่าตอนแรกที่ทะเลาะกันตนจะถูกภรรยาใช้มีดพยายามทำร้าย 3 - 4 ครั้ง จนไม่ไหวก็เลยบีบคอจนแน่นิ่งไปแล้วอุ้มนางสาวอรทัยออกทางหน้าต่าง จากนั้นนำร่างนั่งด้านหน้ารถจักรยานยนต์ นำหมวกกันน็อคมาสวมใส่ให้ แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์โดยใช้ขาทั้งสองข้างประคองร่างภรรยาไว้

จากนั้นขับขี่ไปเรื่อย ๆ ไม่มีจุดหมายกระทั่งไปเจอจุดตรงไร่ข้าวโพด จึงจอดรถแบกร่างภรรยาไปทิ้งแล้วโยนหมวกกันน็อคทิ้งไปทางด้านซ้าย และนำรถจักรยานยนต์ไปจอดทิ้งไว้ที่คันนา ห่างจากบ้านพักประมาณกว่า 1 กิโลเมตร