แต๊งค์ พงศกร เผยสาเหตุไม่ไปร่วมพิธีไว้อาลัยแตงโม ทำทุกคนเคารพการตัดสินใจ

"แต๊งค์ พงศกร" เผยสาเหตุไม่ไปร่วมพิธีไว้อาลัย แตงโม นิดา ที่คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ ทำทุกคนเคารพการตัดสินใจ

การเสียชีวิตของนักแสดงสาว แตงโม นิดา หลังเกิดเหตุการณ์พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทเสียชีวิตอย่างปริศนาในแม่น้ำเจ้าพระยา หลายคนสงสัยความไม่ชอบมาพากลของบุคคลทั้ง 5 ที่อยู่บนเรือก่อน ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุดทางด้าน นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่แตงโม ได้ให้ ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ยื่นหนังสือขออายัดศพแตงโม นิดา เพื่อประสานให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ตรวจพิสูจน์ร่างใหม่อีกครั้ง เนื่องจากมีความเคลือบแคลงสงสัยในสาเหตุการเสียชีวิต

 

แต๊งค์ พงศกร เผยสาเหตุไม่ไปร่วมพิธีไว้อาลัย แตงโม นิดา ทำทุกคนเคารพการตัดสินใจ

 

ทั้งนี้ในรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน 31 ได้มีการเชิญ แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ มาร่วมพุดคุยถึงเรื่องการไปทำพิธีลอยดอกไม้ให้ แตงโม นิดา และสาเหตุที่ไม่ขอไปร่วมพิธีไว้อาลัยที่คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ

 

ล่าสุดแต๊งค์ไปทำพิธีลอยดอกไม้ให้กับน้อง?

แต๊งค์ : ใช่ครับไม่รู้ว่าเรียกว่าพิธีหรือเปล่า เราก็อยากทำด้วยใจ คนที่คิดไอเดียนี้ขึ้นมาคือคุณแม่ผม คุณแม่จัดการหาเรือสปีดโบ๊ทมา 3 ลำให้ผม ตอนแรกจะชวนเพื่อนๆ คนที่น้องโมรักไปด้วย ส่วนใหญ่ติดต่อไปยุ่งๆ กันหมดเลย บางคนก็ต้องจัดงานให้น้อง อย่างคุณ อะตอม ก็ติดธุระส่วนตัว ตอนแรกจะชวนไปหลายคน แต่สุดท้ายเหลือแค่ครอบครัวผม เราก็นั่งเรือไป คุณแม่สั่งดอกไม้มาจากต่างจังหวัด สั่งจากปากคลองตลาด แล้วมานั่งตัดทีละดอกเพื่อเตรียมไว้โปรย คุณแม่ทำให้เองทั้งคืนเลย

 

แต๊งค์ พงศกร เผยสาเหตุไม่ไปร่วมพิธีไว้อาลัย แตงโม นิดา ทำทุกคนเคารพการตัดสินใจ

เห็นว่าไปทำตรงจุดที่พบศบน้องโม?

แต๊งค์ : ใช่ครับ เราก็นั่งเรือไปตามที่น้องโมเดินทางวันนั้นเลย เราเอาดอกไม้ไปวางที่ท่าเรือก่อน ตรงโป๊ะที่คนไปวางดอกไม้กันเยอะๆ จากนั้นเราก็แล่นไปตรงกลางแม่น้ำตรงบริเวณที่มีคนยืนยันว่าพบ แล้วเอาดอกไม้โปรย


เรามีได้พูดอะไรกับน้องไหม?

แต๊งค์ : มีครับ จริงๆ ผมรู้จักกับโมมานานแล้ว โมเป็นคนที่สนุกสนาน สร้างรอยยิ้ม คนจะจำเขาในด้านที่สดใส เขาเป็นคนตลก ขี้เล่น ก็เล่นกับเขา ประมาณว่าไปแล้วกลับมาให้โชค ให้ลาภบ้างนะ ทางนี้ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว ทุกคนสู้เพื่อโมเต็มที่อยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นกังวล ไม่ต้องโกรธแค้นใคร ขอให้ไปอย่างสบายใจเลย


ครอบครัวของแต๊งค์ผูกพันกับน้องมา 20 กว่าปีถูกไหม?

แต๊งค์ : ครับผม ตัวผมรู้จักกับโมตั้งแต่เคยคบกันตอนนั้นก็ประมาณปี 52 ประมาณ 10 กว่าปีครับผม


หลังจากนั้นก็คบกันเป็นเพื่อนมาตลอด?

แต๊งค์ : ใช่ครับ ก็มีสถานะเป็นแฟนเก่า แฟนเก่าก็เป็นสถานะพิเศษอันหนึ่ง ที่ไม่ใช่ทั้งเพื่อน คือเป็นเพื่อนที่มีระยะห่างพอสมควร แต่ก็มีความรู้จัก คือเราจะรู้จักเขามากกว่าคนอื่นๆ ที่มองจากภายนอกเข้ามา

 

แต๊งค์ พงศกร เผยสาเหตุไม่ไปร่วมพิธีไว้อาลัย แตงโม นิดา ทำทุกคนเคารพการตัดสินใจ

แล้วอะไรที่ทำให้คุณแม่แต๊งค์รักน้องขนาดนี้?

แต๊งค์ : 1.เพราะว่าโมเข้ามาสนิทกับครอบครัวผม พร้อมกับผมนี่แหละก็มีระยะเวลาที่ยาวนาน และหลังจากนั้นที่ผมแยกทางกับคุณ แตงโม แล้ว ผมก็มีชีวิตของผมมาตลอด ซึ่งอย่างที่บอกสถานะแฟนเก่าเป็นสถานะพิเศษเนอะ เราก็ต้องให้เกียรติแฟนปัจจุบันของเรา ไม่สามารถติดต่อพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง แต่ว่าตัวน้องโมเองเขายังมีคนติดต่อกับคนที่บ้านผม เขารู้จักกับน้องสาวผมตั้งแต่ยังเล็กๆ เขาก็ติดตามข่าวสารของน้องผม คุณแม่ผมเป็นคนใจดีกับคนอื่นอยู่แล้ว เห็นว่าชีวิตน้องโมเป็นคนกตัญญู น้องโมเป็นคนที่รักคุณพ่อมาก ทำงาน หาเงิน ช่วยเลี้ยงคนในครอบครัวทุกคน คุณแม่ก็เลยเอ็นดูแล้วให้ความช่วยเหลือเวลาที่น้องโมต้องการความช่วยเหลือ มีอะไรก็มักจะคุยกัน


แต๊งค์บอกว่าไม่ไปร่วมงานนี้ มีเหตุผลบางเหตุผลที่ไม่ไป?

แต๊งค์ : ที่ไม่ไปมีหลายปัจจัยครับ ไม่อยากให้เป็นประเด็นใหญ่โตว่าแบบมีความขัดแย้งอะไรกับใครหรือเปล่า แต่ที่ไม่ไปคือ 1.มีลูกเล็ก มันต้องไปเจอคนเยอะกลัวเรื่องความปลอดภัย เรื่องโควิด


เกี่ยวไหมกับข่าวก่อนหน้านี้ที่เราถูกขู่ ส่งพัสดุเป็นมีดไปที่บ้าน เราก็เลยกลัวว่าไปงานนี้จะไม่ปลอดภัย?

แต๊งค์ : เรื่องนั้นผมไม่ได้ห่วง ไม่ได้กลัวครับ แต่ว่าจริงๆ งานที่จัดขึ้นเนี่ยเพื่อเป็นการไว้อาลัย และมีคนที่ไปร่วมงานจำนวนมาก ตัวผมเองเมื่อวานนี้ก็ได้ไปล่องเรือ นึกในใจ ทำใจ แล้วส่งน้องโมไปเรียบร้อยแล้วว่าผมคงไม่ไปร่วมงานดีกว่า


เห็นว่ามีการส่งมีดมาหาคุณแต๊งค์เหรอ?

แต๊งค์ : ครับผม


ใครยังไงทราบไหม?

แต๊งค์ : ตอนนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ผมยังรอดูท่าทีอยู่ จะมีอะไรต่อเนื่องไปจากนี้ไหม ตอนนี้หลังจากที่ผมโพสต์ออกมาให้ข่าว ออกมาให้ข้อมูลกับสื่อในช่วงแรกๆ ที่มีการไปกระทบกระทั่ง หลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีมีดส่งมาที่บ้าน เป็นกล่องพัสดุมาเลย มาจากบริษัทขนส่งเจ้าหนึ่ง รายใหญ่ ตอนนี้ก็มีการติดต่อไปยังผู้บริหารระดับสูงของบริษัทขนส่งแล้ว เขายืนยันว่าเขาจะทำการเช็กย้อนไปที่ต้นทางให้ แล้วดูว่ามาจากที่ไหน ตอนนี้กำลังรวบรวมข้อมูล รวบรวมหลักฐานอยู่ แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเปล่า รอดูท่าทีก่อนว่าจะมีการข่มขู่เพิ่มเติมไหม หรือว่ามีท่าทีอะไรออกมาจากคนที่ส่งมาหรือเปล่า

 

แต๊งค์ พงศกร เผยสาเหตุไม่ไปร่วมพิธีไว้อาลัย แตงโม นิดา ทำทุกคนเคารพการตัดสินใจ


มีจดหมายอะไรด้วยไหม?

แต๊งค์ : ยังไม่มีครับ เป็นมีดอย่างเดียว


แสดงว่าถ้าไม่มีอะไรมากกว่านี้ก็จะปล่อยผ่าน แต่ถ้ามีมากกว่านี้ก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด?

แต๊งค์ : ผมก็จะส่งมีดกลับไปให้ครับ


กับ VTR ของคุณแม่ทำให้เดือดโพสต์ในไอจีเลย?

แต๊งค์ : เดือดสิครับ ของขึ้นเลยวันนั้น ออกไปทำธุระนอกบ้านกลับมาผมเปิดทีวีดู ตามข่าวของน้อง แตงโม เนี่ยมาเจอคลิปนี้การให้สัมภาษณ์ล่าสุดของคุณแม๊ เรื่องที่พูดคือไปพูดกระทบคนที่จากไปแล้ว แล้วเป็นคนที่น้องโมรักมากที่สุด คุณพ่อโสผมยืนยันได้ว่าน้องโมรัก 100%


พอคุณแม่พูดประโยคนี้มันทำให้คุณทั้งคู่ไม่พอใจ?

แต๊งค์ : ผมเขียนไปในโพสต์ของผมชัดเจนแล้วว่า แม่จะต่อว่า หรือตอบโต้ใครก็ได้ แต่ขออย่างเดียว อย่าให้คุณ แตงโม และคุณพ่อโสเสียหาย เพราะว่าตอนนี้ประเด็นที่มันเกิดขึ้นอยู่ทุกวัน แล้วคนมาช่วยติดตาม จุดศูนย์กลางของเรื่องคือคุณแตงโมไม่ใช่คุณแม่นะครับ คุณแม่กำลังเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของทุกเรื่อง เป็นคนที่มีสิทธิ์ออกมาเรียกร้องทุกอย่าง แต่อย่าลืมว่าคุณแม่ไม่ใช่คนเดียวที่สูญเสียนะครับ น้องโมเป็นคนที่มีคนติดตามทั่วประเทศ มีเพื่อนสนิท มีเพื่อนที่รัก แล้วยังมีญาติๆ คนอื่นนะครับ เพื่อนฝูงที่รักเขาก็มีความรู้สึกสูญเสียเช่นเดียวกัน ทุกคนอยากมีสิทธิ์ที่จะเข้าไปช่วย ไปทวงความยุติธรรมให้โม แต่คุณแม่มาอ้างสิทธิ์เป็นของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว แล้วคุณแม่ก็ได้สิทธิ์นั้นตามกฎหมาย สงสารความรู้สึกของคนอื่น ทุกๆ คนครับ แล้วก็มากที่สุดเลย สงสารความรู้สึกของคุณแตงโม


เพราะถ้าแตงโมอยู่ แตงโมก็ไม่อยากได้ยินประโยคนี้ อย่างน้อยๆ บุคคลที่ล้มละลายก็เป็นคนที่เลี้ยงน้องมา ไม่เคยทิ้งน้องเลย จนวันสุดท้ายของชีวิต?

แต๊งค์ : คนล้มละลายไม่ผิดนี่ครับ ไม่ได้ผิด ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย มันคนละเรื่องกับฉ้อโกงนะ คุณแม่ออกมาปกป้องทนายแล้วจะต่อว่าหรือตอบโต้อย่างไรก็ได้ จะพูดแก้ต่างให้คุณทนายอย่างไรก็ได้ แต่ทำไมเลือกที่จะแดกดันคุณพ่อโส ทำไมเลือกที่จะไปแดกดัน ไปแซะคุณพ่อแตงโม ประเด็นนี้ทำให้ผมรู้สึกไม่โอเคเลย


ที่แต๊งค์โพสต์ถึงคุณแม่ แสดงว่าลึกๆ รู้ในความสัมพันธ์ของแตงโมกับคุณแม่?

แต๊งค์ : มันไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่รู้นะครับ มีบรรดาเพื่อนที่เคยสนิทกับโม ใครที่รู้จักกับโมในช่วงแรกๆ อย่างเช่นพี่ช่างแต่งหน้าหลายๆ คน เพื่อนๆ ที่เคยอยู่ด้วยกันสมัยนั้น แม้กระทั่งคุณอะตอมเองก็จะรู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่กับคุณแตงโมเป็นอย่างไร


ฟังจากนัยยะของแต๊งค์เอง หรือเพื่อนๆ อีกหลายๆ คนที่ได้มีโอกาสคุยกันทุกคนกำลังจะพูดออกไปว่า จริงๆ แล้วพวกเราที่นั่งอยู่ตรงนี้สนิทกับน้องมากกว่าที่แม่สนิทกับน้อง แล้วรู้เรื่องน้องมากกว่าแม่รู้เรื่องน้องใช่หรือไม่?


แต๊งค์ : หลายสิ่งที่เราเลือกที่จะไม่พูดออกไป เพราะเราให้เกียรติคุณแม่ ในฐานะที่คนเป็นแม่ เป็นลูกกัน เขาก็ควรได้รับความเคารพในฐานะคุณแม่ ผมเคารพคุณแม่ เพราะว่าพวกเราให้เกียรติกับคุณแตงโมในลักษณะนั้นมากกว่า แล้วก็ไม่อยากให้คนมองหรือโจมตีคุณแม่มากไปกว่านี้ แต่ในเมื่อคุณแม่เลือกที่จะพูดแบบนี้ ไม่ให้เกียรติลูกสาว ไม่ให้เกียรติคุณพ่อของลูกสาวแบบนี้ พวกเราในฐานะที่รู้ความจริงหลายเรื่องของคุณแม่ เราก็เลยมีความรู้สึกโกรธ ก็อยากให้ความเป็นธรรมกับคนที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ย้อนไป 10 ปีที่แล้วตอนที่ผมยังอยู่กับคุณแตงโมอยู่ ช่วงนั้นเป็นช่วงแรกๆ ที่คุณแม่เริ่มกลับเข้ามาในชีวิตคุณแตงโม คุณแม่หายไปจากชีวิตคุณแตงโมนานมาก มีการคุยโทรศัพท์มาจากต่างประเทศเท่านั้นเอง แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่คุณแม่เริ่มกลับมาอยู่ประเทศไทย สิ่งแรกที่คุณแตงโมคุยกับผม นั่นก็คือคุณแม่กลับมาแล้ว คุณแม่จะต้องมีปัญหาในเรื่องการเงินแน่นอน อันนี้อ้างอิงจากที่คุณแตงโมพูดกับผมนะ ผมไม่ได้พูดเองนะครับ

 

แต๊งค์ พงศกร เผยสาเหตุไม่ไปร่วมพิธีไว้อาลัย แตงโม นิดา ทำทุกคนเคารพการตัดสินใจ


ตอนนั้นแตงโมอายุเท่าไหร่ ช่วงไหนที่บอกว่ากลับมา?

แต๊งค์ : 10 ปีที่แล้วครับ ปี 52 ประมาณ 13 ปีที่แล้ว คุณแม่กลับมาแล้ว น้องโมตอนนั้นเริ่มที่จะซื้อบ้าน ซื้อรถ เข้าวงการ ช่วงนั้นมีหนี้สินมากพอสมควร จำเป็นที่ต้องหาเงินเพื่อมาจุลเจือค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ค่าเลี้ยงดูพ่อ ค่าเลี้ยงดูญาติๆ ของคุณพ่อ ค่าจ้างพนักงานคนที่เขาช่วยเหลือทุกคน ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ทั้งหมดรวมเป็นเงินไม่ต่ำกว่าเดือนละ 2-3 แสนต้องหาให้ได้ทุกเดือน ซึ่ง ณ ตอนนั้นน้องโมก็เจอกระแสข่าวหลายๆ อย่าง งานเขาก็น้อยลง รายได้ก็ตกลง ค่อนข้างที่จะเครียดมาก คุณแม่เข้ามา คุณแม่ไม่เคยที่จะเข้ามาช่วยให้คำปรึกษา หรือว่าช่วยบรรเทาความทุกข์อะไรให้น้องโม


ถ้าย้อนกลับไป 13 ปีที่แล้ว เป็นช่วงจังหวะชีวิตเขาที่มีการพลิกผันอะไรหลายๆ อย่าง แล้วเขาก็รับผิดชอบดูแลทุกอย่างเยอะมาก?

แต๊งค์ : ใช่ครับ คือคุณโมด้วยความที่เขาเป็นคนที่มีความกตัญญูสูง คือคุณแม่ของตัวเอง ต่อให้ไม่ได้เลี้ยงมา เขาก็ยังรักและหวังดีกับคุณแม่อยู่ ในเมื่อคุณแม่ลำบากกลับมา คุณแตงโมพร้อมที่จะช่วยเหลือ โดยที่คนที่ดูแลคุณแตงโมอยู่คือคุณพ่อโสเท่านั้น


แตงโมได้มาขอความช่วยเหลือแต๊งค์บ้างไหม?

แต๊งค์ : ตอนนั้นคุณแตงโมเขายังมีศักยภาพในการทำงานแล้วดูแลตัวเองดีอยู่นะครับ ไม่มีการขอความช่วยเหลือครอบครัวผมในเรื่องการเงินเลยในตอนนั้น เราสองคนคือช่วยกันหาเงิน ต่อมาพอผมแยกทางกับคุณแตงโมมาระยะหลังๆ ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ช่วงคุณพ่อโสล้มป่วยหนักเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย หลายคนคงเห็นในโพสต์ของคุณแม่ผมแล้วว่าคุณพ่อโสปฏิเสธที่จะรับการรักษา เพราะไม่ต้องเป็นภาระในเรื่องการเงินของลูก จะเอาไปไว้โรงพยาบาลแกก็ไม่ไปนะครับ แกขอแค่เครื่องผลิตออกซิเจนเอาไว้ที่บ้าน แล้วเตียง คนดูแล 1 คน แค่นั้นเอง ผมมีโอกาสไปเยี่ยมคุณพ่อโสครั้งสุดท้ายก่อนที่แกจะเสีย แกยังพยายามทำตัวเองให้ดูเข้มแข็งต่อหน้าคนอื่น ต่อหน้าคุณแตงโม แต่ผมเนี่ยใกล้ชิดกับญาติที่เป็นมะเร็งมาหลายท่าน ผมรู้ดีว่ามะเร็งมันเจ็บปวดมาก มันสร้างความทุกข์ทรมานมาก แต่คุณพ่อนอนน้ำตาไหลอยู่บ้านด้วยความเจ็บปวดไม่เคยบ่นสักคำ แกจะลุกมารับแขกด้วยหน้าตาที่พยายามยิ้มแย้ม สดใส แล้วชวนคุยเรื่องการเมือง ชวนคุยเรื่องนู้น เรื่องนี้


ช่วงที่คุณพ่อป่วย เป็นช่วงที่วิกฤตมากของแตงโม คุณแม่ได้เข้าไปช่วยเหลืออะไรบ้างไหม?

แต๊งค์ : มีคนอื่นๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือดูแลคุณพ่อน้องโมอย่างใกล้ชิดนะครับ คุณแม่มีเข้าๆ ออกๆ แต่ผมไม่ทราบว่ามีเจตนาอะไรบ้างเหมือนเข้ามาพูด แล้วดูเหมือนจะจัดการ จัดแจงนู้นนี่นั่น โดยที่ผมก็ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรบ้าง อันนี้ไม่รู้จริงๆ


คุณแม่ให้สัมภาษณ์บอกว่าน้องโมให้เงินคุณแม่เดือนละหมื่น แต๊งค์คิดว่าเดือนละหมื่นจริงไหม?

แต๊งค์ : ไม่ครับ มากกว่านั้น

 

แต๊งค์ พงศกร เผยสาเหตุไม่ไปร่วมพิธีไว้อาลัย แตงโม นิดา ทำทุกคนเคารพการตัดสินใจ


คุยถึงความน่ารักของน้องโมกับพ่อโสบ้าง เพราะโมมารายการบ่อยมาก 5 ครั้งได้ตั้งแต่เปิดรายการมาเป็นแขกคนแรกๆเลย น้องโมชอบพูดว่าคุณพ่อเป็นทุกอย่างของน้อง หวีผม ซักเสื้อผ้า ใส่ถุงเท้า รองเท้า ทำกับข้าว คุณเคยเห็นภาพเหล่านั้นมั้ย ?

แต๊งค์ :  เห็นครับ ผมได้เห็นภาพเบื้องหลังที่หลายๆคนไม่ได้เห็นอยู่แล้วในการดูแลของพี่โส คือแกจะดูแลตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ อาหารการกิน ดูเรื่องการบำรุงรถยนตร์ยานพาหนะในบ้าน ผู้ชายคนเดียวในบ้าน คือดูแลชีวิตน้องโมโดยที่น้องโมไม่จำเป้นจะต้องมาเป็นห่วงทางบ้านหรือเรื่องอื่นๆเลย


เห็นว่าคุยกันทุกเรื่องแม้ว่าเรื่องแฟน เวลาน้องโมมีปัญหาเรื่องแฟนก็จะปรึกษาพ่อโส?

แต๊งค์ : เขาเป็นพ่อลูกที่ไม่คุยกัน เขาจะไม่พูดคุยกันซึ่งหน้า แต่ว่าเวลาเขามีเรื่องจริงจังหรือมีเรื่องที่จะสอนน้องคุณพ่อจะเขียนจดหมาย ณ ตอนนี้ถ้ามีใครที่สามารถเข้าไปในบ้านคุณแตงโมได้ ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าโต๊ะหัวเตียงฝั่งที่เขานอนในลิ้นชักจะต้องมีจดหมายของคุณพ่อที่เขียนให้น้อง เพราะน้องเก็บไว้ทุกฉบับ และจะเก็บไว้ตรงนั้นตลอด


สื่อสารกันทางจดหมาย?

แต๊งค์ : ใช่ครับ ผมมารู้ตอนที่เลิกกับคุณแตงโมไปแล้ว ห่างหายกันไปปลายปีเลย มีกลับมาคุยกันตอนช่วงที่คุณพ่อป่วย คุณพ่อก็ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่าได้เขียนจดหมายให้กับน้องโม คุณพ่อก็พูดกับผมด้วยว่าคุณพ่อเป็นห่วงผมมาก ตั้งแต่ตอนที่ผมมีปัญหาชีวิต คือผมก็ล้มเหลวในชีวิตมาเยอะ เข้าไปสู่ด้านมืดของชีวิตตัวเองมาเยอะ คุณพ่อก็บอกว่าเป็นห่วง อยากให้แก้ไขตัวเองยังไง คือแกเป็นคนน่ารักมาก

 

ขอบคุณ คุยแซ่บshow