- 31 ม.ค. 2561
*เตรียมตัวกันให้ดี!!! ปรากฎการณ์ “พระจันทร์สีเลือด” ครั้งแรกในรอบ 150 ปี เตือน!ใครดวงตกอย่าออกจากบ้าน ส่งผลต่อชะตา คืนแรงไม่เชื่ออย่าลบหลู่!!!
“ซูเปอร์มูนสีเลือด” ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในรอบ 150 ปี ในคืนวันที่ 31 มกราคม 2561 ที่กำลังมาถึงนี้ จะเกิดปรากฏการณ์พิเศษบนท้องฟ้า ที่หาดูได้ยากยิ่ง เป็นปรากฏการณ์ของดวงจันทร์ 3 อย่างเกิดขึ้นพร้อมกัน คือ ซูเปอร์มูน (Supermoon) บลูมูน (Blue Moon) และ บลัดมูน (Blood Moon) ที่สำคัญคนไทยสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเต็มที่อีกด้วย !
"ซูเปอร์มูน" คือ พระจันทร์เต็มดวง ที่เกิดขณะที่ดวงจันทร์โคจรมาอยู่ใกล้โลกมากที่สุด ทำให้เห็นดวงจันทร์มีขนาดใหญ่กว่าปกติ บลัดมูน หรือ พระจันทร์สีเลือด คือ จันทรุปราคาเต็มดวง แบบที่มองเห็นดวงจันทร์ที่อยู่ในเงามืดของโลกเป็นสีแดงเข้ม ส่วนปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเป็นปรากฏการณ์ที่เห็นได้ค่อนข้างบ่อย ปีละอย่างน้อย 2 ครั้ง บางปีอาจมากถึง 4 – 5 ครั้ง เกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ เรียงตัวอยู่ในแนวเดียวกันพอดี หรือใกล้เคียงมาก จันทรุปราคามีทั้งแบบเต็มดวงและบางส่วน สีของดวงจันทร์เมื่อเกิดจันทรุปราคาแต่ละครั้งจะไม่เหมือนกัน มีทั้งมืดแทบมองไม่เห็น สีเทา สีน้ำตาล สีแดงเข้ม สีอิฐ และ สีส้ม หากเห็นเป็นสีแดงเข้มเราเรียกว่าพระจันทร์สีเลือด หรือ บลัดมูน
ในความเชื่อของคนไทยการเกิดพระจันทร์สีเลือด เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงเหตุร้ายในบ้านเมือง ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเคยเล่าให้ฟังว่าในสมัยก่อนท่านได้มองพระจันทร์ที่กลายเป็นสีแดงดั่งเลือดในคืนวันหนึ่งซึ่งทำให้ท่านรู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่ได้เห็น จนในช่วงไม่เกินหนึ่งเดือนต่อมา จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตรีก็เสียชีวิตลง เหตุการณ์ดังกล่าวอาจไม่มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างชัดเจนแต่ก็อิงกับหลักสถิติ ที่มักมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นตามมาเมื่อเกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ ถือว่าแรง และในวันนี้นักไสยศาสตร์บางคนก็จะถือโอกาสปล่อยของ ประลองวิชา พูดได้ว่าถ้าใครดวงไม่ดี ดวงตก ก็อย่าได้เดินทางออกจากที่พักไปไหน ส่วนใครที่มีของขลังสายพราย สายมนต์ดำ สายคงกระพันชาตรี ก็มักจะนิยมนำออกมาปลุกเสกในคืนนี้
และในปี 2561 นี้ ขอให้ระมัดระวังในเชิงของการทำงาน การตัดสินใจอาจจะมีข้อผิดพลาด เรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง จะกลายเป็นเรื่อง เรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ปัญหาในเชิงของคดีความความขัดแย้งจะเกิดขึ้น การเดินทาง อุบัติเหตุ ขอให้ใช้สติ ใช้ ความระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น และการเกิดปรากฏการณ์พวกนี้อาจจะส่งผลทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บในแบบที่หาสาเหตุลำบาก หากพ้นจากเดือนนี้ไปทุกอย่างจะกลับสู่สภาวะปกติ ดังนั้นแนะนำว่า การทำบุญ ไหว้พระ ถวายสังฆทาน บริจาคเงินให้กับโรงพยาบาล มูลนิธิ สวดมนต์พระคาถาสุริยะบัพพา ก็จะเป็นการแก้เคล็ดดวงดาวได้
***บทสวดป้องกันภัยจาก สุริยุปราคาและจันทรุปราคา***
(ตั้งนะโม 3 จบ)
พระคาถาสุริยะบัพพา
กุสเสโตมะมะ กุสเสโตโต ลาลามะมะ
โตลาโม โทลาโมมะมะ โทลาโมมะมะ
โทลาโมตัง เหกุติมะมะ เหกุติฯ
พระคาถาจันทบัพพา
ยัตถะตังมะมะ ตังถะยะ ตะวะตัง
มะมะตัง วะติตัง เสกามะมะ
กาเสตัง กาติยังมะมะ ยะติกาฯ
กล่าวคำถวายเครื่องสังเวย คำถวายเครื่องสังเวยพระราหู
"นะโมเม พระราหูเทวานัง ธูปะทีปะ
จะปุปผัง สักการะวันทะนัง สูปะพะยัญชะนะ
สัมปันนัง โภชะ นานัง
สาลีนัง สะปะริวารัง อุทะกังวะรัง
อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สัพพะทา
หิตายะ สุขายะ พระราหูเทวา
มะหิทธิกา เตปิ อัมเห
อะนุรัก ขันตุ อาโรคะ
เยนะ สุเขมะจะฯ"
"ข้าแต่พระราหูผู้ยิ่งใหญ่ ข้าพเจ้า(ชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด)
ขอบูชาพระราหูด้วยของดำ (8หรือ12) อย่าง
ขอให้อิทธิพลของพระราหูจงส่งผลดีแก่ดวงชะตาของข้าพเจ้า
ขอให้หน้าที่การงานก้าวหน้า ค้าขายรุ่งเรืองมีกำไร
ขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรงปราศจากโรคร้ายใดๆ
ขอให้เดินทางปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ
ขอพรพระราหูโปรดเมตตาบันดาลให้ข้าพเจ้าบังเกิดโชคลาภ
ขอให้พรสำเร็จแก่ข้าพเจ้า (อธิฐานเรื่องอื่นๆที่ปรารถนา)…….
เมื่อไหว้ขอครบทุกคนแล้ว ธูปเหลือเล็กน้อย (เกือบหมด) ให้อธิษฐานขอบพระคุณที่พระราหูเมตตารับเครื่องเซ่นสังเวย และประทานพรให้กับทุกคำอธิษฐาน จากนั้นอธิษฐานขอเครื่องสังเวยมากินเป็นยา กินเพื่อเสริมสิริมงคล ของไหว้สามารถรับประทานได้ ถ้ารับประทานไม่หมด สามารถเก็บไว้กินวันหลัง หรือมอบให้ผู้อื่นกินด้วยก็ได้ ถือเป็นการให้ทานอย่างหนึ่ง พึงระลึกเสมอว่า ของเซ่นไหว้เป็นของกิน ของมีประโยชน์ อย่าตั้งวางจนเน่าเสียไม่ได้ประโยชน์ ถือเป็นโทษ
***ทริคไหว้พระราหูนี้หากไม่มีความพร้อม อาจจะไหว้ด้วยธูป 12 ดอก หรือ ไหว้ด้วยมือเปล่าก็ได้ แต่ที่สำคัญ พระราหูคือนักเลง จะสวด จะอธิษฐาน ขอให้เสียงดังฟังชัด แล้วความสมหวังก็จะมาแบบชัด ๆ เพื่อรับพลัง และเสริมโชค เสริมดวง เฮงเฮง รวยรวย แก้อาถรรพ์ พระราหู"
ที่มา: www.lottozeed.com






