เปิดหลักฐานในที่เกิดเหตุ จีจี้ เน็ตไอดอลเสียชีวิต พร้อมลูกชายอดีตบิ๊กทหาร

    กรณี "จีจี้ สุพิชชา"เน็ตไอดอลสาวคนดังเสียชีวิต โดยวันที่ 19 เม.ย.66 สน.มักกะสัน รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต 2ราย  เหตุเกิดที่คอนโดหรูแห่งหนึ่ง ใกล้แยกอโศก-เพชร ถนนเพชรบุรี แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. โดยทาง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1  พ.ต.อ.จรินทร์ ลำลึก ผกก.สน.มักกะสัน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานแพทย์เวรนิติเวช รพ.รามาธิบดีและอาสาสมัครฯ
 

    ที่เกิดเหตุพบเป็นที่พักคอนโดมิเนียมหรู สูง 41 ชั้น ที่ห้องพักเลขที่ 1678/78 ชั้น 14  ภายในห้องพัก พบผู้เสียชีวิต 2 ศพ ศพแรกเป็นชาย อายุ 21 ปี เป็นนักเรียนเตรียมทหาร  ลูกชายอดีตนายทหารยศใหญ่ (ผู้ช่วย ผบ.ทบ.)

   อีกศพเป็นหญิงทราบชื่อ น.ส.สุพิชชา ปรีดาเจริญ  หรือ "จีจี้ "เน็ตไอดอลชื่อดังอายุ20 ปี ทั้ง 2 ศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าศีรษะศพละ 1 นัด  ใกล้กันพบอาวุธปืนสั้น และปลอกกระสุนตกอยู่ 2 ปลอก

   ด้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. กล่าวว่า จีจี้ เนตไอดอลชื่อดัง ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง บริเวณแยกอโศก-เพชรบุรี ซึ่งตำรวจสน.มักกะสัน ได้รับแจ้งจากเพื่อนของผู้เสียชีวิต เมื่อช่วงบ่ายวันนี้(19เม.ย.66)

    ผบชน. ยืนยันว่า สภาพศพของผู้เสียชีวิต ถูกยิงที่บริเวณศีรษะ ใกล้กันพบศพฝ่ายชายที่เป็นนักเรียนเตรียมทหารอากาศ มีร่องรอยถูกยิงที่ศีรษะนอนเสียชีวิตอยู่ในห้องเดียวกัน พร้อมพบปืนแมกกาซีน ตกอยู่ในห้อง และปลอกกระสุน 2 นัด เจ้าหน้าที่ถึงได้เก็บไว้ตรวจสอบ และตรวจหาเขม่าดินปืนเพื่อพิสูจน์ว่า เป็นการกระทำของฝ่ายใด หรือบุคคลที่สาม 

   นอกจากนั้นได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ เพื่อพิสูจน์ข้อสงสัยให้ได้ว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องหรือไม่

• แต่เบื้องต้น จากการสอบถามกับเพื่อนผู้เสียชีวิตฝ่ายหญิง ทราบว่าติดต่อฝ่ายหญิงไม่ได้มาแล้ว 1 วัน จึงเดินทางมาตรวจสอบที่ห้องพัก ก่อนพบศพ ส่วนความสัมพันธ์ และความขัดแย้งของทั้งสองคนยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ 

    แต่สภาพในห้องที่เกิดเหตุมีเนื้อที่ไม่มากนัก และมีฉากกั้นห้อง ซึ่งเป็นห้องพักของฝ่ายหญิง ค่อนข้างเก็บเสียง ทำให้ช่วงเกิดเหตุไม่มีใครทราบ รวมทั้ง ผู้เสียชีวิตทั้งสองราย เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 วัน หลังจากนี้จะต้องนำศพส่งชันสูตรเพิ่มเติมที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจต่อไป