ท็อป จรณ สุดจะทน เพจดังพาดพิงลามปามหนัก ทำครอบครัวเสียหาย จนคุณแม่ต้องนอนห้องฉุกเฉิน ถูกหามส่งรพ.

หลังเพจดัง เจ๊มอย 108 ปล่อยข่าวอักษรย่อ อดีตคู่รักพระนาง ที่ต้องเลิกรากัน เพราะแม่ฝ่ายชายขอให้ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมให้บ่อยๆ แถม มดดำ ยังออกมาเปิดเผยชื่อชัดๆกลางรายการว่า เป็นนางเอกสาวตาคม ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์

โดยบอกว่า “ก็ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก น่ะแหละ ฝ่ายชายมดดำก็เคยไปถ่ายรายการตีท้ายครัว ก็ไปบ้านเขาที่ลพบุรี บ้านก็หลังใหญ่อยู่นะ แล้วชาวเน็ตชี้เป้าไปที่ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก กับท็อป จรณ น่ะแหละ ถามว่าเชื่อมั้ย ไม่รู้อะ อีเฟิร์นไม่ได้โง่อะ แล้วใบเฟิร์นเป็นคนไม่แอ๊บ ถามว่าไม่เชื่อจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น หรือไม่เชื่อว่าใบเฟิร์นจะเป็นเหยื่อ เอางี้นะ คนอย่างเฟิร์นนะ ถามปุ๊บมันตอบปั๊บ มันไม่แอ๊บ ใครถามอะไรมันตอบหมด”

 

ทั้งนี้ล่าสุด สาวใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ได้ออกมาชี้แจ้งประเด็นที่เกิดขึ้นว่า “เฟิร์นก็เห็นแล้วค่ะ ขอออกตัวก่อนว่าถ้ามันเป็นเรื่องของเฟิร์น จะบอกว่ารายละเอียดในข่าวแทบไม่เป็นความจริงเลย และมันก็ผ่านมานานแล้ว เฟิร์นอยากจะขอยืนยันคำเดิมว่าเรื่องทั้งหมดที่จบลง คือจบลงระหว่างเฟิร์นกับเขา ไม่ได้เกี่ยวกับผู้ใหญ่ แล้วเฟิร์นไม่สบายใจที่จะมีเรื่องของผู้ใหญ่มาเกี่ยวข้อง ไม่ใช่แค่ทางเฟิร์นที่ไม่สบายใจ เฟิร์นเขื่อว่าทางฝั่งเขาก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันค่ะ”

“ตอนเห็นคอมเมนต์ว่าเป็นชื่อเรา ก็ตกใจค่ะ เพราะว่าชื่อละครหนูมาทุกเรื่องเลย แต่รู้สึกว่ามันไม่ใช่ค่ะ มันไม่จริง ไม่ต้องโทร.หาใครเลยค่ะ อย่างที่บอกว่าพอมันออกมาในเนื้อข่าวแบบนี้เราไม่สบายใจ มันไม่เกี่ยวกับผู้ใหญ่เลย ถามว่าเบื่อไหมที่โดนโยงตลอด ไม่ได้เบื่อค่ะ แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีอีก เพราะว่ามันนานแล้วสำหรับหนู ก็ไม่กังวลนะคะ โชคดีที่เฟิร์นมีโอกาสออกมาบอกว่ามันไม่ได้เป็นความจริงนะ”

“ที่อีกฝั่งโดนพาดพิงว่าเป็นสาเหตุทำให้คู่เราเลิกกัน ถามว่ากังวลไหม มันไม่ได้เกี่ยวกับแม่เลยค่ะ ถึงบอกว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคน เฟิร์นยังยืนคำเดิมเหมือนกับเมื่อหลายปีที่แล้ว กับฝั่งโน้นไม่ได้คุยเลยค่ะ ไม่ได้คุยอยู่แล้ว ตัวเฟิร์นถามว่าสนิทกับแม่ของเขาไหม ตอนนั้นแม่ก็น่ารักกับเฟิร์นค่ะ และที่ข่าวบอกว่าเราต้องซื้อของแบรนด์เนมให้ ไม่มีค่ะ แม่ไม่เคยขอให้เฟิร์นซื้อของแบรนด์เนมให้ ไม่มีใครบอกว่าอันนี้ออกคอลเลคชั่นนี้ มันไม่มีหรอกค่ะ”
 

แต่ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ของ ท็อป จรณ โสรัตน์ กับ หยดน้ำ นัดดาภรณ์ นิวาตวงศ์ ลูกสาวคนสวยของนักแสดงรุ่นใหญ่ ขวัญ ขวัญฤดี และคุณพ่อ ปู อนุวัฒน์  หรือไม่ เพราะหากไปสังเกตในอินสตาแกรมของฝ่ายหญิงกลับไม่มีรูปคู่กับแฟนหนุ่มแล้ว แถมยังโพสต์ข้อความที่ตีความได้ว่าตอนนี้เหมือนจะกำลังเศร้าอยู่ เช่น "She was just another broken doll" และ "Fall back in love with myself, this world, and life again!"

ซึ่งทางฝ่ายชายเองยังไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใดๆ ยังมีภาพของสาวหยดน้ำในอินสตาแกรมอยู่เช่นเดิม โดยหลายคนก็สังเกตว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ เพราะข่าวเม้าท์ที่เกี่ยวกับอดีตแฟนสาว อย่าง ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก หรือไม่

และล่าสุดไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณแม่ของพระเอกหนุ่ม ท็อป จรณ  หรือเปล่า เพราะว่าเห็นเจ้าตัวออกมาโพสต์ภาพหน้าห้องฉุกเฉิน พร้อมกับแคปชั่นส่งกำลังใจให้คุณแม่สุดที่รักว่า...“แม่สู้ๆ นะเข้มแข็งนะแม่ ที่ผ่านมาเราอดทนมาตลอด ต่อไปนี้ท็อปจะไม่ใจดีแล้ว ใครที่ทำอะไรไว้ต้องได้รับผลกรรมนั้น” ซึ่งต่างมีชาวเน็ตให้กำลังใจอย่างล้นหล้าม

ล่าสุด  พระเอกหนุ่ม “ท็อป จรณ โสรัตน์” ก็ได้ออกมาเปิดใจกับรายการเรื่องเล่าเช้านี้เป็นที่แรก หลังจากที่มีประเด็นคุณแม่เข้าโรงพยาบาล และเรื่องที่มีเพจดังได้ปล่อยข่าวเมาท์ที่ทำให้ทั้งเจ้าตัวและครอบครัวนั้นได้รับความเสียหาย แถมยังกระทบถึงความรู้สึกทั้งตัวเองและคนในครอบครัว จนทำให้คุณพ่อคุณแม่นั้นเกิดอาการเครียดไม่น้อย

ซึ่งงานนี้ หนุ่มท็อป ก็ได้เผยว่าเจ้าตัวนั้นได้ดำเนินการกู้ชื่อเสียงให้ทั้งตัวเองและครอบครัว ด้วยการแจ้งความกับเพจที่ปล่อยข่าวที่ไม่เป็นความจริงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเบื้องต้นก็แจ้งในคดีหมิ่นประมาท

“ตอนข่าวเห็นข่าวมันกระจายออกไปผมค่อนข้างตกใจ แล้วพอได้ไปอ่านคอมเมนต์ ก็กังวลใจมากเลยนะ เพราะมันพาดพิงถึงคนในครอบครัว ผมมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระนะ มันไม่มีความจริงเลย ผมและครอบครัวตัดสินใจจะดำเนินคดีเพจต้นตอของเรื่องนี้ ผมว่ามาถึงจุดที่ผมเองต้องลุกขึ้นมาปกป้องครอบครัวแหละ ค่อนข้างจะกระทบถึงความรู้สึกค่อนข้างมากพอสมควร

ตัวผมเองด้วยและคนในครอบครัวนะครับ เราเองไม่เคยมีพฤติกรรมในแบบนั้น ซึ่งเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่ครั้งนี้มันค่อนข้างรุนแรง เพราะว่าอย่างที่บอกไปว่ามันเป็นข่าวเท็จ ด้านคุณพ่อ คุณแม่ก็ค่อนข้างเครียดมากครับ จริงๆ แล้วก็เริ่มเครียดมาก ผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมดานะใครเจอแบบนี้ก็ต้องเครียด เพราะว่ามันไม่ใช่ความจริง ตอนนี้เราได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้วเบื้องต้นในคดีหมิ่นประมาท ตั้งใจจะดำเนินการให้ถึงที่สุดไหมก็เดี๋ยวค่อยดูกันอีกทีครับ แต่ผมคิดว่าคนที่ปล่อยข่าวเท็จและคนที่ทำยังไงก็จะต้องได้รับผลของการกระทำ ได้รับบทเรียนจริงๆ มันไม่ใช่แค่ผมและครอบครัว ก็มีคนอื่นๆ ที่เคยเจอเรื่องราวอะไรแบบนี้ซึ่งมันไม่ถูกต้องครับ”

 

ภาพ topiz_js