นุ้ย เชิญยิ้ม จูงมือ ตั๊ก ศิริพร เปิดใจชีวิตคู่ ป่วยวัยทอง ต้องแยกห้องนอน

ถือเป็นอีกหนึ่งคู่รักรวยเสียงหัวเราะสำหรับคู่ของ นุ้ย เชิญยิ้ม และ ตั๊ก ศิริพร ที่ใช้ชีวิตคู่กันมานาน 23 ปี แม้จะมีทะเลาะกันบ้างแต่ทั้งสองก็ไม่เคยคิดจะปล่อยมือกัน  โดยล่าสุด  นุ้ย - ตั๊ก ได้จับมือกันมาเปิดใจถึงชีวิตคู่ในรายการคุยแซ่บSHOW ว่าตอนนี้ทั้งคู่มีอาการวัยทองหงุดหงิดใส่กันหนัก ถึงขั้นต้องแยกห้องนอน รายละเอียดจะเป็นยังไงไปชมกันเลย

มีอาการวัยทองเป็นยังไงบ้าง ?

          ตั๊ก : อาการวัยทองมันไม่ได้เกี่ยวว่าเราอายุเท่าไหร่ เคยอ่านวิจัยมาคนที่เป็นวัยทองเร็วสุด 35 ก็เป็นได้แล้ว เราสังเกตุตัวเองว่ามันใช่แล้ว บางวันเหวี่ยง หงุดหงิดไปหมด นอนเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว บางทีวีนไม่มีสาเหตุ บางทีเหม็นขี้หน้าผัว
 

ปกติโดนเหวี่ยงยังไงบ้าง ?

          นุ้ย : หงุดหงิดงุ่นง่าน เจออะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด
 

มีโกรธกันมั้ย ?

          ตั๊ก : ทุกวันนี้แยกห้องนอน
 

          นุ้ย : เราไม่อยากไปนอนให้เค้าหงุดหงิด เค้าอยากจะนอนสบาย ๆ ก็ให้เค้าไปเลย เค้านอนในห้องพี่นอนข้างนอก
 

          ตั๊ก : อาการวัยทองมันเกี่ยวกับเรื่องอย่างนั้นด้วยนะ มันจะหมดอารมณ์ตรงนั้นไปเลย จะกลายเป็นผวากลัว ถ้าเกิดสามีนอนข้าง ๆ เราก็ผวาว่า อย่านะเว้ย ผัวก็ไม่เข้าใจเรา ไม่รักพ่อแล้วเหรอ เบื่อพ่อแล้วเหรอ ไม่ใช่กูเป็นวัยทอง เค้าไม่เข้าใจ
 

          นุ้ย : บางทีเราก็คิดว่าอ้างหรือเปล่า วัยทองจริงหรือเปล่า มันพิสูจน์ยังไง แต่เค้าเหงื่อออกเยอะ

 

พี่นุ้ยเริ่มมีอาการวัยทองหรือยัง เพราะผู้ชายก็เป็นได้ ?

          นุ้ย : ก็หงุดหงิด ก็มีแต่เราไม่รู้ตัว
 

          ตั๊ก : ไม่ใช่ไม่รู้ตัวเค้าไม่เชื่อว่ามีโรคนี้จริง จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่เชื่อหาว่าพี่อ้าง
 

          นุ้ย : มีขี้น้อยใจ คิดไปแล้ว อารมณ์คล้ายโรคซึมเศร้า แต่เราไม่รู้มันยังไง ประมาณนั้น แต่ไม่เคยบอกเค้าเดี๋ยวเราจะอยู่กันไม่ได้แบบนั้น
 

มีปรึกษาแพทย์มั้ย ?

          ตั๊ก : พี่อยากจะไปเหมือนกัน เพื่อพี่นุ้ยจะได้เข้าใจเราว่ามันมีจริง ๆ
 

          นุ้ย : พี่จะไปปรึกษาพระ เอาธรรมะเข้าช่วย
 

ชอบทะเลาะกันเรื่องไร้สาระ ?

          นุ้ย : เยอะมาก เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เรื่องเปิดประตูไรเนี้ย เรื่องเข้าห้องน้ำ
 

เรื่องเม้าท์กันว่าจะถึงเพชรบูรณ์อยู่แล้ว เลี้ยวรถกลับกรุงเทพฯ ?

          นุ้ย : ทะเลาะกับแม่ยาย เรื่องอารมณ์เหมือนกัน อายุเยอะแล้วหงุดหงิดง่าย เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ว แต่เราเดือดซะก่อน โมโหหงุดหงิดรถติดกลับเลย มันกระทบกระเทือนจิตใจคนในรถ กลับบ้านพิษณุโลกก็เป็นเรื่องเลย พอถึงบ้านผมไปลาแม่จะกรุงเทพฯ แม่ก็เตะกระเป๋า
 

          ผมรีบขับรถกลับเลย คิดมาตลอดทาง ไม่น่าทำเลย ไม่น่าใจร้อนเลย ทีนี้ก็ง้อแม่ยาย โทร. ไปก็ไม่รับ ปิดเครื่องบล็อกเบอร์พี่ เค้าไปทำบุญที่วัดก็ตามไป ไปถึงก็แย่งไมค์มัคนายกมาพูด ขอโทษแม่ ร้องเพลงให้เค้าฟัง ก็ยังไม่หาย จนแต่งเพลงง้อ เกี่ยวกับเขาค้อ 3 เดือนไม่คุยกับพี่เลย วันเกิดแม่ไลน์ไปอวยพร เค้าตอบกลับมาแล้วก็สั่งสอนเรา เค้าก็ให้อภัย

 

 

เคยทะเลาะกันหนักมั้ย ?

          นุ้ย : เค้าหอบลูกหนี ตอนภูไม่กี่เดือน เค้าจับได้เราเล่นการพนัน เอาดอกไม้ไปง้อกลางรายการ
 

เคยหนีไปนอนบ้านพี่สุนารี ?

          ตั๊ก : เค้าน้อยอกน้อยใจ เริ่มเข้าวัยทองเหมือนพี่แล้วไง พี่ก็หงุดหงิด พี่เลยเก็บของไปนอนบ้านสุนารี
 

ใครง้อใครเวลาทะเลาะกัน ?

          นุ้ย : พี่ ต้องง้ออยู่แล้ว พี่ถือว่าพี่เป็นคนก่อเรื่องด้วย ง้อไม่เห็นจะเสียหาย ไม่เสียศักดิ์ศรีอะไรเลย แล้วก็ไม่ปล่อยให้ข้ามวัน แล้วก็ไม่ให้ออกจากบ้าน ถึงเค้าไปนอนบ้านพี่สุนารีพี่ก็จะตามพอรู้ว่าไปบ้านพี่สุก็สบายใจ เราก็ขอโทษ แต่เค้าจะบอกบ่อย ๆ คำว่าขอโทษอย่าใช้บ่อย มันจะไม่ศักดิ์แล้วเสื่อมลง ตั้งแต่นั้นมาพี่ไม่อยากใช้คำพวกนี้อีก แล้วก็ไม่ใช้อารมณ์ เราน่าจะคุยกันได้ คิดในสิ่งดี ๆ ซึ่งกันและกัน เริ่มต้นใหม่เหมือนรักกันแรก ๆ นิด ๆ หน่อย ๆ มองข้ามไปบ้างอย่าก็บมาใส่ใจ
 

ตอนนี้คลั่งรัก ?

          นุ้ย : การชมกันมันเป็นสิ่งที่ดี ยิ่งเป็นคู่ชีวิตกันด้วย ชมไปคนถูกชมมันก็สดชื่น ถ้าติก็ติด้วยเหตุผลนิดหน่อยก็พอ เรื่องหอมทุกวัน
 

          ตั๊ก : ก่อนไปทำงานทำทุกวัน อยากให้ทุกคู่ทำแบบนี้ ชีวิตเราจะได้ไม่จืดชืด สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่อยากให้มองข้าม มันมีคุณค่า
 

          นุ้ย : วันไหนไม่ทำพี่ขับรถออกไปปุ๊ปโทรศัพท์เลย โกรธอะไรหรือเปล่า แค่ลองเท่านั้นเอง
 

อาบน้ำด้วยกัน ?

          ตั๊ก : ไม่ทุกวันด้วยเวลางาน
 

น้องภูเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ?

          นุ้ย : เข้าแล้วแต่ไม่เคยไปมหาลัยเลย เรียนออนไลน์อยู่
 

          ตั๊ก : ตัวน้องภูเข้าอยากไปมากเลยแต่มันช่วงโควิด สงสารลูกมากเลย คงต้องรอ
 

ภูมิใจลูกสอบติดธรรมศาสตร์ ?

          ตั๊ก : พี่เป็นคนให้อิสระลูก ภูอยากทำงานอะไรเรียนที่ไหนยังไง มันคือชีวิตของเค้า เราเป็นพ่อแม่มีคำแนะนำเราไม่ได้เป็นเจ้าชีวิตเค้า วันนึงเค้าต้องมีครอบครัวโบยบินออกจากเรา สิ่งที่พี่ขอคือถ้าภูโตแล้ว มีครอบครัวอย่าลืมพ่อกับแม่ แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนบ้าง แล้วก็อย่าเป็นภาระพ่อแม่ อย่าเป็นภาระสังคม พี่ไม่ขออะไรจากลูก

 

 

 

ขอบคุณรายการ คุยแซ่บSHOW