น้องอร สวนกลับ ศิริพร ลั่น ไม่คิดแย่งผัว

จากกรณี "ศิริพร อำไพพงษ์" ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก บอกว่า พรนิต้าคลินิก #ปิดบริการถาวรแล้วนะคะ อย่าหลงไปทำ ทั้งคนที่อยากทำศัลยกรรม และคุณหมอนะคะ ทุกอย่างมีกฏหมาย หยุดเอาชื่อพี่นางไปแอบอ้างได้แล้วนะคะ #แชร์ช่วยพี่นางด้วยนะคะ

ทั้งนี้หากย้อนไปดูธุรกิจคลินิกที่เจ้าตัวลงทุนควักเงินหลายล้านเปิดนั้น ได้ตั้งใจให้ลูกสาวบุญธรรมที่รับเลี้ยง มาดูแล โดยได้เปิดตัวลูกสาวบุญธรรมด้วย ชื่ออรนภา  ดวงดี ซึ่งเจ้าตัวออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า เนื่องจากตนไม่มีลูกจึงรับเลี้ยงลูกบุญธรรมคนนี้ได้ 8-9 ปีแล้ว ไม่ปฏิเสธว่ามีเงินเก็บร้อยล้านจริง แต่เป็นเพราะตนทำงานเพลงมานานหลายปี พร้อมยอมรับส่วนเล็กๆ ก็ได้มาจากการเล่นลอตเตอรี่ที่มักจะถูกบ่อยๆ จึงอยากเปิดคลินิกเสริมความงาม 
 

 

โดยก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊กเจ๊เผือก ได้โพสต์ข้อความเล่ารายละเอียด สาเหตุเบื้องหลังที่นักร้องคนดังประกาศปิดคลินิก ทั้งที่เพิ่งเริ่มทำมาได้ปีกว่าๆ ระบุว่า "สรุปสั้นๆนะคะ อรนภาคือคนที่พี่นางเอามาเป็นลูกบุญธรรม พี่นางเห็นว่าอรนภามีความสามารถเรื่องการทำความสวยความงาม พี่นางจึงเปิดคลีนิคให้อรนภาดูแล ต่อมาอรนภาแอบกินกับสามีของพี่นาง ผู้ซึ่งที่อรนภาเรียกว่าพ่อ เมื่อพี่นางจับได้จึงตีตัวออกห่าง ซึ่งพี่นางใจเย็นมาก แอบเฝ้าดูพฤติกรรมของทั้งสองเป็นเวลาหลายเดือน

 

เมื่อทุกอย่างแน่ชัดแล้ว พี่นางจึงตัดสินใจตัดทุกอย่างออกจากชีวิต อะไรที่เป็นการใช้ชื่อพี่นางทำธุระกรรม พี่นางทำการยกเลิกทั้งหมด และไม่เรียกร้องใดๆทั้งสิ้น มาวันนี้อรนภาออกมาโพสใส่ความแม่นางต่างๆนาๆ ยังไม่รวมถึงการรวมหัวกับพ่อเลี้ยงที่เอาทำผัวโกงเงินพี่นางกันอีก ไม่น่าเชื่อนะ พี่นางจะทำใจได้และใจเย็นมาก เชือดแบบนิ่มๆทิ้งเลย ทั้งๆที่พี่นางทุ่มเทและสอนทุกอย่างให้กับเด็กคนนี้แบบรักเหมือนลูกตัวเองด้วยซ้ำ"

เมื่อตรวจสอบในเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า อรนภา ดวงดี ลูกสาวบุญธรรม ได้โพสต์ข้อความว่า "ตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.61 วันแกรนด์โอเพนนิ่งเปิดกิจการซึ่งเป็นเวลาผ่านมาเกือบปี วันนั้นแม่ได้พูดไว้ว่าแม่ให้หนูดูแลกิจการและขอให้เจริญรุ่งเรืองนะลูกนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา หนูก็ปฏิบัติตามที่แม่สั่งไม่ให้ขาดตกบกพร่อง หนูดูแลลูกค้า หาลูกค้า เพื่อให้มีรายได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายได้ทั้งหมดหักค่าใช้จ่ายเหลือแล้ว หนูได้ทำการโอนเงินเข้าบัญชีแม่ทั้งหมด"

"อยู่มาวันหนึ่งแม่มีคนเข้ามาในชีวิต ใหม่ของแม่ แล้วแม่ก็ทิ้งพวกหนูไป ให้เผชิญชีวิตคิดเองทำเองไปตามยถากรรม พ่อซึ่งป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ 4 วิ่งเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น หลาน 2 คน 8-9 ขวบที่แม่เคยรัก ก็เฝ้าถามหา หนูก็ไม่รู้จะตอบคำถามกับหลานยังไง ว่าแม่ไปไหน"

"ผู้หญิงคนนั้น??? ชื่อเล่น ล เมื่อ 8 เดือนที่ผ่านมา ผู้หญิงคนนี้ เดินเข้ามาในคราบของเศรษฐีนักบุญเริ่มต้นจากการโอนเงินร่วมทำบุญ 100,000 บาท ในนามชื่อเธอและบริษัททับทิมศิลาจำกัด เพื่อร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน และร่วมเป็นเจ้าภาพบวชพระ หลังจากนั้นเธอก็ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม รวมถึงเสื้อผ้าแบรนด์เนมให้เปลี่ยนใหม่ให้ทั้งตู้ ทำให้การแต่งตัวเปลี่ยนไปจากเดิม โทรศัพท์คุยกันทั้งวันทั้งคืนจนดึกดื่น"

 

"หลังจากนั้นก็ชวนไปอยู่อาศัยบ้านเดียวกันกับเธอ เธอเอาใจสารพัดทุ่มเทซื้อเพชรให้ ให้เงินใช้จ่ายพาไปดูเงินสดในกระเป๋า 200 ล้านที่ผู้หญิงคนนี้เก็บไว้ที่บ้านอีกหลังหนึ่งพาไปเที่ยวญี่ปุ่น หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาจากการทำบุญ และใช้วิธีเปย์เงิน เปร์ความเป็นอยู่ที่เลิศหรูให้แล้ว เธอก็จะกันคนใกล้ชิด ให้ออกไปจากชีวิต จะต้องมีแค่เธอผู้หญิงคนนี้เท่านั้น เธอเป่าหูให้ร้าย เสี่ยมเสียเรื่องชู้สาว ขณะที่เธอพาไปอยู่บ้านของเธอ ไม่ว่าจะไปไหนผู้หญิงคนนี้จะติดตามไปด้วยตลอด นั่งตรงไหน เธอก็จะต้องนั่งเบียดตัวชิดติดกันทุกเวลาทุกสถานที่ หากใครเห็นก็คงมองเหมือน คู่รัก"

 

 

ขณะที่ศิริพร อำไพพงษ์ เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า “ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานแล้ว เป็นปีแล้ว คลินิกเป็นของพี่ซึ่งพี่ใช้เงินส่วนตัวเปิดเอง 10 ล้านบาท ไม่ได้หุ้นกับใคร เป็นเงินของพี่ล้วนๆ เพราะฉะนั้นถ้าพี่จะปิดก็เป็นสิทธิของพี่ และที่พี่ต้องปิดก็เพราะว่าไม่มีหมอที่มาดูคลินิกแล้ว พี่ตั้งใจขายคลินิกและบ้านเพื่อไปอยู่ที่ต่างประเทศ  เรื่องที่เป็นข่าว มันเป็นเรื่องที่น่าอายมากที่ไม่เคยออกจากปากพี่

แต่ถึงพี่ไม่พูด แต่ก็คิดว่าคงรู้กันแล้ว อย่าให้พี่พูดเรื่องนี้เลยนะ มันเป็นเรื่องน่าอาย แล้วตอนรักกันก็ไม่เห็นพูดแบบนี้ เพราะฉะนั้นพี่ไม่อยากพูดอะไร ที่ผ่านมาพี่ก็ไม่เคยออกมาพูดเลย เรื่องนี้พี่จะไม่โทษใคร คิดเสียว่าเป็นเรื่องของโชคชะตา เรื่องของเวรกรรมต่อกัน พี่อาจจะบ้าบุญก็ได้ แต่บุญก็ช่วยพี่ได้มาก

ล่าสุดสืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้น วันนี้ (17/06/2562) รายการโหนกระแสวันที่ 17 มิ.ย. โดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัดออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.45 – 14.25 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ อรนภา ดวงดี หรือ "น้องอร" ลูกบุญธรรมศิริพร อำไพพงษ์ 

ตกลงคุณเป็นลูกบุญธรรม ?
อร : "คุณแม่เรียกหนูว่าลูกบุญธรรม แต่ไม่ใช่การจดเป็นลูกบุญธรรมอะไรนะคะ"

นามธรรมคือลูกบุญธรรม ?
อร : "ค่ะ เขาบอกว่าลูกสาวหนู ลูกบุญธรรมพี่นาง"

ในรายการตีท้ายครัวเขาเรียกคุณว่าลูกบุญธรรมและทุกคนรู้ว่าคุณจัดแจงทุกอย่าง ?
อร : "ใช่ค่ะ"

ล่าสุดคุณนางเขาออกมาพูดว่าเขาไม่มีลูกบุญธรรม ?
อร : "ค่ะ ก็เห็นข่าวค่ะ"

เสียใจไหม ?
อร : "ไม่ได้เสียใจค่ะ แม่ก็คือแม่ค่ะ อาจมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้คุณแม่เข้าใจผิด แต่อรขอยืนยันว่าอรไม่ได้เสียใจ"

คุณไปเป็นลูกบุญธรรมแม่บุญธรรมกันได้ยังไง?
อร : "เมื่อสิบปีที่แล้ว หนูมาสมัครเป็นนักร้องลูกวงที่วงคุณแม่ค่ะ ที่หมอลำซิ่งและมาเป็นแดนเซอร์ให้คุณแม่ด้วย ช่วงที่หนูมาสมัครเป็นลูกวงหนูเช่าห้องอยู่ ปีนั้นเกิดวิกฤตน้ำท่วม คุณแม่ก็บอกว่ามาอยู่กับแม่มั้ย บ้านแม่ก็มี มาอยู่กับแดนเซอร์อยู่รวมกัน ไม่ต้องไปเช่าให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย หนูก็เลยตัดสินใจ เพราะหนูอยู่ตัวคนเดียว ก็ตัดสินใจมากับคุณแม่ พอมาอยู่กับคุณแม่ หนูก็ทำหน้าที่ถูบ้าน กวาดบ้าน ซักผ้าตามประสาของหนู ช่วยงานบ้านทั้งหมด เวลาคุณแม่ไปไหนมาไหน คุณแม่ก็พาหนูไปเป็นเพื่อน ไปถือของให้แม่หน่อย ไปกับแม่หน่อย ไปซื้อของเป็นเพื่อนแม่หน่อย ก็เลยเกิดการสนิทสนม จนแม่ไม่มีลูก คุณแม่กับคุณพ่อ ซึ่งก็คือพ่อโก้ ก็เลยเอ็นดู"

อยู่ด้วยกันมาสิบปี ?
อร : "เกือบสิบปีแล้วค่ะ อยู่บ้านเดียวกัน ดูแลเหมือนลูกเหมือนแม่ ดูแลทั้งคุณแม่ คุณพ่อ หลานๆ อีกสองสามคนค่ะ"

ล่าสุดมีข่าวออกมา ทางพี่นางแกให้ข่าวว่าตัวแกเองจะปิดคลินิกเสริมความงาม แล้วที่ปิดเกิดจากมีมือที่สาม มีการระบุว่าเป็นคุณไปตีท้ายครัวเธอ ไปคบกับพ่อบุญธรรมคุณเอง ?
อร : "หนูเห็นข่าวหนูก็ช็อกค่ะ ก่อนหน้านี้วันที่ 12 เรากำลังทำหัตถการอยู่ที่คลินิก ก่อนหน้านี้คุณแม่ไม่มีเอกสารชัดเจนว่าจะปิดกิจการแล้วนะ คุณแม่โพสต์ 31 จะปิดกิจการแล้ว ถ้ามีเอกสารว่าคุณแม่จะปิดกิจการ หนูก็คงไม่สามารถดำเนินการได้ ถูกต้องมั้ยคะ แล้วในช่วงนั้น หนูก็ดำเนินหาลูกค้าเข้าคลินิกเหมือนเดิม เพราะเราไม่มีเอกสารที่คุณแม่แจ้งชัดเจนว่าปิดกิจการแล้ว จน 12 มิ.ย. สักบ่ายสามมั้ง คุณแม่มีการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่าประกาศพี่นางได้ยกเลิกปิดกิจการพรนิต้าคลินิก ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค ถ้าใครแอบอ้างหรือเอาชื่อพรนิต้าคลินิกแอบอ้างใช้ชื่อนี้หาลูกค้ามาใช้บริการ บุคคลๆ นั้นเป็นมิจฉาชีพ ซึ่งจะมีกลุ่มคนใกล้ชิดคุณแม่โพสต์กระหน่ำเลย เรากับคุณหมอที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นตกใจกันหมดเลยว่ามันคืออะไร"

คุณหมอกับคุณเองไปละเมิดแก ? 
อร : "ใช่ค่ะ มันก็เถื่อนถ้าพูดแล้ว ลูกค้าเดินทางมาจากเมืองนอกก็ถามว่ามันคืออะไร ทุกคนช็อกหมด อรก็ไม่รู้ ก่อนหน้านั้นมีเคสต่อเนื่อง ลูกค้าเดินทางมาจากต่างประเทศ ขอคิววันนี้ๆ คุณหมอเข้าได้  เราดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายเพียงแต่ว่าหนูไม่รู้ว่าคุณแม่ยกเลิกกิจการตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. แล้ว"

ประเด็นที่บอกว่าตัวคุณเองไปมีความสัมพันธ์กับพ่อบุญธรรม ?
อร : "หลังจากหนูเห็นโพสต์คุณแม่หนูรู้สึกหนูน้อยใจเพราะในระยะเวลา 8 เดือนหนูทั้งหาเคส ทั้งดูแลคุณพ่อที่ป่วยมะเร็งระยะ 4 ดูแลหลานอีกสองคน"

คุณโก้ป่วยมะเร็งระยะ 4 ?
อร : "ใช่ค่ะ มะเร็งลำไส้ ปีที่แล้วนอนป่วยติดเตียง หนูดูแล แต่ตอนนี้เดินได้แต่ยังไม่แข็งแรง คุณพ่อให้คีโม 12 เข็ม 8 เดือนที่ผ่านมา คุณแม่ไม่ได้มาอยู่ที่บ้าน อาจแวะมาบ้างที่คลินิก คุยกัน สั่งงานกัน ถามสารทุกข์สุกดิบทางโทรศัพท์ตลอด พูดกันตามปกติ"

ไม่ได้มีวี่แววโกรธเคือง ?
อร : "ไม่มีเลยค่ะ พอหนักๆ เข้ามาก็คงมีคนพูด แล้วได้ยินว่าบุคคลที่สาม"

ที่ชื่อเล็ก ?
อร : "ใช่ค่ะ เขาเริ่มไปกองถ่ายกับคุณแม่ ไปวัด ไปคลินิก ไปที่ไหน คืนคนที่รักก็มี คนเกลียดก็มี เราไม่สามารถหยั่งรู้ได้ว่าคนไหนรักเรา คนไหนเกลียดเรา หนูก็คงเป็นบุญที่คนรักก็คงมีบ้าง เขาก็ถามว่าทำไมคุณเล็กว่าแบบนี้ ไปไหนก็บอกว่านี่เธอ เธอรู้หรือเปล่าว่าผัวศิริพรเอากับลูกบุญธรรมตัวเอง หนูก็อ้าว เหรอ ซึ่งเขาก็อายุเยอะแล้วนะคะ"

คุณเล็กไปพูดเหรอ ?
อร : "ใช่ค่ะ แล้วกองถ่ายเอ็มวีเขาก็บอกว่าผู้หญิงคนนี้มีปัญหาอะไรกับอรหรือเปล่า ทำไมเขาพูดว่าอรกับพี่โก้เป็นชู้กัน  ตอนแรกหนูก็งง เขาบอกว่าคุณเล็กพูดกับใครต่อใคร เธอรู้หรือเปล่า ขอเท้าความ เขาจะเรียกคุณแม่ว่าหม่ามี๊ เขาอายุ 60 กว่าแล้วนะเขาเรียกแม่อายุ 50 กว่าว่าหม่ามี๊ แล้วเรียกตัวเองว่าลูก บอกว่ารู้หรือเปล่าคุณโก้มีอะไรกับน้องอร เด็กบุญธรรม มันชั่ว มันเลว หนูได้ยินมาเยอะ หนูก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะแม่โทรมาถามตลอดว่าเป็นยังไง กิจการเราเป็นยังไงบ้าง"

คุณเล็กเป็นคนปั่นว่าคุณมีอะไรกับพ่อบุญธรรม ?
อร : "ใช่ค่ะ แล้วอยากจะถามว่าถ้าทุกคนใช้วิจารณญาณนึกตามภาพที่หนูเล่า คนให้คีโม 12 เข็ม แล้วสภาพร่างกาย ยังจะมีอารมณ์ทางเพศสัมพันธ์อยู่เหรอคะ"

คือที่คุณบอกว่าอยู่ร่วมกับพี่นาง แล้วก็คุณโก้ สามีแม่คุณ อยู่ด้วยกันที่ไหน ?
อร : "กรุงเทพฯ ค่ะ บ้านแถวนวลจันทร์ค่ะ หนูก็นอนกับคุณแม่ คุณพ่อมีห้องอีกห้องนึง ส่วนใหญ่หนูใช้ชีวิตอยู่กับคุณแม่มากกว่าคุณพ่อ"

คุณอยู่มากี่ปี ?
อร : "เกือบสิบปีแล้วนะคะ ย้ายมาอยู่จริง ปี 54 ค่ะ"

แยกกันนอนกับคุณพ่อ ?
อร : "คุณแม่จะคุยกันเรื่องทำบุญซะมากกว่ากับหนู คุณพ่อเขาจะมีโลกส่วนตัว แม่จะเอาหนูไปนอนเป็นเพื่อน อยู่กันอย่างนั้น ในบ้านหลังเดียวกัน 8 ปี  แต่หนูไม่ได้นอนทุกวัน นอกจากวันไหนที่แม่ให้มานอนเป็นเพื่อนหน่อย เราจะคุยกันเรื่องทำบุญ"

ต่อให้ไม่ได้นอนกับแม่คุณก็ไปนอนอีกห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องคุณเอง ?
อร : "ก็ไปอยู่กับเด็กค่ะ กับหลานๆ"

พี่นางมีบ้านอีกหลังที่อุดรฯ เนื้อที่ 14 ไร่ ไปบ้านหลังนั้นไหม ?
อร : "ไปตลอดค่ะ ที่บ้านแม่ถ้าเราว่างเราก็ไปดูวัดที่แม่สร้าง คนแถวนั้นก็เห็นอรกับแม่นางไปกันตลอดตั้งแต่วัดเริ่มสร้าง ถ้าไม่มีงานคอนเสิร์ต แม่ก็จะหนูไปอุดรฯ อยู่กันมาตลอด"

พี่นางอยู่มา 8 ปีกับคุณในบ้านหลังเดียวกัน แล้วปัจจุบันเขาอยู่ไหม ?
อร : "ไม่ได้อยู่มา 8 เดือนแล้วค่ะ"

เขาออกจากบ้านหลังนั้นเลย ?
อร : "แรกๆ แม่ไปๆ มาๆ กับหนูที่คลินิก แวะเข้ามาที่บ้านแต่ไม่ได้นอนที่บ้าน"

พี่นางออกจากบ้านที่อยู่ด้วยกันมา 8 ปี ออกไปเลยไหม ?
อร : "ไปอยู่อุดรฯ ค่ะ ถ้ามีคอนเสิร์ตก็จะไปอยู่บ้านอีกหลังนึง ไปอยู่บ้านคุณเล็กค่ะ"

เล็กเป็นใคร มาจากไหน เข้ามาในชีวิตเมื่อไหร่ ?
อร : "คุณเล็กเขาอ้างเป็นเศรษฐี"

เขารวยไหม ?
อร : "เขาบอกว่าเขารวย เป็นผู้จัดการมรดกพันล้าน เขาบอกว่าเขามีบริษัทเกี่ยวกับการทำโรงโม่หิน ทำเพชร วันแรกที่เจอเขา 17 ต.ค. ที่พรนิต้าคลินิก เขามาหาคุณแม่ แล้ววันนั้นเขาโอนเงินให้คุณแม่ร่วมทำบุญที่วัดป่า 1 แสนบาท ในนามชื่อนามสกุลเขาและในนามบริษัทหนึ่ง เขาบอกว่าเป็นบริษัทเขา เขาเป็นประธานบริษัทเลย"

ครั้งแรกทำบุญแสนหนึ่งเลย ?
อร : "ใช่ค่ะ แล้วปกติในการทำบุญต้องขอใบอนุโมทนาบัตร ไม่ว่าจะหลักหมื่นหลักแสนก็ต้องขอ แต่เขาไม่ขอ ไม่เอา แต่เขาให้จริง 1 แสน"

แสดงว่าเขามีตังค์ ?
อร : "มีตังค์ค่ะ แล้วเขาไปร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน เป็นเจ้าภาพร่วมบวชพระในเดือนต.ค. เขาก็มาเหมือนกับตีสนิทกับคุณแม่ จนเขาไม่กลับบ้าน เราก็งง แต่คุณแม่จะบอกว่าคุณแม่ขอต้อนรับสายบุญนะ เวลาเขามาทำบุญก็อยากเห็นแม่นาง อยากเห็นว่าแม่สร้างจริง แม่ก็เลยบอกว่าอยู่วัด แล้วผู้หญิงคนนี้ก็อยู่กับคุณแม่มาตั้งแต่วันนั้นเลย อยู่ที่บ้านเลย"

เขาเลยไม่กลับมาบ้าน ?
อร : "บอกว่าขออยู่อุดรฯ ก่อน ส่วนคลินิกหนูก็ดูแลไปนะลูก ไหวมั้ย ลูกค้ามีมั้ย เพราะเคสทั้งหมดทั้งมวลจะจองผ่านบัญชีคุณแม่ทั้งนั้น หนูก็หักลบค่าใช้จ่าย หนูโอนเข้าบัญชี หนูมีเอกสารชัดเจน คุณแม่ก็รู้ สามารถให้ดูได้"

สรุปคุณเลยบอกว่าคนชื่อเล็ก เหมือนเข้ามาแล้วทำให้แม่เปลี่ยนไป ?
อร : "ใช่ค่ะ หลังเขาเข้ามา 17 ต.ค. วันที่ 18 พ.ย. แต่อันนี้ไม่แน่ใจ เขาก็มานอนที่คลินิกด้วย แล้วก็ให้สร้อยเพชรคุณแม่ หนูก็อยู่ในเหตุการณ์ เขาขอนอนที่คลินิกคืนนั้น บอกว่าเอาเพชรให้หม่ามี๊เก็บไว้"

เพชรแท้หรือเปล่า ?
อร : "หนูก็แอบสงสัยนะพี่หนุ่ม คนเราในโลกใบนี้ ถ้าพินิจพิจารณาดีๆ ทำบุญ 1 แสนให้เพชรด้วย มีเงินสดด้วย ให้คนนั้นคนนี้ ให้เงินสดคนรอบข้าง เอ๊ะ มันจะจริงเหรอ หรือเขาจะรวยจริง แต่เราไม่ได้คิดอกุศล เขาเป็นสายบุญ เราห้ามคนทำบุญไม่ได้ เขาอาจเป็นนักบุญจริง"

เพชรจริงเอามาให้พี่นาง ?
อร : "เป็นสร้อยเพชรค่ะ ทับทิมบ้าง สร้อยเพชรบ้าง"

บอกพี่นางเอาไปตรวจไหม ?
อร : "มูลค่าเยอะค่ะ เขาก็ให้ต่อเนื่อง เป็นเงินสดบ้าง มาร่วมทำบุญ เอาเงินสดใส่กระเป๋ามา"

มองในมุมพี่นาง เจตนาเขาก็ดี ทำบุญ เอาเพชรให้ ถึงแม้พิสูจน์ได้หรือไม่ได้ แต่เจตนาเขาดี เขาจะมาเพื่ออะไร ?
อร : "อันนี้ก็ไม่รู้วัตถุประสงค์เขาเพื่ออะไร แต่ที่แน่ๆ เขากันคนใกล้ชิดออกจากตัวแม่ หนูเป็นคนดูแลแม่ ก็ออกมาเลยค่ะ ค่อยๆ กันให้หนูออกมา เพราะปกติการเดินทางไปงาน จะมีหนู คุณแม่ คุณพ่อ ไปกันสามคน หนูดูแลเป็นพิธีกรบนเวที คุณพ่อก็ตีกลอง ทำงานแบบนี้ร่วม 10 ปีแล้ว แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไร ไปกับคุณเล็ก เอ๊ะ ชักยังไง"

แล้วพ่อที่นอนติดเตียง ?
อร : "คุณพ่อก็ยังไปได้ คุณแม่ก็ถามไถ่ ฝากให้หนูดูแลคุณพ่อ คุณแม่จะไปรับสายบุญที่วัด  โอเค หนูดูแลพ่อ ดูแลหลาน ดูแลกิจการคนเดียวได้ ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง ก็ดูแลตลอด แม่ก็ถามไถ่ แต่พอพักหลังๆ คุณเล็กเขาชักจะเข้ามาเยอะแล้ว ไม่ว่าจะควบคุมบนเวที ปกติหนูเป็นคนถือน้ำเตรียมให้คุณแม่ดื่มบนเวที คุณเล็กจะมีเด็กผู้หญิงคนนึงคอยคุมน้ำไว้ไม่ให้ดื่มน้ำหนู ไม่รู้เขาอะไร แล้วจะมีกลุ่มแฟนคลับบางคน เป็นตัวแทนเขา ถือน้ำแทนเขา แต่เขาจะไม่ออกมา เขาอยู่บนรถ เขาจะฝากตัวแทนถือขวดน้ำให้เขา แม่ก็จะบอกว่าไม่เป็นไรนะ หนูก็รู้แล้วว่ามันคืออะไร แม่กลัวหนูเสียใจ แม่ไม่ดื่มไม่เป็นไร หนูทำหน้าที่นี้มาสิบปีแล้ว ก็บอกว่าไม่เป็นไรนะแม่ เอาที่แม่สบายใจ"

เขาเอาคุณไปพูดว่าคุณกับพ่อบุญธรรมมีอะไรกัน ?
อร : "ใช่ค่ะ ไม่ว่าไปไหนจะบอกว่านี่เธอ รู้เปล่าว่าผัวศิริพรมีอะไรกับลูกบุญธรรม"

มีหลักฐานมั้ยว่าไม่ได้มีอะไรกับพ่อคุณจริง ?
อร : "หนูมีหลักฐานะคะ คุณพ่อป่วย ทำไมเรื่องเพิ่งมาเกิดเมื่อ 3-4 เดือนที่แล้ว ถ้าคุณแม่รู้ว่าหนูเป็นชู้ เห็นเหตุการณ์ หนูเชื่อว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ยอมกันหรอกค่ะ ต้องมีการฉะกันหรือพูดคุยกัน ณ ตรงเกิดเหตุ"

คุณจะบอกว่าพี่นางถูกปั่น ?
อร : "ใช่ค่ะ เพราะที่หนูโพสต์เพราะหนูน้อยใจ ที่แม่ปิดกิจการแล้วหนูไม่รู้ หนูน้อยใจว่า 8 เดือนหนูทำหน้าที่หนูดีที่สุดแล้ว ทำไมไม่บอกล่วงหน้า แล้วอยู่ดีๆ มีกลุ่มคนที่รักแม่เข้ามาถล่มหนูว่าเป็นชู้กับพ่อ โอเค ถ้ามีหลักฐาน เอาคลิปวิดีโอออกมาดีกว่ามั้ย ดีกว่าเอาภาพมาตัดนี่ไง ไปไหนก็ไปด้วยกัน ซึ่งการที่เราไปไหนกับคุณพ่อ หรือกับบุคคลอื่นที่เป็นผู้ชาย จะปรักปรำว่าเราเป็นชู้เลยเหรอคะ"

อยู่ในสายกับสามีพี่นาง คุณโก้ กรณีที่มีประเด็นออกมา พี่โก้เองไปคบกับน้องอร ลูกบุญธรรม จริงหรือเปล่า ?
โก้ : "น้องอรเนี่ยเป็นลูกบุญธรรมพี่โก้และพี่นาง อย่าใช้คำว่าคบหาครับ เขาเป็นลูกเราสองคน"

ใช้คำว่าคบหาไม่ได้?
โก้ : "เขาเป็นลูกอยู่ในบ้านเรา ต้องใช้คำว่าลูกพี่โก้และลูกพี่นางสิครับ ถ้าคบหาต้องเป็นเรื่องหนุ่มสาว แต่นี่เป็นลูกเรา"

พี่กับทางอรไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวอย่างที่มีข่าว ?
โก้ : "พี่โก้ปีนี้อายุ 57 พี่โก้เป็นคนป่วยมะเร็งลำไส้ ไปผ่าตัดและคีโม 12 เข็ม คุณหนุ่มไปถามแพทย์หรือใครที่เป็นหมอว่าคนอย่างพี่ อายุประมาณพี่ เป็นโรคแบบนี้ จะไปทำอะไรใครได้ อย่าลืมว่าพี่เป็นคนป่วยอยู่นะครับ"

เรื่องมือที่สามที่เข้ามาเกี่ยวกับบ้าน ก็ยังยืนยันตามข้อเท็จจริง ?
โก้ : "เขาเป็นคนมาทำบุญ เป็นสายบุญ จะมาช่วยพี่นางสร้างวัดป่าสว่างธรรมที่อุดรฯ ที่พี่นางสร้างอยู่ เขาเหมือนกับเขาถูกคอกัน ในทางสายบุญหรือเปล่าอันนี้พี่ไม่ทราบ แต่พี่ทราบมาคือแกไม่ไปไหนเลย แกอยู่กับพี่นางตลอด 8 เดือนแล้ว"

ทางน้องอรบอกว่าตั้งแต่คุณเล็กมาอยู่ในชีวิตพี่นาง ทำให้บ้านแตก น้องอร พี่โก้กระเด็น หนำซ้ำมีการพูดจากปากคุณเล็กว่าคบหากัน พี่ว่าไง ?
โก้ : "พี่ไม่ได้ยินจากปากคุณเล็กว่าแกพูด แต่ตอนนี้กระแสมา พี่ไม่ทราบว่ามาจากใคร ใครเป็นคนปล่อยข่าวหรืออะไร แต่ข่าวมาว่าพี่กับน้องอรเสียหาย เราก็ไม่ได้พาดพิงถึงใครว่าใครเข้ามาแล้วบ้านเราจะเป็นยังไง  แต่ 8 เดือนที่ผ่านมา เรื่องราวในครอบครัวพี่เปลี่ยนไป พี่อยู่กับพี่นางมา 19 ปี ไม่ใช่น้อยๆ เลย ไม่เคยมีเรื่องอะไรเลย น้องอรเข้ามาเป็นลูกเรา 10 ปี เราเป็นครอบครัวทำบุญ  ไปทำบุญที่โน่นนี่ตลอด อยู่ปกติสุขตลอด แต่ 8 เดือนที่ผ่านมา บ้านเรามีเรื่องแปลกๆ พี่ก็ไม่ทราบว่าเกิดจากเรื่องอะไร เกิดจากใครพี่ไม่กล้าไปฟันธงว่าเพราะอะไร แต่บอกได้ว่า 8 เดือนทุกอย่างเปลี่ยนไป มีแต่เรื่องแปลกๆ"

คุณกับพี่นางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม ?
อร : "สำหรับหนูเหมือนเดิมค่ะ เพราะแม่ก็คือแม่ของหนู หนูรักเหมือนแม่บังเกิดเกล้า หนูไม่ได้โกรธไม่ได้อะไร อาจเป็นการเข้าใจผิดจากคนกลุ่มหนึ่ง หรือมือที่สามที่เข้ามาสร้างความแตกแยก"

 

ขอบคุณจากรายการ โหนกระแส