"บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" เคลียร์ปมสงสัย "ซันนี่ ยูโฟร์" น็อคไปเพราะน้ำเย็น

"บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" เคลียร์กระจ่างปมสงสัย ซันนี่ ยูโฟร์ น็อคหมดสติเพราะน้ำเย็น ยืนยันชัดว่าน้ำเย็นไม่มีส่วนทำให้เสียชีวิต

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2565 ในงานศพซันนี่ ยูโฟร์ คืนแรก  ท็อป-ไทด์ หรือ บิณฑ์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ รับเป็นเจ้าภาพคืนแรก พร้อมเคลียร์ข้อสงสัยต่างๆในสังคม ทั้งประเด็นว่าทำไมถึงวางร่างซันนี่ ยูโฟร์เอาไว้ใต้ตึกแบบร่างเปลือยเปล่า ทั้งเรื่องการอาบน้ำเย็นให้ ซันนี่ ยูโฟร์ อาจจะทำให้ช็อกหรือไม่ สำหรับประเด็นเรื่องน้ำเย็น ท็อป หรือ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ตอบชัดเจนเลยว่าไม่มีส่วนทำให้เสียชีวิต 
 

"บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" เคลียร์ปมสงสัย "ซันนี่ ยูโฟร์" น็อคไปเพราะน้ำเย็น

 

"บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" เคลียร์กระจ่างปมสงสัย ซันนี่ ยูโฟร์ น็อคไปเพราะน้ำเย็น โดยทั้งคู่ได้ตอบคำถามจากสื่อหลังรายการดัง โหนกระแส หนุ่ม กรรชัย ได้ตั้งคำถามว่าทำไมถึงได้นำร่างซันนี่ ยูโฟร์ ลงมาวางริมทาง โดยเหตุผลเพราะว่าตอนแรกที่ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือ 

ทางศูนย์ที่รับแจ้ง ขอความช่วยเหลือ เขาก็ส่งรถมา เมื่อเปิดห้องไปจึงพบว่ามีมูลสุนัขและกลิ่น ซึ่งไม่สามารถที่จะเข้าไปช่วยเหลือในห้องนั้นได้เพราะอากาศมันไม่โปรง เขาจึงอุ้มซันนี่มาล้างตัว และพาลงมาข้างล่าง เพื่อจะ CPR ให้อากาศโปร่ง แต่อยู่ๆ เขาก็น็อกหมดสติ

และหน่วยงานที่ 2 ได้รับแจ้งว่าเสียชีวิต จึงเข้ามา ซึ่งอันนี้คือขั้นตอน ตอนแรกก็ยังต่อว่าลูกน้องว่า คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะยกร่างเขาลงมา เพราะต้องรอตำรวจ เขาจึงบอกว่าตอนที่พบซันนี่ตอนแรกยังไม่เสียชีวิต ยังพูดคุยกันได้อยู่ แต่เขาบอกไม่ไหวแล้วเหมือนว่าเขาเหนื่อยและหายใจไม่ออก

ส่วนเรื่องที่มีคนตั้งข้อสงสัยว่า การที่ผู้ป่วยมีอาการโคม่าแบบนี้ เมื่อย้ายลงมามีสิ่งปฏิกูลเปรอะตัว เจ้าหน้าที่เอาน้ำไปล้าง ไปสระหัว ล้างตัว เป็นเหตุผลที่ทำให้คนป่วยช็อกหรือไม่ สาเหตุอาจเกิดจากน้ำเย็นหรือเปล่า 

 

"บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" เคลียร์ปมสงสัย "ซันนี่ ยูโฟร์" น็อคไปเพราะน้ำเย็น

 

เรื่องนี้ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ตอบว่า "น้ำเย็นไม่มีส่วนที่จะทำให้ซันนี่น็อก หรือว่าเสียชีวิต ผมว่าไม่มีส่วน คนที่เป็นไทรอยด์เป็นพิษระบบการเต้นของหัวใจมันไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ขั้นแรกเลยคือเขาต้องทำ CPR ก่อนที่จะไปส่งโรงพยาบาล ต้องทำก่อนจะไปถึง แต่ถ้าไม่ขี้นก็แสดงว่าเสียชีวิต ก็ต้องปล่อยร่างไว้ตรงนั้น คนที่มาเก็บก็คือร่วมกตัญญูที่จะเอาร่างมาส่งนิติเวช"
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline