พ่อรองเผยคำพูดสุดท้ายที่ได้บอก แม่ทุม ก่อนจากกันตลอดกาล ยุ้ย ลูกสาวถึงกลั้นน้ำตาไม่อยู่

ภายหลังจากการเสียชีวิตของ แม่ทุม ปทุมวดี โสภาพรรณ ในวัย 72 ปี นักแสดงอาวุโส หลังป่วยด้วยโรคไทรอยด์เป็นพิษ และ โรค ALS (โรคที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ประสาทเกี่ยวกับควบคุมการเคลื่อนไหวตายไปก่อนอายุขัย) มานานกว่า 8 ปี โดยเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมาตลอด น้ำหนักตัวที่เคยมี 60 กิโลกรัม ลดลงเหลือ 36 กิโลกรัม และ จำอะไรไม่ได้

ภายหลังจากการเสียชีวิตของ แม่ทุม ปทุมวดี โสภาพรรณ ในวัย 72 ปี นักแสดงอาวุโส หลังป่วยด้วยโรคไทรอยด์เป็นพิษ และ โรค ALS (โรคที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ประสาทเกี่ยวกับควบคุมการเคลื่อนไหวตายไปก่อนอายุขัย) มานานกว่า 8 ปี โดยเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมาตลอด น้ำหนักตัวที่เคยมี 60 กิโลกรัม ลดลงเหลือ 36 กิโลกรัม และ จำอะไรไม่ได้

โดยในไอจีของ “สรรเสริญ เค้ามูลคดี” ลูกชายของแม่ทุม ได้โพสต์ข้อความว่า นางฟ้าของฉันกลับสู่สรวงสวรรค์แล้ว พร้อมโพสต์ภาพคู่ระหว่างเจ้าตัวกับแม่ทุม ก่อนจะมีคนเข้ามาแสดงความเสียใจด้วยจำนวนมาก ขณะเดียวกับในเฟซบุ๊กแฟนเพจของ พ่อรอง เค้ามูลคดี คู่ชีวิตแม่ทุม ได้โพสต์เพียงสั้นๆ ว่า " เขียนอะไรไม่ออกจริงๆ " พร้อมกับแนบกำหนดการงานเศร้าของภรรยาสุดที่รัก 

 

พ่อรองเผยคำพูดสุดท้ายที่ได้บอก แม่ทุม ก่อนจากกันตลอดกาล ยุ้ย ลูกสาวถึงกลั้นน้ำตาไม่อยู่

ล่าสุด บรรยากาศ ณ บริเวณ ศาลา 2 วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน เป็นไปอย่างเศร้าโศก นับตั้งแต่พี่น้องคนบันเทิงได้ทราบข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ แม่ทุม ปทุมวดี โสภาพรรณ หรือ แม่ทุม นักแสดงอาวุโส วัย 72 ปี หลังจากที่เข้ารับการรักษาอาการป่วยอันเนื่องมาจากโรคไทรอยด์เป็นพิษและเป็นโรค ALS ในโรงพยาบาล เป็นเวลากว่า 8 ปี

ก่อนที่จะเข้าสู่พิธีรดน้ำศพในเวลา 16:00 น. วันนี้ (7 ส.ค. 63) ยุ้ย ปัทมวรรณ ก็ได้ออกมาเผยถึงช่วงเวลาสุดท้ายที่ได้บอกลาแม่และภรรยาผู้เป็นที่รัก พร้อมทั้งบอกอีกด้วยว่าสำหรับพ่อแล้ว "พ่อรักแม่ที่สุด"

ยุ้ย : สำหรับกำหนดการวันนี้ ก็จะมีพิธีรดน้ำศพเวลา 16:00 น. และก็ตามด้วยพิธีสวดในเวลา 18:00 น. ส่วนวันถัดๆ ไปก็จะ มีพิธีสวดในเวลา 18.30 น. ตามลำดับค่ะ 

พ่อรอง : แม่ไปอย่างสบาย เมื่อเวลาตี 02:25 น.

ก่อนที่คุณแม่จะเสียทางครอบครัวได้ทราบสัญญาณมาก่อนบ้างไหม ?
พ่อรอง : เขารู้กันหมด แต่เขาปิดไม่ให้พ่อรู้

ยุ้ย : ก็คือก่อนหน้านี้ประมาณ 5-6 วัน คุณแม่เริ่มมีอาการทรุด ทรุดเยอะมาก และตอนนั้นทางโรงพยาบาลก็คุยกับเราแล้วเหมือนกันว่าให้เราเตรียมพร้อมเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเสื้อผ้า เอกสาร หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ทางเราเลือกที่จะไม่บอกคุณพ่อ ขนาดเราไม่ได้บอกอยู่ดีๆ คุณพ่อก็วูบไปเลย จนวันนี้แหละค่ะคุณพ่อถึงเพิ่งจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร รู้ว่าทำไมวันนี้เราถึงเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมหมดแล้ว คือเราก็ต้องเก็บทุกอย่างเอาไว้เพราะเราเองก็เป็นห่วงคุณพ่อเหมือนกัน

แสดงว่าตอนแรกเราเองก็ไม่กล้าบอกคุณพ่อว่าเกิดอะไรขึ้น ?
ยุ้ย : ไม่บอกค่ะ แค่ตั้งใจว่าจะไม่บอก แต่จะบอกแค่ว่าคุณแม่ตรวจเจอนิ่วและก็คุณหมอพาลงไปผ่านิ่วออกเท่านั้นเอง ซึ่งเราไม่ได้บอกสัญญาณอะไรกับคุณพ่อมากกว่านั้นเลย

ทำไมอยู่ดีๆ คุณแม่ถึงอาการทรุด ท่านมีภาวะอื่นๆ แทรกซ้อนหรือเปล่า ?
ยุ้ย : ด้วยความที่คุณแม่อยู่โรงพยาบาลมานาน ประมาณ 7-8 ปี บวกกับโรคของคุณแม่เท่านี้มันก็ถือว่านานมากแล้วจริงๆ อวัยวะต่างๆ ของคุณแม่ไม่ค่อยทำงานแล้ว และช่วงหลังๆ คุณแม่ก็เริ่มไม่ถ่าย เริ่มไม่ปัสสาวะ เริ่มมีอาการตัวบวม ตัวเหลือง ความดันลดลง คือมันก็มีหลายๆ สัญญาณมากๆ ที่เขาบอกกันว่าไม่ค่อยจะโอเคแล้ว แต่คุณพ่อก็จะทราบแค่ว่าเป็นนิ่วเป็นอะไรค่ะ"

พ่อรองได้มีโอกาสไปเยี่ยมคุณแม่ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ?
พ่อรอง : ก่อนที่พ่อจะเข้าโรงพยาบาล"

ยุ้ย : ก่อนที่คุณพ่อจะเข้าโรงพยาบาลคุณพ่อมีคิวถ่ายละครติดกันประมาณ 3 วัน ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่คุณแม่ทรุดพอดี และคุณแม่ก็กลับมาดีขึ้นนิดหนึ่งก่อนวันที่คุณพ่อจะเข้าโรงพยาบาลวันเดียว จนกระทั่งวันที่คุณพ่อวูบและเราพาคุณพ่อไปส่งโรงพยาบาลกำลังเข้าห้องฉุกเฉิน พี่ชายก็โทรมาแจ้งกับยุ้ยว่า 'คุณแม่ทรุดอีกแล้วนะ' คือมันเป็นจังหวะที่คุณพ่อเองก็อยู่ห้องฉุกเฉิน วันนั้นมันค่อนข้างหนักมากสำหรับเราทุกคน เพราะบอกตรงๆ  คือ 2 คนเราไม่ได้จริงๆ ค่ะ วินาทีนั้นเราจึงตัดสินใจว่าขอให้คุณพ่อแข็งแรงก่อน เพราะเราค่อนข้างทำความเข้าใจกับโรคของคุณแม่มาสักระยะแล้ว แต่หลังจากที่คุณพ่อได้ออกจากโรงพยาบาล คุณแม่ก็เหมือนจะมีอาการดีขึ้น ลืมตาได้ ปลุกก็ตื่น จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นคุณแม่ก็ไม่อยู่แล้ว

ก่อนที่คุณแม่จะสิ้นลม คุณพ่อได้ไปหาคุณแม่ที่โรงพยาบาลทันไหม ?
พ่อรอง : มีเวลาเหลือแหล่เลยครับ ไปทันเป็นชั่วโมง วันนั้นพ่อก็บอกกับเขา ก็หอมแก้มเขา พ่อบอกว่า 'พ่อรักแม่ที่สุด' เมื่อสักครู่นี้ก็หอมแก้มเขาอีกครั้งหนึ่งตอนที่เขาแต่งหน้าเสร็จ และพ่อก็บอกกับเขาเหมือนกันว่า 'แม่ไม่รักษาคำพูดกับพ่อเลยนะ แม่บอกว่าแม่จะไม่ทิ้งพ่อ แล้วแม่ทิ้งพ่อไปทำไม' (น้ำตาซึม) ไม่มีสัญญาณอะไรมาบอกกับพ่อเลย"

ตอนนี้ทางครอบครัวตั้งใจจะดูแลสภาพจิตใจพ่อรองอย่างไรบ้าง ?
ยุ้ย : จริงๆ เราก็ดูแลกันมาตั้งแต่ก่อนที่จะถึงวันนี้แล้ว แต่เราก็ต้องขอให้คุณพ่อให้ความร่วมมือด้วย ตอนนี้คุณพ่อคือคนที่เราหาไม่ได้ ยุ้ยบอกกับน้อง บอกกับทุกคนในครอบครัวเราว่าอย่าให้พ่อเดินไปไหนมาไหนคนเดียว"

สุขภาพของพ่อรองตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
พ่อรอง : ไม่เป็นอะไรหรอกครับแค่วันนั้นพ่อพักผ่อนไม่เพียงพอ คุณหมอก็เตือนแค่เรื่องให้พักผ่อน และเร็วๆ นี้ก็มีคิวนัดไปตรวจหัวใจที่โรงพยาบาลภูมิพลเพื่อจะได้เช็กอีกครั้งว่าพ่อเป็นอะไรกันแน่

แต่คุณพ่อก็ให้ความร่วมมือกับลูกๆ ดีใช่ไหม ?
พ่อรอง : บางทีพ่อก็เจ้าอารมณ์เหมือนกัน พ่อรู้ว่าเขาเป็นห่วง พ่อเข้าใจเขามแต่บางทีเขาก็ไม่เข้าใจพ่อไง

ทั้งแฟนละครแฟนคลับต่างก็ชื่นชมในความรักของคุณพ่อและแม่ทุม เป็นคู่รักตัวอย่างของคนในวงการบันเทิง ?
พ่อรอง : พ่อดีใจ ดีใจที่แม่เขาได้ทำความดีจนถึงวินาทีสุดท้าย และที่ทุกคนชื่นชมว่าเราเป็นคู่รักตัวอย่างมันไม่ได้มาจากพ่อเลย มันมาจากแม่ทุมทั้งนั้น

มีสิ่งไหนที่พ่อรองอยากจะทำเพื่อแม่ทุมบ้างไหมหลังจากนี้ ?
พ่อรอง : ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว แต่ถามว่าถ้าทำได้อยากจะทำอะไร พ้อก็อยากให้เขาฟื้น ซึ่งมันทำไม่ได้แล้ว ปฏิหาริย์มันไม่มีแล้ว ตอนนี้พ่อก็ทำได้แค่ทำทุกอย่างให้มันดีที่สุด พยายามนึกว่าแม่ชอบอะไรเพื่อที่เราจะได้ทำให้เขา

คุณแม่ยังมีห่วงอะไรบ้างไหม ?
ยุ้ย : เป็นเรื่องที่พูดยากมากค่ะเพราะตลอดเวลาคุณแม่เป็นคนที่ห่วงทุกคน ห่วงทุกคนในครอบครัวมากกว่าตัวเองโดยตลอด และด้วยความที่ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเราแทบจะไม่ได้สื่อสารกับคุณแม่เลย เนื่องจากคุณแม่เหมือนท่านไม่พูดไม่อะไรกับเรามาสักระยะหนึ่งแล้ว เราก็ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าคุณแม่คิดอะไร ดังนั้นเราก็เลยต้องใช้ช่วงเวลาสุดท้ายที่คุณหมอและพยาบาลให้เราอยู่กับแม่นี่ล่ะค่ะ คือเราก็พยายามบอกกับแม่ว่าแม่ไม่ต้องห่วง แม่ไม่ต้องห่วงอะไรแล้วนะ (น้ำตาคลอ)"

คุณแม่เป็นต้นแบบให้ครอบครัวเราอย่างไรบ้าง ?
ยุ้ย : คุณแม่เป็นต้นแบบในความสู้ค่ะ แค่เห็นตรงนี้...(สะอื้น) คือคุณแม่สู้มาจะ 8 ปีอยู่แล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วโรคนี้อยู่ได้แค่ประมาณ 5 ปีสูงสุด คุณแม่สู้มาตลอด คุณแม่สู้ถึงที่สุดแล้ว เราก็เลยรู้สึกว่าเราแข็งแรงไม่ได้ครึ่งของคุณแม่เลยจริงๆ"

ตั้งใจจะขอพระราชทานเพลิงศพไหม ?
พ่อรอง : ถ้าหากมีโอกาสก็อยากจะทำครับ แต่เราจะมีเวลาหรือเปล่า ใครๆ ก็อยากได้ทั้งนั้นเพราะเป็นของสูง เป็นเกียรติยศแก่วงศ์ตระกูล แต่อย่างที่บอกตอนนี้ทุกคนอยู่ที่นี่กันหมดใครจะไปดำเนินการให้เรา"

ทางครอบครัวตั้งใจจะทำอย่างไรกับอัฐิของแม่ทุมหลังจากฌาปนกิจแล้ว ?
พ่อรอง : นำไปลอยที่สัตหีบครับ แม่ชอบทะเลมาก ตรงนั้นลูกชายคนโตที่เสียไปแล้วก็อยู่ที่นั่นด้วย รวมถึงแม่ของพ่อก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน พี่ชายของพ่อก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน ให้เขาไปอยู่ด้วยกันที่นั่นล่ะครับ

 

พ่อรองเผยคำพูดสุดท้ายที่ได้บอก แม่ทุม ก่อนจากกันตลอดกาล ยุ้ย ลูกสาวถึงกลั้นน้ำตาไม่อยู่

 

พ่อรองเผยคำพูดสุดท้ายที่ได้บอก แม่ทุม ก่อนจากกันตลอดกาล ยุ้ย ลูกสาวถึงกลั้นน้ำตาไม่อยู่

 

พ่อรองเผยคำพูดสุดท้ายที่ได้บอก แม่ทุม ก่อนจากกันตลอดกาล ยุ้ย ลูกสาวถึงกลั้นน้ำตาไม่อยู่

 

พ่อรองเผยคำพูดสุดท้ายที่ได้บอก แม่ทุม ก่อนจากกันตลอดกาล ยุ้ย ลูกสาวถึงกลั้นน้ำตาไม่อยู่

 

พ่อรองเผยคำพูดสุดท้ายที่ได้บอก แม่ทุม ก่อนจากกันตลอดกาล ยุ้ย ลูกสาวถึงกลั้นน้ำตาไม่อยู่