วิลล์ สมิธ โพสต์คลิปล่าสุด ขอโทษ คริส ร็อก หลังเหตุการณ์ตบหน้าบนเวทีออสการ์

นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง "วิลล์ สมิธ" โพสต์คลิปล่าสุด ขอโทษ "คริส ร็อก" หลังเหตุการณ์ตบหน้าบนเวทีออสการ์ เมื่อ 4 เดือนก่อน

จากกรณีดราม่าระดับโลก เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 65 ที่ผ่านมา ที่นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังวัย 53 ปี อย่าง วิลล์ สมิธ ได้เดินขึ้นเวทีงานประกาศผลรางวัลออสการ์พร้อมกับใช้มือตบเพื่อนนักแสดงดาวตลก คริส ร็อก เพื่อนนักแสดงรุ่นพี่วัย 57 ปี หลังจากที่อีกฝ่ายได้พูดแซวเชิงล้อเลียนถึงภรรยาของนักแสดงชื่อดัง เจดา พิงเก็ตต์ สมิธ จนกลายเป็นข่าวที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์และโด่งดังไปทั่วโลก

 

วิลล์ สมิธ โพสต์คลิปล่าสุด ขอโทษ คริส ร็อก หลังเหตุการณ์ตบหน้าบนเวทีออสการ์

หลังจากที่ล่วงเลยมาถึง 4 เดือน ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 65 วิลล์ สมิธ ได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาวเกือบ 6 นาทีลงโซเชียลมีเดียของตนเอง กล่าวขอโทษไปยัง คริส ร็อก ต่อกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเจ้าตัวได้ตอบคำถามแฟนๆเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมทั้งขออภัยต่อ คริส ร็อก โดยตรงอีกครั้ง หลังจากเคยติดต่อขอเคลียร์ใจกันหลังเหตุการณ์แต่คู่กรณียังไม่พร้อมที่จะพูดคุยกัน 


ทั้งนี้ วิลล์ สมิธ บอกว่า "คริส ผมต้องขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น พฤติกรรมของผมเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับ และผมอยู่ที่นี่เสมอหากคุณต้องการจะคุยกันในเรื่องนี้" 

 

วิลล์ สมิธ โพสต์คลิปล่าสุด ขอโทษ คริส ร็อก หลังเหตุการณ์ตบหน้าบนเวทีออสการ์

วิลล์ สมิธ ยังระบุอีกว่า ในตอนนั้นตนเองไม่คิดว่าการกระทำดังกล่าวได้ทำให้คนอื่นๆ อีกหลายคนต้องเจ็บปวด จนกระทั่งมาสำนึกได้ภายหลัง วิลล์ สมิธ ยังได้กล่าวขอโทษแม่และพี่ชายของ คริส ร็อก ที่เป็นเพื่อนสนิทของเขา เจ้าตัวยังยอมรับว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาอาจกลับไปเป็นเหมือนเก่าไม่ได้อีก


นอกจากนี้ วิลล์ สมิธ ยังชี้แจงว่า ภรรยาของเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนให้แสดงพฤติกรรมดังกล่าวบนเวที ทุกอย่างเป็นเรื่องที่เขาคิดเองทำเอง เขาได้กล่าวขอโทษเธอและทุกคนที่ทำให้ผิดหวัง รวมถึงไม่สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับคนที่เคยมองเขาเป็นบุคคลต้นแบบได้

 

วิลล์ สมิธ โพสต์คลิปล่าสุด ขอโทษ คริส ร็อก หลังเหตุการณ์ตบหน้าบนเวทีออสการ์


ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น วิลล์ สมิธ ถูกสถาบันผู้จัดงานออสการ์แบนห้ามเข้าร่วมงานประกาศรางวัลออสการ์และอีเวนต์อื่นๆ ของสถาบันเป็นเวลา 10 ปี ขณะที่เจ้าตัวได้ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกของสถาบันนี้ตั้งแต่ก่อนจะทราบผลการตัดสินโทษ

 

ชมคลิปที่นี่

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline