ชงคดีเเตงโม เป็นคดีพิเศษ เชื่อเตรียมการเฉพาะ ปกปิดทำลายหลักฐาน ให้การเท็จ

 วันนี้ 22 มี.ค.65 ​ที่กรมสอบสวน​คดี​พิเศษ​ ดี​เอส​ไอ นางสาวรสนา โตสิตระกูล และนายนิติธร ล้ำเหลือ (กลุ่มประชาชนคนไทย) ยื่นหนังสือเพื่อให้รับคดีกรณี คุณแตงโม เป็นคดีพิเศษ

   โดย นางสาวรสนา กล่าวว่า คุณแตงโมเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเวลานี้ไม่มีความปลอดภัยสำหรับชีวิตของผู้หญิง ดิฉันคิดว่าเราน้องทำให้ระบบของความยุติธรรมกลับมา เพื่อที่จะทำให้คนมีความมั่นใจทั้งในเรื่องของกระบวนการยุติธรรม รวมไปถึงความปลอดภัยในชีวิตโดยเฉพาะผู้หญิงที่อาจเป็นผู้ถูกกระทำมากที่สุดในสังคมไทย เพระฉะนั้นดิฉันเองได้เขียนบทความลงไปแล้วแต่ที่ผ่านมายังไม่มีอะไรคืบหน้า ก็เลยเห็นว่าเราควรจะมายื่นเรื่องต่ออธิบดีดีเอสไอ เป็นหลักฐานเพื่อให้นำเข้าสู่คณะกรรมการเพื่อพิจารณารับคดีนี้เป็นคดีพิเศษก่อนที่หลักฐานพยานวัตถุต่างๆจะสูญหาย

ฉันจึงได้ร่วมกับทนายนิติธร มาช่วยกันร่างหลักฐานข้อสงสัยต่างๆเพื่อที่จะเป็นเหตุในการพิจารณานำเข้าสู่คดีพิเศษและเราก็หวังว่าเรื่องนี้อธิบดีดีเอสไอและคณะกรรมการ จะทำและรับเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน

  โดย 4 ประเด็นที่ยังสงสัยคือ บาดแผลในร่างกายของเเตงโม นิดา หลักฐานพยานวัตถุอื่นๆ เช่น เรือ และข้อต่อมาที่น่าสงสัยคือคนหนึ่งคนที่ตกน้ำแต่มีเพื่อนอยู่บนเรือแต่ไม่ได้มีการช่วยเหลือกัน ซึ่งเราเคยเห็นกันว่าเวลาขนาดหมาตกน้ำยังกระโดดลงไปช่วย นี่คนทั้งคนและเป็นเพื่อนปล่อยให้เขาตาย เราไม่สามารถที่จะโทรศัพท์เรียกคนมาช่วยเลยหรอ อันนี้เป็นข้อสงสัยมาก  เล็งเห็นผลถึงการเสียชีวิตหรือไม่​ อีกทั้งมีบุคคล​ แทรกแทรงการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงาน​สืบสวนสอบสวน​ ​ หรือทางพนักงานสืบสวนสอบสวนยอมรับการแทรกแทรง​ รับผลประโยชน์​หรือไม่​ จึงเป็นเรื่องที่ทำให้เชื่อได้ว่า​ มีกระบวนการ​ การเตรียมการโดยเฉพาะ ทำให้เสีย​ชีวิต​ ปกผิดทำลายหลักฐาน​ การให้การเท็จ

  ส่วนของ นายนิติธร​ กล่าวว่า​ ตนตั้งข้อสงสัยต่างๆ​ เช่น​ ลักษณะบาดแผล​ ตรวจครั้ง​ที่ 2 มี​ 20​ บาดแผล​  นอกจากนี้บาดแผลที่เกิดขึ้น​นั้น​ เกิดก่อนหรือหลังการเสียชีวิต​ ก่อนตกน้ำหมดสติหรือไม่​ เพราะถ้าไม่ช่วยจะเล็งเห็นผลให้เสียชีวิต​ ทั้งนี้อย่าเชื่อว่าเป็นเหตุจมน้ำอย่างเดียว​ จุดพบศพคือจุดเกิดเหตุ​ สิ่งที่พบในกระเพาะอาหารมีความสอดคล้องกับพื้นผิวใต้น้ำบริเวณที่คาดว่าผู้เสียชีวิตพลัดตกลงไปหรือไม่

   ด้านพันตำรวจโทสุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ท่านทั้งสองได้มายื่นเรื่องในวันนี้ที่ขอให้ดำเนินการเป็คดีพิเศษนั้น ต้องขอเรียนว่าตามกฎหมายเรื่องที่เราจะดำเนินการก็เป็นเรื่องความผิดตามพระราชบัญญัติเราสามารถดำเนินการได้ทันที แต่กรณีนี้เป็นกรณีอื่นที่อยู่นอก 23 พรบ.

เพราะฉะนั้นต้องมีกระบวนการรับเรื่องไว้ดำเนินการสืบสวนเพิ่มเติมก่อน หลังจากนั้นก็ต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการคดีพิเศษดูว่าเรื่องนี้สมควรที่จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาสักระยะ ซึ่งกรอบในการพิจารณานี้เราก็เห็นถึงความเดือดร้อนอยู่แล้ว โดยรมว.ยุติธรรม ก็ได้ให้นโยบายมาให้ช่วยเหลือเต็มที่ ส่วนจะทันการสรุปสำนวนจองเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่นั้น ก็ต้องดูว่าเขาสรุปสำนวนว่าอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับประเด็นข้อสังเกตที่ทางผู้ยื่นหนังสือมอบให้ดีเอสไอ พิจารณา ประกอบด้วย

1. ปมการเปลี่ยนสถานที่ชันสูตรพลิกศพแบบกะทันหัน  

2. การเข้าถึงพยานหลักฐาน ตัวบุคคล รวมไปถึงการอายัดของกลางกลับไม่เป็นไปโดนฉับพลัน

 3. ความล่าช้าในการตรวจร่างกาย เครื่องแต่งกาย รวมไปถึงร่องรอยต่างๆในร่างกายของผู้ต้องสงสัยที่อยู่ภายในเรือ​

4. มองการตั้งประเด็นสืบสวนสอบสวนที่มุ่งเป้าไปยังการประมาทหรืออุบัติเหตุ ค่อนข้างคับแคบไป ส่งผลต่อการสอบปากคำและค้นหาพยานหลักฐาน  พยานแวดล้อม

5. ขณะที่ข้อมูลยังไม่ปรากฎชัดเจนว่าผู้เสียชีวิตตกน้ำไปได้อย่างไร  และทำไมถึงช่วยตัวเองไม่ได้ในขณะที่พลัดตกลงไปในน้ำ ส่งผลให้ทำไมคนที่อยู่ถึงไม่สามารถช่วยไว้ทันเวลา

6.แล้วขณะที่ตกน้ำตอนนั้นผู้เสียชีวิตมีสติหรือไม่

7. สิ่งแปลกปลอมที่พบในร่างกายทั้งในส่วนของปอด มีความสอดคล้องกับพื้นดินใต้น้ำในจุดที่ตกลงไปหรือไม่

8. การตรวจโรงเก็บเรือมีการตรวจอย่าละเอียดหรือไม่ มีการเคลื่อนย้าย ถอดถอน กล้องวงจรปิดหรือไม่ ตลอดจนมีการทำผนัง ทาสีใหม่หรือไม่

9. การตรวจสอบเกี่ยวกับเครื่องมือสื่อสารของบุคคลที่เกี่ยวข้องมีการตรวจอย่างละเอียดและครบหรือไม่ มีการนำเครื่องมือสื่อสารเครื่องอื่นๆที่ไม่เปิดเผยอยู่ในช่วงนั้นหรือไม่ 

10. ประเด็นเรื่องการอายัดเรือในประเภทและลักษณะเดียวกับลำที่เกิดเหตุ ตอนนี้มาการอายัดหรือไม่และตรวจสอบรวบรวมหรือไม่

11. มองว่าการสืบสวนโดยพนักงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่กำลังดำเนินการอยู่ตอนนี้ คล้ายว่าไม่ได้เป็นการค้นหาความจริงจามที่สังคมเคลือบแคลงใจ จนยากที่สังคมจะเชื่อมั่นและยอมรับ