ลือให้แซด!!! อดีตพระเอกที่เคยโด่งดังตั้งแต่9ขวบ "แน็ก ชาลี" เรียนไม่จบ ติดยา ติดหญิง จนตกอับไม่มีใครจ้าง!! (มีคลิป)

         เรียกได้ว่าโด่งดังตั้งแต่อายุ 9 ขวบกับบทบาท "เจี๊ยบ" แฟนฉัน ภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ "แน็ก ชาลี" ดังเป็นพลุแตกชั่วข้ามคืน ล่าสุด เจ้าตัวมาเปิดใจ ในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง one31  เคลียร์ประเด็นชีวิตติสต์แตกเบื่อวงการงดรับงานแต่ที่จริงแล้วที่หายไปเพราะเจ้าตัวติดยา ติดหญิง จนทำให้เรียนไม่จบ 

.

.

.

 

ย้อนกลับไปตอนหนังเรื่องแฟนฉันอายุเท่าไหร่

"ตอนนั้น 9 ขวบครับ อยู่ ป.4 ตอนนี้ 25 แล้ว"

ก่อนเล่นหนังเราได้เรียนแอ็คติ้งเพิ่มเติมมั้ย

"ผมว่ามันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเด็กทั่วไปเลยนะ ที่ไม่รู้เยอะ ไม่ได้ทำงานมาเยอะ พอเขาเล่นใหม่ๆ มันจะดูธรรมชาติมาก แค่ผู้กำกับบอกให้ลองพูดอันนี้ซิ เด็กก็จะดูธรรมชาติ ไม่เหมือนผู้ใหญ่ที่จะพยายามแสดงมันคนละอย่างกัน

จากวันนั้นถึงวันนี้คนยังจำเราในบทนั้นได้ไหม

"ยังจำแต่เป็นเจี๊ยบเลย ยังเรียกว่าเจี๊ยบแฟนฉันเลย"

ตอนที่เรา 9 ขวบ แล้วดังมากเวลาไปไหน มาไหน เป็นยังไงบ้างช่วงนั้น

"มันก็จะแปลกๆ บ้าง เพราะเราเรียนหนังสืออยู่ แล้ววันที่หนังฉายวันแรกก็มีเด็กๆ วิ่งตามทั้งโรงเรียนเต็มเลย ไปข้างนอกก็มีแต่คนเข้ามาหา"

ความรู้สึกเป็นไง เบื่อมั้ย

"ผมไม่เบื่อนะ เพราะได้ทำงานกับเด็กอายุเท่ากัน ได้เจอเพื่อน ได้หยุดเรียน (หัวเราะ)"

พอเรามีชื่อเสียงขึ้นมา มันทำให้เราหลงตัวเองมั้ย

"ผมไม่หลงตัวเองนะ ผมเป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้"

ช่วงที่เราห่างจากวงการไปมีข่าวเม้าว่าเราดังเร็วตั้งแต่เด็ก เกิดอาการติสต์แตก เลยทำให้ไม่มีงาน

"ผมว่าไม่เกี่ยว ถ้าคนที่รู้จักเราจะรู้ว่าเรามีงานเยอะมากในด้านการแสดง แต่อาจจะไม่ใช่บทพระเอก หรือช่องใหญ่อะไร ผมรู้สึกว่าบทไหนที่เราเข้าไม่ถึง ไม่อยากเล่น เราก็ไม่อยากทำ ผมชอบเลือก"

ช่วงที่หายไป ไปทำอะไร

"ผมไปฝึกดนตรี ไปทำดนตรี จริงๆส่วนตัวแต่ก่อนชอบเล่นน้ำมาก ผมชอบเล่นกีฬา ไปอยู่ตามแม่น้ำ"

 

 

ที่โดนว่าคำว่าติสต์ เราเข้าใจคำว่าติสต์มั้ย

"เราก็ไม่เข้าใจนะ เราก็บอกตลอดว่าเราไม่ได้ติสต์นะ คือผมอาจจะเป็นคนที่ไม่ได้คิดว่าเรามีโอกาสทำงานนะ รีบทำงานเก็บเงินเอาไว้ใช้ตอนแก่ ตอนนี้ก็เลยเป็นแบบนี้ ไม่มีเงินเลย (หัวเราะ) เป็นคนชอบทำงานเรื่อยๆ พอมีเงินแล้วก็หยุดทำงาน ช่วงไหนที่ไม่มีเงินแล้วก็ค่อยกลับมาทำงาน (ยิ้ม)"

แสดงว่าที่ผ่านมามีงาน แต่ถ้างานไม่ชอบคือไม่รับ

"งานไม่ชอบ ไม่รับ งานที่ดีเกินไปก็ไม่รับ ผู้ใหญ่บางคนเขาจะเข้าใจผิด เอาความชอบส่วนตัวมา คือเขาชอบเราอยากให้เราไปแสดงบทดีๆ ในละครหรือหนังเรืองนั้น เราก็ไม่กล้าเล่นนะ"

ได้บทดีๆ เรื่องดีๆมันน่าจะเล่นนะ 

"เราจะเป็นคนกลัวอะไรแบบนี้ ไม่อยากทำอะไรที่ไม่มั่นใจ"

แล้วไม่รู้สึกว่ามันทำให้เราเสียโอกาสเหรอ 

"รู้สึกแค่บางเรื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นหนังที่เราไม่รับมัน ตอนหลังก็แอบเสียดายนิดนึง"

ถ้าย้อนกลับไปวันวานได้จะรับไหม

"ถ้าย้อนกลับไปได้ จะทำงานทุกงานเลย เก็บตังค์ 

แล้วที่ผ่านมาที่บอกว่ากลัว ไม่กล้ารับ กลัวอะไร

"บางเรื่องเหมือนเราเป็นคนไม่มั่นใจจริงๆ นะ มีงานอะไรใหญ่ๆ ให้เราไป เราไม่กล้าไปเลยนะ อย่างงานอีเว้นท์นี่ผมไม่รับเลยนะ ทั้งที่เป็นงานที่เงินเยอะ ที่ไม่ชอบทำก็เพราะเป็นเหตุผลส่วนตัวครับ"

แล้วประเด็นที่บอกว่าช่วงวัยรุ่นเราติดยาล่ะ

"ถ้าเรื่องยานี่ผมบอกได้เลยว่าผมไม่เคยแตะเลย บุหรี่นี่ผมดูดบุหรี่ครั้งเดียวตอนอยู่กับผู้ใหญ่ แล้วก็กินเหล้าครั้งนึงตอนไปงานเกี่ยวกับหนังเนี่ยแหละ ตอนนั้นอายุประมาณ 13-14 ได้ มีแต่ผู้ใหญ่ส่งให้เรากิน ไม่มีใครห้ามเราเลย สุดท้ายไปนั่งไหว้ต้นไม้ อ้วกแตก หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยแตะอีกเลย"

อะไรที่ทำให้เราคิดว่าแย่ที่สุดในช่วงวัยรุ่น

"น่าจะเป็นช่วงที่เราไม่อยากทำงานเนี่ยแหละ แล้วก็เรื่องเรียนด้วย เรารู้สึกว่าเรากระตือรือร้นมากในเรื่องที่ชอบ พอไปเรียน เรียนได้ปีนึง อยู่ดีๆ คิดอะไรไม่รู้อยากออกไปหาปลา ก็ออกไปเลย ออกไปหาปลามาเลี้ยงที่บ้าน ที่บ้านมีพี่น้อง 6 คน เรียนจบดีๆ กันหมดทุกคน มีผมคนเดียวที่ยังเรียนไม่จบ

แล้วตอนนี้พร้อมจะกลับมารับงานในวงการหรือยัง

"ตอนนี้ผมอยากลุยงานเพลง ผมอยากประสบความสำเร็จเรื่องเพลง แต่มันก็ยากมากๆ เพราะคนจะติดภาพที่เราเป็น เจี๊ยบ แฟนฉัน แล้วเสียงเราก็เป็นแบบนี้ พอเราร้องเพลง เค้าก็จะไม่ค่อยเปิดใจให้เรา ยังไงผมก็จะตั้งใจให้ดีที่สุดครับ"

 

.

.

.

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : sanook , รายการคุยแซ่บโชว์