แม่แท้ๆ ลูกชายสิตางศุ์ บัวทอง ประจันหน้า ฉะเดือด เน็ตไอดอลสายสะบัด

แม่แท้ๆ ลูกชายสิตางศุ์ บัวทอง ประจันหน้า ฉะเดือด เน็ตไอดอลสายสะบัด ทนายคลายปมศึกนี้จะจบอย่างไร

เป็นเรื่องเป็นราวเป็นข่าวหน้าหนึ่งมาสักพักใหญ่ๆ แล้วสำหรับมหากาพย์ศึกชิงลูกชายแม่สิตางศุ์ บัวทอง เน็ตไอดอลสายสะบัดชื่อดังที่ล่าสุด ทั้งสิตางศุ์ บัวทอง และ แม่แท้ๆ ของตี๋น้อย ลูกบุญธรรมแม่สิตางศุ์ ได้มาเผชิญหน้ากัน ซึ่งก่อนหน้านี้ แม่แท้ๆ ลูกบุญธรรมแม่สิตางศุ์ ได้แจ้งความ หมิ่นประมาท เพราะเธอต้องการลูกคืน แต่ไอดอลคนดังยืนกรานว่าไม่คืนให้ แต่จะขอจ่ายเงินให้แทน ทว่าอีกฝ่ายเรียกร้องมากไป พร้อมทั้งถูกแฉวีรกรรม ทำร้ายลูก

ลูกบุญธรรมแม่สิตางศุ์

แจกโค้ดส่งฟรีลาซาด้า

โดย นางวรรณา แซ่โง้ว แม่แท้ ๆ ของตี๋น้อย ได้ประจันหน้ากับ สิตางศุ์ บัวทอง เพื่อเคลียร์ประเด็นดังกล่าว ซึ่งแม่แท้ๆ ตี๋น้อย ได้เล่าว่า ลูกชายตนหายไป ก่อนจะกลับมาบอกว่า อยากเป็นดารา ซึ่งตนไม่ได้ว่าอะไร และจากนั้นไม่นาน ลูกตนก็หายไปอีกครั้ง แล้วก็เริ่มติดต่อไม่ได้ สักพักก็มีข่าวว่าคุณสิตางศุ์รับลูกตนเป็นลูกบุญธรรม แถมมีการพาไปเปลี่ยนนามสกุล ก่อนจะพาไปบวช ตรงนี้ถามพ่อถามแม่เขาหรือยัง แถมยังมีการมาด่าแม่เขาอีกว่าเป็นแก๊งขอทาน


นางวรรณา เล่าต่อไปว่า แม้ลูกชายตนจะอายุ 23 ปีแล้ว แต่ลูกตนป่วยพิการทางสมอง ซึ่งลูกมีบัตรคนพิการ ซึ่งทั้งหมดเป็นการตัดสินใจเพราะเขาป่วย หลังจากนั้นตนก็ไปที่สมาคมคนพิการ อยากให้เขาเช็กให้หน่อยว่าลูกตนไปเปลี่ยนนามสกุลหรือยัง แล้วมีคนบอกว่ารับลูกตนเป็นลูกบุญธรรม อย่างนี้มันทำได้ด้วยหรือเขาก็เช็กให้ พบว่าลูกยังไม่ได้เปลี่ยนนามสกุล


ส่วนประเด็นเรื่องการบวชเรียนนั้น นางวรรณา ให้เหตุผลว่า ที่คัดค้านไม่อยากให้บวช เพราะตนเองมีเชื่อว่าถ้าบวชแล้วสึกกลางพรรษา คนๆ นั้นจะกลายเป็นบ้า ซึ่งตอนหลังตนเริ่มติดต่อลูกไม่ได้ กระทั่งมารู้อีกทีคือลูกไปบวชที่เขาวงกต ส่วนแม่สิตางศุ์ก็ออกสื่อบอกว่าลูกตนไม่มีแม่

ลูกบุญธรรมแม่สิตางศุ์


สำหรับประเด็นเรื่องที่ ตี๋น้อย ออกมาบอกว่าโดนตนเองทำร้าย และ แม่สิตางศุ์ดูแลดีเหมือนแม่แท้ๆ นั้น ตนอยากบอกว่า เป็นเรื่องไม่จริง เพราะแม่ไม่เคยทำร้ายลูกเลย ที่ลูกพูดไปเพราะเขาป่วย ถ้าถามว่าทุกวันนี้โกรธลูกไหม บอกเลยไม่โกรธ เพราะลูกป่วย ตนพาลูกไปรักษาจิตเวชมาตั้งแต่เด็ก ตี๋น้อยหนีแม่ไปหาคนที่เพิ่งเจอกันไม่กี่เดือน


"อยากร้องขอความเป็นธรรมบ้าง เอาลูกตนไปทำคอนเทนต์ด่าแม่อย่างนั้นอย่างนี้ ขอบคุณมากที่รายการได้ลงพื้นที่ ไปถามหาความจริง กับชาวบ้านที่อยู่ละแวกบ้านตน จะได้รู้ความจริงจากฝั่งแม่ด้วย ว่าแม่เลี้ยงลูกยังไง ตนยอมไปศิริราช พาลูกไปรักษาจิตเวชที่ศิริราชจนถึงช่วงวัยรุ่น ทีนี้หมอบอกให้ย้ายไปรักษาที่แผนกวัยรุ่น แต่ตั้งแต่วัยรุ่นก็ไม่ได้มีการรักษาต่อเนื่อง"

 

จากนั้น สิตางศุ์ บัวทอง จึงได้มีโอกาสพูดบ้าง ว่า ตนบอกว่าตนรับเด็กขอทานไว้คนนึง วันนั้นเขาโทร.มาทะเลาะกับลูกตนลั่นบ้าน ระยะหลังมานี้เขาโทร. มาป่วนบ้านตนทุกวัน ถามว่าทำไมตี๋น้อยไม่รับโทรศัพท์ ตนเลยบอกตี๋น้อยว่าแม่เธอน่าจะป่วยนะ เพราะตี๋น้อยเองก็บอกว่าแม่ป่วย ต้องไปรับยาจิตเวชที่โรงพยาบาลและยังโดนสามีทำร้ายอีกด้วย


"ที่ฉันรับเด็กคนนี้เข้าบ้าน ฉันปรึกษาน้องชายกับสามี เพราะเด็กบอกว่าโดนครอบครัวทำร้าย เราก็เอ็นดูน้อง เรื่องพาเด็กเข้าวงการนั้น ตี๋น้อยปากเบี้ยว พูดไม่ชัด เราก็บอกแม่เขานะว่าลูกเธอทำงานไม่ได้หรอก ส่วนเรื่องที่ตี๋น้อยมีบัตรผู้พิการนั้น ฉันก็เพิ่งจะรู้ เขาบอกว่าเขาตามลูกไม่ได้ทั้งๆ ที่เขาโทร. มาด่าลูกทุกวัน ฉันเต็มใจที่จะรับตี๋น้อยเป็นลูกบุญธรรม แต่ว่ายังไม่ได้เซ็นเอกสารกัน เพราะทนายเตือนว่าแม่เขายังไม่ได้ยอมรับเลย ก็เลยยังไม่ได้เซ็น ทีนี้ก็เลยคุยกันว่าเราจะให้เงินแม่แท้ๆ เขาเป็นรายเดือน แต่ไม่ได้บอกว่าจะให้กรณีไหน เพราะลูกเธอทำอะไรไม่เป็น ตี๋น้อยเป็นเด็กดีนะ แต่ครอบครัวเขาเลี้ยงไม่ดี"

ลูกบุญธรรมแม่สิตางศุ์

        
นอกจากนี้ พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 13 กรมสุขภาพจิต ยังได้พูดถึงอาการของ ลูกบุญธรรมแม่สิตางศุ์ อีกว่า ตี๋น้อย มีปัญหาเรื่องการเรียน การควบคุมอารมณ์ และมีบัตรคนพิการประเภท 6 จริงๆ ซึ่งถ้าเป็นแค่อาการนี้อาการเดียว ไม่มีโรคอื่นร่วมด้วย ก็จะเหมือนคนปกติ เพียงแต่จะเรียนหนังสือไม่เก่ง

 

ด้านเรื่องคดีความนั้น ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยว่า สิทธิการเป็นพ่อแม่ลูกมันเลิกไม่ได้ มันจะต้องเป็นไปตลอดชีวิต เหมือนกัน บัตรผู้พิการเมื่อระบุให้คุณแม่วรรณาเป็นผู้ดูแล คุณแม่วรรณาก็ต้องมีสิทธิในการปกครองลูก เบื้องต้นในการติดตามลูกคืน แม่สามารถไปติดตามลูกคืนมาได้

 

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ สิตางศุ์ จะยกเลิกบัตรผู้พิการนั้น ยังไม่สามารถทำได้ ต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินก่อน และต้องมีการยินยอมจากผู้ดูแล ตามสิทธิ แม่วรรณาควรจะพาลูกไปหาหมอ เพราะสิทธินี้ควรจะเป็นผู้ปกครอง แต่ถ้าประเมินแล้วเด็กปกติ เด็กมีสิทธิที่จะเลือกได้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่กับใคร


ข้อมูลจาก รายการถกไม่เถียง

แจกโค้ดส่งฟรีลาซาด้า