ทนายกฤษณะ พูดชัดไม่ได้อยู่ในสังกัดเเม่เเตงโมเเล้ว ขอทุบหม้อข้าวสู้เเหลก

"ทนายกฤษณะ"เคลื่อนไหวล่าสุด เปิดหน้าสู้เพื่อความยุติธรรมคดีเเตงโม ตัดพ้อเป็นทนายที่ถูกด้อยค่า เเต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในสังกัดคุณเเม่เเตง โมเเล้ว

  คืบหน้าล่าสุดคดีเเตงโม  วันนี้ 29 เม.ย.65 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เดินทางไปยื่นเรื่องต่อ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ รับสืบสวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากพบข้อพิรุธว่าคดีนี้ส่อไปทางฆาตกรรมอำพราง ไม่ใช่อุบัติเหตุเพราะประมาท


    ซึ่งนาย อัจฉริยะได้เปิดเผยว่า ตนมีหลักฐานคำให้การของ แซน วิศาพัช ที่บอกว่าแตงโมเดินไปปัสสาวะแล้วจับขาตัวเองก่อนพลัดตกลงไปทางด้านท้ายเรือนั้น ไม่เป็นความจริง อีกทั้งการทำงานของตำรวจ ก็มีข้อสงสัยและข้อพิรุธหลายอย่างที่ไม่ได้มีการตรวจสอบให้ครบถ้วนตามที่ตนเคยนำเสนอไป

ทนายกฤษณะ พูดชัดไม่ได้อยู่ในสังกัดเเม่เเตงโมเเล้ว ขอทุบหม้อข้าวสู้เเหลก

   และล่าสุดจากการแถลงข่าว เดิมทีเคยบอกว่ามีบาดแผล 22 บาดแผล แต่วันแถลงข่าวมีเพิ่มเป็น 26 แผล และยังมีเรื่องภาพบาดแผลที่ขาจากต่างประเทศที่นำมาแถลงข่าว ที่เป็นการแหกตาประชาชน ตำรวจชุดนี้จึงเชื่อถือไม่ได้โดนยืนยันว่า หลักฐานของตนพิสูจน์ได้ว่า แซนโกหกจริง ตนมั่นใจว่า DSI จะรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษแน่นอน เพราะถ้าแซนโกหก แต่ตำรวจทำสำนวนคดีตามคำให้การของแซนทุกอย่างก็ต้องเริ่มใหม่หมด 

ทนายกฤษณะ พูดชัดไม่ได้อยู่ในสังกัดเเม่เเตงโมเเล้ว ขอทุบหม้อข้าวสู้เเหลก

   การที่มีหลักฐานชี้ว่าคดีส่อไปทางฆาตกรรมอำพราง DSI ก็จะเข้ามาสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป และจะมีอำนาจไปขอเปิดสำนวนคดีด้วย ซึ่งก็จะได้เห็นว่าตำรวจโป๊ะแตกอย่างไรบ้างโดยอัจฉริยะ ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนอีกว่าในวันที่ 2 พฤษภาคมนี้ จะมีนายพลคนหนึ่งถูกดำเนินคดี ทั้งมาตรา 157 และ 184 และจะสร้างความเสียหายให้กับองค์กร แต่ตนยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ส่วนสิ่งที่ตำรวจภาค 1 แถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ตนเตรียมจะแจ้งดำเนินคดีกับตำรวจผู้ทำชุดข้อมูลดังกล่าวด้วย

ทนายกฤษณะ พูดชัดไม่ได้อยู่ในสังกัดเเม่เเตงโมเเล้ว ขอทุบหม้อข้าวสู้เเหลก

  เพราะเป็นข้อมูลไม่จริงที่เอามาแหกตาประชาชน ไม่ว่าจะเป็น ภาพที่บอกว่าแซนนั่งท้ายเรือ ซึ่งตนมีหลักฐานหักล้างว่าแซนไม่ได้นั่งท้ายเรือในเวลาเดียวกัน แต่นั่งอยู่ในเรือ, เรื่องภาพบาดแผลจากต่างประเทศที่บอกว่าเป็นแผลจากใบพัดเรือทั้งที่ไม่ใช่ และการที่บอกว่าแตงโมไปนั่งตรงกาบท้ายเรือ ทั้งที่ตำรวจก็พูดเองว่า ตรงนั้นมีน้ำปริ่มอยู่ตลอดเวลาทำให้ยูเรียอาจละลายหายไปได้ ซึ่งถ้าตรงกาบเรือมีน้ำปริ่ม แล้วใครจะไปนั่ง

 

ทนายกฤษณะ พูดชัดไม่ได้อยู่ในสังกัดเเม่เเตงโมเเล้ว ขอทุบหม้อข้าวสู้เเหลก
 ทั้งนี้ในส่วนของ ทนายกฤษณะ ศรีพิมพ์บุญสวย ที่ได้เดินทางมาดีเอสไอในวันนี้ด้วย ได้เปิดใจว่า ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ในสังกัดคุณเเม่เเตงโมเเล้ว หากเกินอะไรขึ้นในตอนนี้ผมก็พร้อมที่จะรับด้วยตนเอง ถ้าผมมัวเเต่กลัวๆกล้าๆก็คงทำอะไรต่อไปไม่ได้  ตอนนี้ผมต้องเปิดหน้าสู้เเล้ว ถ้าผมไม่เข้มเเข็งเเละอ่อนเเเอ คดีน้องเเตงโมก็จะไปอีกทิศทางหนึ่ง  ผมต้องเดินหน้าชนเเล้ว  วันนี้ผมทุบหม้อข้าวหม้อเเกงตัวเองเเล้วด้วย ถ้าทำคดีนี้ไม่สำเร็จคงไม่กล้ามาสู้หน้าประชาชน  ครอบครัวไม่มีปัญหาเเล้ว

ทนายกฤษณะ พูดชัดไม่ได้อยู่ในสังกัดเเม่เเตงโมเเล้ว ขอทุบหม้อข้าวสู้เเหลก

  "ทนายกฤษณะ" พูดชัดว่า ผมถือว่าเป็นทนายที่ถูกด้อยค่า เขาพยายามด้อยค่าผม ขุดคุ้ยต่างๆ ผม ผมจะสู้ด้วยความมั่นใจ ไม่ได้กล่าวโทษใคร ผมจะขอพิสูจน์ความจริงในคดีเเตงโม  ยืนยันว่าติดกระดุมเม็ดเเรกไม่ถูกต้อง ยังไงก็ไม่ถูกต้องตามที่คุณหมอพรทิพย์บอก  ถ้ายังมีผมประชาชนมั่นใจได้ ผมจะสู้ พร้อมใจที่จะสู้ เดินหน้าสู้เพื่อความยุติธรรมในคดีเเตงโม

ชมคลิป