อ๊อฟฟี่ โผล่แจงมหากาพย์ดราม่าทุกประเด็น ลั่นกำความลับขนเพชรไว้ แฉอีกจะขอสู้จนพังไปข้าง

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา อ๊อฟฟี่ พร้อมกับ ทนายนิติธร แก้วโต หรือ "ทนายเจมส์ ได้พูดคุยถึงประเด็นดัง ที่ตกเป็นกระแสจากการแฉของเหล่าคนใกล้ชิดที่เธอเคยร่วมทำงานด้วย  ทั้งเรื่องเรี่ยไรเงินบริจาคซื้อเครื่องช่วยหายใจ "น้องวันใหม่" ประเด็นเรื่องขนเพชร อดีตคนใกล้ตัวที่ออกมาแฉก่อนหน้านี้ว่าได้ค่าตัวเพียง 5 พัน/งาน เท่านั้น ทั้งที่ความจริงถูกว่าจ้าง 2 หมื่นบาทซึ่งประเด็นทั้งหมดถูกเปิดใจผ่านรายการโหนกระแส

โดย อ๊อฟฟี่ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่สบาย เครียดด้วย มีผ่าตัดซีสต์มดลูกด้วย แต่ตอนนี้หายดีแล้ว สำหรับเรื่องเงินบริจาคซื้อเครื่องช่วยหายใจให้ น้องวันใหม่ ยอมรับว่าเรื่องนี้คิดเอง เคยสอบถามคุณแม่เขาว่าถ้าสมมติอยู่ดีๆ เครื่องช่วยหายใจพังขึ้นมาจะเป็นยังไง เขาบอกว่ามันก็อันตรายต้องรีบไปหาหมอ แล้วเครื่องช่วยหายใจราคาสูงมาก ราคาเป็นล้าน ในคลิปก็ชี้ชัดเลยว่าเป็นบัญชีแม่เขา ซึ่งก็ถึงเขาโดยตรงหลังจากนั้นก็คิดเองว่าจะเก็บเงินช่วยเรื่องเครื่องช่วยหายใจอีกครั้ง เพราะถ้ามันพังก็อันตรายและเสี่ยงมาก แต่ชะล่าใจที่ใช้บัญชีตัวเองให้คนบริจาคเข้ามาและเป็นเงินบางส่วนจากการไลฟ์สดขายเสื้อผ้าของที่เก็บหอม รอมริบไว้ จนถึงยอด 2.1 แสน ผิดเองที่ชะล่าใจที่ไม่ได้ติดต่อกลับไป 7 เดือน เพราะคิดว่ากว่าจะถึงยอดก็อีกนาน แต่ยอดที่บริจาคมาจากเฟซบุ๊กในโพสต์ประมาณ 3-4 หมื่น หนูยินดีให้ตรวจสเตจเมนต์ได้เลยว่ามีเงินเข้ามาเท่าไร หากเป็นยอดเงินบริจาค จะเป็นยอดเล็กๆ แต่ถ้ายอดหลักห้าหมื่นถึงแสนก็เงินส่วนตัว เวลาทำงานก็สลับให้ลูกค้าโอนบัญชีอื่น 

 

ด้านทนายเจมส์ กล่าวถึงการตรวจสอบยอดบริจาคที่เข้ามาว่า โดยปกติต้องดูก่อนว่าธรรมชาติคุณอ๊อฟฟี่เขาทำอะไร เขาอัดคลิปอะไรก็แล้วแต่ มันจะเป็นยอดใหญ่ มันจะมีเรตของมันอยู่ 1 แสน 2 แสน 5 หมื่น เป็นยอดเงินค่าจ้าง เป็นปกติของผู้ว่าจ้าง ถ้าโอนบริจาคก็อาจเป็นไปได้ว่าก้อนใหญ่ๆ หมื่นนึงมีไหม ก็อาจจะมี แต่ก็ต้องไปตรวจสอบ เขามาปรึกษาว่ากรณีแบบนี้จะทำยังไงได้บ้างในเมื่อครอบครัวน้องวันใหม่เขาไม่เอาเงิน ก็มีอีกวิธีเอาเงินส่วนนี้ไปบริจาคในสถานที่เขาต้องการเครื่องมือทางแพทย์เหมือนกัน มีอยู่ที่หนึ่งคือมูลนิธิเพชรเกษม อยู่ที่หัวหิน ก็เช็กจากประธานมูลนิธิ เขาบอกว่าหัวหินมีสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งก็ใช่ แต่ฝั่งหนึ่งเป็นโซนอยู่ภูเขา รถที่เขาใช้รับคนป่วยออกมา 3 คัน เขาไม่มีเครื่องตรวจวัดชีพจรเครื่องช่วยหายใจประจำรถ เลยมอบให้เอง ทั้งหมด 2.1 แสนบาท

อ๊อฟฟี่ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องซื้อบ้านให้พ่อปู่ ซึ่งเป็นร่างทรง หนูเป็นตัวตั้งตัวตี ที่จะรีโนเวตห้องนี้และซื้อห้องนี้ให้พ่อ เพราะพ่อยังเช่าอยู่ ซึ่งหมดไปเกือบล้านรวมค่ารีโนเวต เฉพาะค่าห้องก็ 4 แสน กล้าพูดเลยว่า 90 เปอร์เซ็นต์คือของหนู ส่วนเรื่องที่ห้องเป็นชื่อตัวเอง เนื่องจากตอนไปดำเนินการที่กรมที่ดิน กว่าจะได้ห้องมาเป็นของตัวเอง มันทำธุรกรรมหลายวันมากเลยไม่ได้พาพ่อไปเซ็นเพื่อเป็นเจ้าของห้อง หนูมีเจตนาอย่างเดียวทำห้องให้เป็นของเราให้ได้ ห้องเสร็จแล้วจะได้รีโนเวตเลย ซึ่งตอนนี้โอนให้พ่อปู่ไปเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา
 

 

ส่วนเรื่องเงินใส่ซองงานบวชของ "ขนเพชร" ที่มีคนฝากมา ยืนยันว่าไม่ได้เอาไป เงินถูกใส่ย่ามหมดแล้ว มีรูปถ่ายเอาไว้ด้วย มีรูปตอนใส่ย่าม 1 หมื่นบาท อันนั้นมาจากเจ้าของแบรนด์ที่เป็นคนสนิทหนูเลย กับขนเพชร เราสนิทมาก ตั้งแต่รู้จักเขาจะพูดเสมอว่าเวลาเขาเจอใครเอาเปรียบจะรีบมาเล่าให้ฟังทันที คู่หูเอาเปรียบเขา ผจก.คนเก่าโกงเขา เราจะสงสารและช่วยทันที นั่นคือจุดเริ่มต้นทำให้เขามาอยู่ในทีม ยืนยันว่าไม่เคยใช้เขาเช็ดโถส้วม เช็ดรองเท้า เรื่องที่ตบหน้าก็ไม่เคยทำแบบนั้น

ตั้งแต่เขามาอยู่กับหนู เขามาทำงานเป็นครั้งคราว ก็โยนงานให้แล้วแต่ลูกค้าจะเลือก เป็นข้อตกลงกันเลยว่าคลิปไหนลูกค้าไม่ได้เลือกหนูจะแบ่งค่าตัวให้เขาเลย 5 พัน แต่คลิปไหนลูกค้าจ่ายให้ 2 หมื่น หนูก็จะจ่ายให้ 2 หมื่น ช่วงที่หนูหายไปรักษาตัวก็ได้ไปขอสเตจเมนต์ย้อนหลังมา 1 ปีกว่า ชี้ชัดไปเลยว่าโอนให้เขาเท่าไรบ้าง ถ้าคิดจะโกงเขาจริงๆ จะให้เขา 5 พันไปเรื่อยๆ อย่างนี้เหรอ อีกอย่างเงินแค่นี้ไม่อยากเอามาแลกกับชื่อเสียง

"ที่ผ่านมา เขาก่อหวอดตั้งกรุ๊ปไลน์มาด่าหนูว่าหนูโกง สาปแช่งเรื่องลูกด้วย ด่าแรงมาก เขาไม่รู้ตัวว่าหนูอยู่ในกรุ๊ปนั้นมา 2 เดือน หนูก็ให้ด่าไปเรื่อยๆ พอมาสาปแช่งลูกแฟนหนูก็ไม่ยอม ก็ออกมาพูดอะไรบางอย่างจนเขากลัว ก็เลยมีการขอขมา ถ้าสังเกตทั้งแต่งงาน ไปไหนมาไหนก็แล้วแต่ เขาจะพูดเสมอว่าหนูทำกับแม่ไว้เยอะมาก ทำไมแม่ดีกับหนูขนาดนี้ ทำไมแม่อภัยกับหนู ขนขอขมามา 4 รอบแล้ว ทำไมถึงขอขมา ถ้าเขาคิดว่าหนูโกง เคยออกจากหนูไปแล้ว แล้วกลับมาขอทำงานใหม่ หนูก็ให้โอกาสเขา เขาจะกลับเข้ามาทำไม ถ้าหนูโกงเขา

หนูให้อภัยทุกครั้งที่เขากลับมา เขาเคยออกไปทำเพลง แต่เจ็บสุดคือเขาบอกว่าถ้ามึงออกไปจากกูจะเหยียบให้จมดิน หนูไม่เคยพูดเลย ถ้าสมมติหนูทำแบบนั้นจริงๆ น้องรู้ดีอยู่แก่ใจว่าความลับน้องเขาคืออะไร หนูสามารถทำได้ ถ้าความลับเปิด
เผยออกไปก็พังกันไปข้าง แต่หนูก็ไม่ทำ หนูก็ขอไม่พูด ถ้าหนูจะทำจริงๆ ในวันเขาขอออกไปทำเพลง ทำไมเขายังอยู่ดี สบายอยู่"

เรื่องงานบวชก็จะช่วยเขา 2.5 แสน คือค่างานบวช ตั้งแต่มีชีวิตมา เป็นเจ้าภาพงานบวชเยอะมาก อลังการสุดคือแสนกว่าบาท แต่ของเขาเนี่ยแพงสุดเลย เขาแจงรายละเอียดที่ทุกคนไม่เคยรู้มาก่อนเลย ไปจัดแจงทุกอย่างว่าจะทำแบบนี้ โดยที่หนูไม่เคยรู้ แต่หนูบอกแล้วว่าจะช่วยเป็นเจ้าภาพ เขากางกระดาษมาวันนั้น 5 แสนเกือบ 6 แสน ตอนแรกช็อกก่อน ทั้งทีมบอกว่าบวชคนเดียวเนี่ยนะ ใช้เงิน 6 แสน หนูทำอะไรไม่ถูก ก็กัดฟันบอกว่าช่วยได้ 2.5 แสนนะ ก็มีข้อความที่เขาบอกว่าขอบคุณมากนะ

"สุดท้ายอยากขอโทษเพื่อนๆ 5-6 คน ไม่เกี่ยวขนเพชร หนูรู้ว่าตัวเองมีข้อเสียเยอะ ที่ผ่านมาหายไปนอน รพ. ผ่าตัดซีสต์ ดูแลรักษาฟันที่เกาหลีบ้าง หนูมองย้อนตัวเองตลอด หนูละเลยความรู้สึกเพื่อนไปเยอะมาก ทำให้เรากลายเป็นคนไม่ดี แต่จริงๆ หนูคิดแทนคนอื่นเยอะมาก ข้อเสียของหนูคือใจร้อน เอาแต่ใจ หนูมองย้อนกลับไปหมดเลย และวันนี้อยากขอโทษจากใจจริง และวันนี้จะไปขอโทษเพื่อนๆ ทุกคนต่อหน้าเลย หนูรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นจิรงๆ บางทีไม่กล้าดูเลย ชีวิตหลังจากนั้นแย่มากๆ ถามว่าร้องไห้ไหม ไม่ได้เรียกร้องความสงสารนะคะ ร้องไห้หนักมาก คือเครียดมาก เรารู้สึกผิดจริงๆ ถึงขั้นอยากให้เขาให้โอกาสเราปรับปรุงตัว"

 

 

 

ขอบคุณรายการโหนกระแส