เพลง ภตภร สะอื้นร่ำไห้ เผยคำสั่งเสียสุดท้ายของคุณแม่ อ้อย กาญจนา ที่ทำให้หัวใจสลายเข่าแทบทรุด

กลายเป็นเรื่องช็อกของวงการบันเทิงอีกครั้ง หลังจากทราบข่าวการเสียชีวิตของ อ้อย กาญจนา จินดาวัฒน์ นักแสดงรุ่นใหญ่ วัย 61 ปี ซึ่งได้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ เมื่อเวลา 16.47 น. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ครอบครัวมีกำหนดรดน้ำศพ ที่วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร

เพลง ภตภร สะอื้นร่ำไห้ เผยคำสั่งเสียสุดท้ายของคุณแม่ อ้อย กาญจนา ที่ทำให้หัวใจสลายเข่าแทบทรุด

กลายเป็นเรื่องช็อกของวงการบันเทิงอีกครั้ง หลังจากทราบข่าวการเสียชีวิตของ อ้อย กาญจนา จินดาวัฒน์ นักแสดงรุ่นใหญ่ วัย 61 ปี ซึ่งได้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ เมื่อเวลา 16.47 น. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ครอบครัวมีกำหนดรดน้ำศพ ที่วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร 

จากนั้นทางด้านลูกสาว เพลง ภตภร สีบุญเรือง ก็ได้ออกมาโพสต์ภาพ พร้อมข้อความว่า "คุณแม่จากไปแล้วด้วยโรคหัวใจ เมื่อตอน 16.47น. ของวันนี้ ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้นะคะ ขออนุญาตแจ้งกำหนดการเท่าที่ทราบก่อน เพราะฉุกระหุกมากจริงๆ วันเผาจะรีบแจ้งพรุ่งนี้นะคะ เพราะต้องคุยกับทางวัดก่อน มีบางวันทางวัดติดภารกิจที่ไม่สามารถทำพิธีเผาได้ค่ะ"

และล่าสุด "เพลง ภตภร" ลูกสาวได้ออกมาเผยถึงอาการป่วยของคุณแม่ที่ ศาลา 2 วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร หลังเสร็จสิ้นพิธีรดน้ำศพว่า “คุณแม่ป่วยเป็นโรคหัวใจมาเป็นเวลา 10 ปีได้แล้วนะคะ แต่ไม่ค่อยมีใครทราบ เพราะคุณแม่ใช้ชีวิตปกติมาก ยังทำงานทำอะไรได้ค่ะ พอมาช่วงหลังๆ ปีกว่าๆ เกือบสองปีเนี่ย มาตรวจเจอว่าเป็นมะเร็งแทรกซ้อนเข้ามาอีก คือคุณแม่เป็นโรคหัวใจกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นโรคที่ไม่หาย ต้องกินยาเพื่อปรับสภาพร่างกาย ไม่เหมือนเส้นเลือดหัวใจตีบ ที่ทำบอลลูนแล้วจบ หัวใจมันก็อ่อนแอมาโดยตลอด ร่างกายก็พยายามฟื้นฟูตัวเองเอาอวัยวะอื่นมาช่วยเป็นพลังเสริมร่างกาย จนวันนึงพลังงานสำรองนั้นมันก็อาจจะหมดไป และบวกกับว่ามาเจอโรคแทรกซ้อนอีก ทำให้แทนที่ว่าหัวใจไม่แข็งแรงแล้ว ปอดอาจจะดี กระดูกอาจจะดี กลายเป็นว่าหัวใจไม่แข็งแรง ปอดก็มาเจอโรค กระดูกก็มาปวดค่ะ”

เพลง ภตภร สะอื้นร่ำไห้ เผยคำสั่งเสียสุดท้ายของคุณแม่ อ้อย กาญจนา ที่ทำให้หัวใจสลายเข่าแทบทรุด

ตรวจเจอมะเร็งที่ไหน?

“ตอนที่เจอเจอที่เยื่อหุ้มปอดกับกระดูก ซึ่งก็เรียกว่าเป็นระยะที่ลุกลามแล้ว ตอนที่คุณแม่เจอก็ทำงานปกติ และสั่งห้ามเพลงไม่ให้บอกใครเรื่องอาการของโรคมะเร็ง เพราะว่าไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง เค้าจะพูดเสมอว่าไม่อยากใช้ชีวิตเป็นคนป่วย อยากใช้ชีวิตให้มีความสุขทุกวัน เค้าก็ยังมีความคิดว่าเขาจะสู้ เค้าจะหาย ก็เลยไม่ให้เพลงพูดเรื่องมะเร็ง แต่เรื่องโรคหัวใจเพลงก็แกมๆ บังคับเขา ขอเขาว่าต้องบอกบางคนนะ เพราะว่าบางทีแม่ไปกองถ่าย เพลงก็ต้องฝากพี่ๆ ที่กองถ่ายให้ดูแลแม่ด้วย จะได้ทราบว่าแม่ต้องมีข้อควรระวังอะไรบ้าง”

เจอมะเร็งตั้งแต่เมื่อไหร่?

“ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเกือบๆ 2 ปีนะคะ ตอนนั้นคุณแม่ทำงานถ่ายละครปกติ แต่คุณแม่โชคดีที่มะเร็งมีการรักษาแบบใหม่ ที่ไม่ต้องใช้คีโมคือคีโมจะทำลายมทั้งเซลล์ดีและไม่ดี แต่คุณแม่ร่างกายสามารถรับยามาร์เก็ตได้มันก็จะฆ่าแต่เซลล์มะเร็งอย่างเดียวได้ ซึ่งมี เพียง50 % ของคนที่ป่วยเป็นมะเร็งที่จะรับยาแบบนี้ได้ ราคาจะสูงหน่อย ก็ต่อสู้กันมาตลอด อาการก็ดีมากในช่วงแรกๆ เหมือนคนไม่เป็นไรเลย มาทรุดหนักๆ ช่วงประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา เริ่มมีผลข้างเคียงที่ต้องเปลี่ยนตัวยา เบื่ออาหาร ผอมลงเยอะเกือบ 10 กิโลเลย จรกเดิมที่เค้าอวบๆก็ดูไม่ได้ซูบมาก แต่ที่ทรุดหนักจริงๆ คือรอบสุดท้ายที่เข้าโรงพยาบาล เค้ามีอาการหายใจติดขัด หายใจไม่ปกติ แล้วโรคหัวใจมันจะมาคู่กับน้ำท่วมปอดมันก็อันตราย คุณพ่อเลยพาไปส่งที่แผนกฉุกเฉิน จริงๆก่อนหน้านี้คุณแม่ ในระยะเดือน 2 เดือนเข้าฉุกเฉินมา 2 ครั้งแล้ว แต่เค้าดื้อก็ขอออกมาทุกครั้งเพราะคิดว่าไม่เป็นอะไร จริงๆ คุณแม่รักษาอยูที่รพ.จุฬาฯ แต่ครั้งสุดท้ายมันฉุกเฉินจริงๆ ก็เลยไปที่รพ.พระมงกุฎเกล้า แล้วก็ไม่คิดว่าเค้าจะไม่ได้ออกมาอีก”

 

อาการที่เข้าไปล่าสุดคือหนักขนาดไหน?

“หนักนะคะ จริงๆช่วงหลังๆ ที่อยู่ที่บ้านก็ค่อนข้างหนักมากแล้วอ่ะ เพลงเจอคุณแม่ทุกอาทิตย์ พาไปหาหมอ ทุกครั้งจะเห็นว่าเขามีอาการเหนื่อยเยอะ เพลงจะให้นั่งแต่รถเข็น ออกจากบ้านก็จะเอารถเข็นไปเสิร์ฟ ไม่ได้เห็นเขาเดินเที่ยวมาเป็นเดือนแล้ว แล้ววันที่คุณแม่ไปถ่ายรายการของ พี่แอน (แอน ทองประสม) รายการ เสือ สิงห์ กระทิง แซ่บ เป็นวันที่เพลงได้เห็นคุณแม่เดินเองเป็นครั้งสุดท้าย เพลงก็ตกใจว่าเขาทรุดลงเยอะมาก จิตใจสู้นะ แต่ร่างกายไม่ไหว เราก็เริ่มรู้แล้วว่าเดือนนี้มันหนักจริงๆ พอวันที่เข้าโรงพยาบาลก็หายใจหอบด้วย”

คุณแม่ใจสู้มาตลอด?

“ใช่ คุณแม่ใจสู้ สู้มากมาก อันนี้ต้องยอม ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วที่รู้ว่าเป็นโรคหัวใจ ไปเจอคุณหมอมาหลายคน หลายท่านบอกว่าอาการหนักขนาดนี้ หัวใจจากทำงาน 100 % เหลือแค่ 20–30 % คุณไม่รอดแน่ หมอให้ 3-6 เดือนเต็มที่เลย อยากทำอะไรรีบทำนะ แต่คุณแม่ก็ใจเสียบ้าง แต่ก็สู้อยู่มาได้ถึง 10 ปีนะ ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนก็อาจจะยังไหวอยู่ก็ได้”

เพลง ภตภร สะอื้นร่ำไห้ เผยคำสั่งเสียสุดท้ายของคุณแม่ อ้อย กาญจนา ที่ทำให้หัวใจสลายเข่าแทบทรุด

ถามย้อนกลับไปเรื่องโรคหัวใจ สามารถรักษาได้ขนาดไหน ?

“มันเป็นการรักษาด้วยการใช้ยาฟื้นฟูให้หัวใจมันดีขึ้น ถ้ารักษาที่ต้นเหตุจริงๆ ก็ต้องถึงขั้นใช้หัวใจเทียม หรือผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจค่ะ ซึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่มาก มันก็เป็นไปได้ว่ามีความเสี่ยงคุณแม่อาจไม่รอดตอนผ่าตัดด้วย ก็เลยปรึกษากันว่าช้อยส์นี้มันคงไม่ใช่ พอตอนหลังจะย้อนกลับมาทำก็ช้าไปแล้ว เพราะร่างกายอ่อนแอไปเยอะแล้ว”

ใช้ช่วงเวลาสุดท้ายกับคุณแม่ยังไงบ้าง?

“เพลงก็ไปเฝ้าเค้าที่ ICU จริงๆ มีเวลาเยี่ยม แต่เราก็ขอให้ดูแลเค้า เจ้าหน้าที่ก็ทราบว่าอาการหนักมาก ยังโชคดีที่ช่วงระยะสุดท้ายได้เพลงอยู่ข้างเค้าตลอด ทั้งคุณพ่อ น้อง ก็อยู่ด้วย ได้เห็นว่าเค้าอาการหนักแต่เขาก็ยังสู้ มีหลายวันมากเลยระหว่างที่อยู่โรงพยาบาล เพลงโดนโทรตามกลางดึกว่าต้องมาโรงพยาบาลแล้วนะคุณแม่จะไม่ไหวแล้ว 2-3 ครั้ง จนเพลงหลอนโทรศัพท์ไปหมดเลย แต่พอไปถึงคุณแม่ก็ฮึบขึ้นมาๆทุกครั้งเลย แต่ร่างกายเขาบอบช้ำและอ่อนแอมาก ก็คงยากที่จะฟื้นตัว จนบางครั้งเราก็รู้สึกว่าเขากำลังฝืนเพื่อเราหรือเปล่า”

 

คุณแม่ได้สั่งเสียอะไรไหม?

“ตอนที่เค้ายังปกติ ไม่ได้มานอนหลับที่โรงพยาบาล เขาสั่งเสียจนเพลงใจเสียไปหลายครั้งเหมือนกัน แต่คงเป็นสิ่งที่เขาอยากจะพูดกับเรา ว่าแม่เป็นห่วงรักลูก รักพ่อ ถ้าแม่ไม่อยู่แล้วให้ดูแลกันดีๆ อย่าทิ้งน้อง”

แสดงว่าคุณแม่ก็ยังห่วงลูกๆ?

“ค่ะ เพลงว่าแม่อาจจะห่วงน้องชายมากหน่อย เพราะว่าเพลงค่อนข้างดูแลตัวเองได้ทุกอย่างแล้ว มีครอบครัวของตัวเองแล้ว มีพื่อนเยอะ งานการก็ค่อนข้างทำอะไรหลายอย่าง และจัดการได้มากกว่าน้อง ดูแลตัวเองได้มากกว่าน้อง น้องก็อายุน้อยกว่า ยังไม่เป็นฝั่งเป็นฝา ลูกชายคนเล็กเนาะ แม่คงห่วงพ่อด้วย เพราะตัวติดกันตลอด”

เพลง ภตภร สะอื้นร่ำไห้ เผยคำสั่งเสียสุดท้ายของคุณแม่ อ้อย กาญจนา ที่ทำให้หัวใจสลายเข่าแทบทรุด

ช่วงที่คุณแม่ไม่ได้ทำงาน ทีบอกไหมว่าอยากไปทำงาน?

“พูดนะคะ พูดตลอด เพลงก็บอกให้แม่บอกทุกคนเถอะว่าเป็นโรคอะไร ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ทุกคนเค้าพร้อมให้กำลังใจเรา เผื่อเราจะได้ไปเจอหนทางการรักษาดีๆ ก็ได้ หรือได้เจอคนที่ไม่เจอมานานแล้วเราอยากเจอก็ได้ แต่คุณแม่ยังไม่อยากบอก ยังอยากทำงาน ยังไม่อยากเป็นคนป่วย ไม่อยากให้ทุกคนเจอแล้วแม่ป่วยแม่โทรมแล้วไม่กล้าเรียกแม่ไปทำงาน หรือชวนไปไหน แม่ก็บอกว่าเชื่อเถอะเค้าจะดูแลตัวเองให้หายให้ได้ ขอให้ทำทุกอย่างเป็นปกติมากที่สุดดีกว่า”

ได้เรียนรู้อะไรจะแม่บ้าง?

“เพลงก็ได้สิ่งดีๆในตัวเพลงมาจากคุณแม่ เค้าเป็นแบบอย่างให้เพลงให้ทุกเรื่องๆ เพลงเข้มแข็งและผ่านอะไรมาได้ ชีวิตเราก็ไม่ได้ราบรื่นตลอดเวลาเนอะ พอเราเจอเรื่องที่แย่มาเราก็อดทนต่อสู้มาได้ ก็เพราะเรามีคุณแม่เป็นกำลังใจ เป็นแบบอย่างให้เรา ว่าเขาทำทุกอย่างได้ดี เขาเก่ง เขาอดทน แล้วเขาก็อยากให้เราได้ดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เราเห็นในความอึดความเก่งของเค้าเราก็เก็บตรงนั้นมาเพื่อดำเนินชีวิตต่อไปได้ เพลงบอกแม่ในตอนสุดท้ายว่าไม่ต้องห่วงเพลง ทุกอย่างแม่ให้เพลงมาหมดแล้ว อยู่ในตัวเพลงหมดแล้ว ขอให้แม่เชื่อว่าเพลงจะอยู่ต่อไปได้อย่างดีที่สุด”

 

ในช่วงสุดท้ายที่บอกคุณแม่ ท่านรับรู้ไหม?

“เป็นช่วง 3 – 4 วันหลัง ที่เขาหลับไม่ค่อยได้สติแล้วนะคะ แต่ว่าคุณหมอยืนยันว่าแม่ได้ยินนะแค่อาจจะไม่ได้ตอบสนอง เราไม่รู้ว่าเขาได้ยินหรือเปล่าแต่ก็พูดตลอดเพราะถ้าไม่พูดตอนนี้ก็ไม่รู้จะพูดตอนไหน เพลงอยากบอกอะไรเพลงก็บอกหมดทุกอย่างเลยค่ะ อยากขอบคุณอะไรเขา ขอบคุณที่ได้เกิดมาเป็นลูกเขา ขอบคุณที่เลี้ยงเรามา อดทนเพื่อเรา ก็บอกทุกอย่างเลย”

กำหนดการหลังจากนี้?

“ตอนนี้กำลังรอเช็กกับหลวงพี่ เพราะคุณพ่อตั้งใจจะเก็บศพไว้บำเพ็ญกุศล 100 วัน รวมถึงคุณแม่เคยพูดไว้ว่าถ้าเค้าเป็นอะไรไปอยากให้ทำแบบนี้ แต่ยังติดที่เรื่องที่เก็บแล้วกำหนดการอยู่ว่าจะเป็นไปได้มั้ย เดี๋ยวจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่งค่ะ เพลงจะอัพเดตอีกครั้ง แต่ก็จะมีสวด 7 วันแน่ๆค่ะ และถ้าไม่เก็บก็จะเผาในวันที่ 7 เลย หรือเป็นวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน ในกรณีที่ไม่เก็บนะคะ แต่ถ้าเก็บก็คงเผาข่วงปลายปี วันนี้คงรู้ค่ะว่าจะยังไง”

เพลง ภตภร สะอื้นร่ำไห้ เผยคำสั่งเสียสุดท้ายของคุณแม่ อ้อย กาญจนา ที่ทำให้หัวใจสลายเข่าแทบทรุด

เพลง ภตภร สะอื้นร่ำไห้ เผยคำสั่งเสียสุดท้ายของคุณแม่ อ้อย กาญจนา ที่ทำให้หัวใจสลายเข่าแทบทรุด