เกชา เปลี่ยนวิถี อายุ 93 ปี แต่ยังแข็งแรงไม่เปลี่ยน

ห่างหายไปนาน สำหรับ เกชา เปลี่ยนวิถี เดิมมีอาชีพเป็น นักเลง เริ่มชีวิตการแสดงตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2498 โดยรับบทพระเอกในภาพยนตร์ ที่มีชื่อเสียงคือเรื่อง ไพรกว้าง 2499 ของละโว้ภาพยนตร์ ทำให้ได้รับเลือกเป็น สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ใน นเรศวรมหาราช ของอัศวินภาพยนตร์ 

 

 

โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล พ.ศ. 2500 คู่กับ รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง แต่ถูกจับด้วยข้อหา เป็นภัยต่อสังคม ก่อนเริ่มถ่ายทำ ในช่วงปลายของรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม เนื่องจากอาชีพคุมคิวรถเมล์ และถูกจำคุกนานหลายปี ส่วนบทนำในภาพยนตร์ เสด็จพระองค์ชายใหญ่ทรงคัดเลือก ชูชัย พระขรรค์ชัย มาแสดงแทน
 

หลังพ้นโทษจำคุก ก็ไปทำงานโรงโม่หิน ที่จังหวัดราชบุรี และได้รับการชักชวนจาก ปริญญา ทัศนียกุล ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เพชรตัดเพชร ให้มารับบทนำ หัวหน้าฝ่ายผู้ร้าย พบดารานำชื่อดังแห่งยุค มิตร ชัยบัญชา , ลือชัย นฤนาท และ เพชรา เชาวราษฎร์ เมื่อ พ.ศ. 2509 จนมีชื่อเสียงโด่งดังอีกครั้ง มีงานแสดงต่อเนื่องมากมาย ก่อนพักงานแสดงยาวนาน 22 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2530

 

 

และกลับมารับงานแสดงอีกครั้งเรื่อง ห้าแพร่ง พ.ศ. 2552 ของจีทีเอช ตอน ห้องเตียงรวม แสดงเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล เตียงข้างเคียงกับ แดน วรเวช ดานุวงศ์

 

 

ถึงแม้ตอนนี้อายุของเกชาจะปาเข้าไปกว่า 94 ปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่า เกชา เปลี่ยนวิถี ยังคงมีสุขภาพที่แข็งแรงดี ถึงแม้จะดูผอมแห้งไปบ้าง โดย ฤทธิ์ ลือชา ได้กล่าวว่า

 

 

พี่เกชาไม่ได้ป่วยอะไรเลย แค่แก่ (หัวเราะ) เรียกว่าเป็นโรคชราก็ได้เพราะว่าอายุ 93 แล้ว ปกติผมก็จะไปมาหาสู่พี่แกประจำ พี่เกชาสุขภาพดีมากๆ ตอนนี้แค่เดินไม่ค่อยได้อย่างเดียว เพราะเขาไม่ดี เอาเป็นว่าแฟนๆ ไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้พี่เกชามีพยาบาลคอยดูแลอยู่ ลูกสาวของเขาจัดพยาบาลมาให้ดูแลอย่างดี อยู่อย่างดี สบาย อาบน้ำ ทาแป้ง ตัวขาว แต่ด้วยวัยตอนนี้ก็อาจจะดูซูบผอมลงไปหน่อย เพราะปกติแต่ก่อนพี่เกชาเป็นคนออกกำลังกายประจำ ตอนนี้พี่เกชาเป็นโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิด ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นมัสยิดที่เขาสร้างมาด้วยตัวของเขาเองในที่ดินของเขาเอง

 

ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2553 สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งเหตุจากให้ช่วยสกัดจับรถคนร้ายลักพาตัวดาราอดีตดาวร้ายชื่อดัง เกชา เปลี่ยนวิถี เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังมากสัดรถยนต์โตโยต้า เฟอร์จูเนอร์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียนป้ายแดง ก-1374 ขอนแก่น ซึ่งมี นายเกชา นั่งมาในรถ ขณะที่รถวิ่งมาตามถนนพหลโยธิน(ขาออก) หน้าม.กรุงเทพ  กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจึงดักสกัดได้ เมื่อตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบ นายเกชา เปลี่ยนวิถี ดาราดาวร้ายชื่อดังรุ่นเก่า นั่งอยู่ในรถจริง 

 

 

หลังจากนั้น เกชา ได้ให้การว่า ตนเป็นคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เดินทางมากับ นายเสรี ปาทาน คณะกรรมการฯด้วยกัน เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด ก่อนเกิดเหตุเดินทางมาดูมัสยิสแก้วนิมิตรเพราะจะนำไปเป็นแบบสร้างยังที่ต่าง ๆ แต่ผู้ที่แจ้งตำรวจคงจะเข้าใจผิดว่ามีคนลักพาตัวตนมา เพราะในวันนี้ที่ศูนย์เฉลิมพระเกียรติ คลองเก้า มีนบุรี มีการประชุมเลือกประธานเมาลิสแห่งประเทศไทย เกรงว่าในที่ประชุมจะขาดองค์ประชุมไม่ครบจึงได้โทรแจ้งตำรวจให้สกัดจับ

 

 

ด้าน นายเลาะ ยิ่งนิยม คอเปมัสยิสแก้วนิมิตร เปิดเผยว่า นายเกชา เปลี่ยนวิถี พร้อมพวกติดต่อจะเดินทางมาที่นี่จริงแต่เป็นการเดินทางมาดูสถานที่สร้างมัสยิดเท่านั้น ซึ่งหลังจากเจรจากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเสร็จ นายเกชา จึงเดินทางกลับทันที