- 21 ต.ค. 2568
"ปุ้ย นิรัชญา" ผู้ประกาศข่าวสาว ช่องดัง ผวา ถูกชายปริศนาบุกคุกคาม ประชิดตัว สืบพบแอบสะกดรอยตามมาตั้งแต่ปี 2567
เมื่อวันที่ 21 ต.ค.68 นางสาว นิรัชญา หมอนทอง หรือ ปุ้ย ผู้ประกาศข่าวช่อง TNN24 ได้โพสต์เรื่องราวในเฟซบุ๊กส่วนตัว ถูกสะกดรอยตาม และคุกคามโดยชายชุดดำในคราบพนักงานขนส่ง เป็นเวลานานนับปี แต่ไม่รู้ตัว กระทั่งล่าสุดวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ชายรายดังกล่าวได้บุกประชิดตัวเธอ ขณะกำลังเลือกซื้อน้ำอัดลม จึงรีบไปแจ้งความ และหาหลักฐานเพิ่ม จนทราบความจริงว่าชายรายนี้ ดักรอเจอเธอตั้งแต่ที่ทำงาน ขี่รถจักรยานยนต์ตามมา ไปจนถึงซุ่มดูอยู่หน้าคอนโดฯ มาโดยตลอด ซึ่งเธอเล่าไว้อย่างละเอียดดังนี้
จุดเริ่มต้นจากร้านสะดวกซื้อ ลาดพร้าว 42/1
- วันที่ 15 ตุลาคม เวลา 00.37 น. ปุ้ยเลือกซื้อน้ำอัดลม และกำลังหันไปที่ตู้น้ำแข็ง ซึ่งอยู่มุมในสุดของร้านสะดวกซื้อ
- มีผู้ชายหัวโล้นชุดดำ เดินมาประชิดด้านหลัง ทางขวามือ และพูดว่า “พี่ ผมอยาก…กับพี่”
- ปุ้ยตกใจ รีบเดินไปบอก ชายหญิงที่มาซื้อของ และพนักงาน ที่อยู่ใกล้ที่สุด ว่าถูกคุกคาม เพื่อให้มีคนช่วยจับตา
- ชายหัวโล้นชุดดำในที่เกิดเหตุ ทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทิ้งระยะห่าง ไม่เข้ามาใกล้ปุ้ยอีก
- แต่พอเห็นว่าปุ้ยจ่ายเงินเสร็จ ชายหัวโล้นชุดดำ ก็รีบวิ่งไปที่รถมอเตอร์ไซค์ สตาร์ตรถรอ ไม่ออกรถ และไม่ได้เข้ามาเพื่อซื้ออะไร
- พนักงาน และพลเมืองดี รวม 3 คน เดินออกมาส่งปุ้ยที่รถ จนปุ้ยขับออกมาจากลานจอดรถร้านสะดวกซื้อ
- ปุ้ยขับรถออกมาเร็วมาก แต่สังเกตว่ามีมอเตอร์ไซค์ เร่งตามหลังออกมาติดๆ ก่อนที่ปุ้ยจะตัดสินใจ เลี้ยวเข้าคอนโดแห่งหนึ่ง ด้วยความตกใจ
ไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า แต่คือการสะกดรอยตาม
- หลังตั้งสติ ในคืนนั้น ปุ้ยได้โทรหาน้องที่ทำงาน ที่กลับบ้านทางเดียวกัน ถามว่าระหว่างทาง เห็นใครตาม หรือมีอะไรผิดปกติรึเปล่า
- เวลา 01.47 น. น้องได้ส่งคลิปกล้องหน้ารถมาให้ หลักฐานจากกล้อง ชัดเจนว่า ชายหัวโล้นชุดดำ ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และมีลังส่งของแอปหนึ่ง ไม่ได้เพิ่งบังเอิญเจอปุ้ย แต่สะกดรอยตามปุ้ยมา จากแถวที่ทำงาน (ตามภาพคือเส้นเอกมัย)
หาพยานหลักฐานเพิ่ม เพื่อนำไปแจ้งความ
- ช่วงมาทำงาน ปุ้ยได้มาเซฟไฟล์คลิปกล้องหน้ารถ กล้องวงจรปิด เพื่อจะนำไปให้ตำรวจดู เป็นหลักฐานประกอบการแจ้งความ
- ปุ้ยไปที่ร้านสะดวกซื้อจุดเกิดเหตุ หลังเลิกงาน แต่ได้รับแจ้งว่า ไม่สามารถให้ดูกล้องได้ ต้องรอผู้จัดการร้านมาในตอนเช้า และต้องมีใบแจ้งความมาเท่านั้น (ซึ่งเข้าใจได้)
- ปุ้ยไปที่ สน.สุทธิสาร ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่เกิดเหตุ และเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดี
- ว่าที่พันตำรวจตรี ที่รับแจ้งความ ได้บอกปุ้ยว่า เดี๋ยวสายสืบจะทำงาน จะตามไล่เก็บภาพ หลักฐานจากกล้องวงจรปิด และติดตามคดีให้ พรุ่งนี้จะโทรแจ้งความคืบหน้า
กลับไปที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อตามเรื่องเอง
- 16 ตุลาคม เวลาประมาณ 15.30 น. ตัดสินใจไปที่เกิดเหตุ เพราะไม่มีสายจากตำรวจตลอดทั้งวัน
- เมื่อไปถึงร้านสะดวกซื้อ พบ ผจก.สาขา จึงได้แจ้งว่ามาขอดูกล้อง เนื่องจากถูกคุกคาม พร้อมเอาใบแจ้งความให้
- แต่ได้รับแจ้งว่า ให้ดูไม่ได้ ถ้าไม่มีตำรวจมาด้วย
- 15.43 น. ปุ้ยโทรไปที่ สน.สุทธิสาร เพื่อขอตำรวจให้มาดำเนินการ และตำรวจมาค่ะ เป็นตำรวจสายตรวจ
- แต่เมื่อตำรวจมาถึง ผจก.สาขา ได้แจ้งว่า ให้ดูภาพ แต่นำกลับ หรือบันทึกไม่ได้ แม้จะเป็นผู้เสียหายก็ตาม ต้องให้ตำรวจสายสืบมา และต้องมีคำร้องขอนำภาพออกไปเท่านั้น (แต่ห้ามเผยแพร่เพราะเป็นกฎ)
- ในเย็นวันเดียวกัน ที่ปุ้ยได้โพสต์ข้อความหน้า Facebook ว่าถูกคุกคาม หลายคนคงได้เห็น
17 ตุลาคม คุกคามต่อเนื่อง ท้าทายกฎหมาย
- เวลาประมาณ 00.40 หลังเลิกงาน เส้นทางเดิม ครั้งนี้ ชายหัวโล้นชุดดำ มาดักรอที่หน้าคอนโด ที่ปุ้ยเลี้ยวเข้าในวันแรกที่ถูกคุกคาม แต่ครั้งนี้ปุ้ยเห็นชัดเจน
- ปุ้ยขับรถตรงไปติดไฟแดง ที่แยกรัชดา-ลาดพร้าว และผู้ก่อเหตุตาม ในตำแหน่งเดิม คือจอดท้ายรถปุ้ยด้านซ้าย
- ปุ้ยตัดสินใจ เลี้ยวไปหาตำรวจ ที่ สน.สุทธิสาร ทันที และแจ้งว่า ถูกคุกคาม ตามดักโดยชายคนเดิมอีก !!!
- ตำรวจนายที่รับแจ้งความ รับปากอีกครั้ง ว่าเดี๋ยวจะส่งชุดสืบสวนติดตามเรื่องให้
- จบค่ำคืนนั้น ด้วยการที่ตำรวจ 2 นาย ขับตามมาส่งปุ้ย
กล้องวงจรปิด เห็นพฤติการณ์ทุกอย่าง
- ช่วงสายของวันที่ 17 ตุลาคม สายสืบเริ่มทำงาน ไปขอภาพกล้องวงจรปิด จากร้านสะดวกซื้อ และเชิญปุ้ยไปดูที่ สน.สุทธิสาร (แต่ห้ามเผยแพร่เด็ดขาด)
- เมื่อไล่เรียงจากหลักฐาน จะเห็นพฤติการณ์ การคุกคามที่ชัดเจนมาก (ซึ่งหลักฐานอยู่ในมือตำรวจทั้งหมดแล้ว)
มีพยานหลักฐานการตาม ดักซุ่มดูปุ้ยมาเป็นปี
- หลังจากปุ้ยโพสต์ลงใน Facebook เพื่อน พี่ น้อง ที่ทำงาน ก็เริ่มส่งหลักฐานมาให้ และยืนยันว่า คือ คนคนเดียวกับที่มาดักปุ้ย ตั้งแต่ปี 2567
- ช่วงนั้นที่ยังไม่แจ้งความ เพราะยังไม่เคยถูกคุกคามประชิดตัว อย่างที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ (และที่ทำงาน ตั้งอยู่ในสถานที่เปิด เราจึงไม่สามารถไปทำอะไรได้ เพียงเพราะคนเดินตาม และทิ้งระยะห่าง)
- แต่มีเหตุการณ์ที่ทำให้รู้ว่าไม่ปกติแล้ว นั่นคือปุ้ยนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ด้านหน้าสถานี แล้วจู่ๆ ชายคนนี้ ก็เดินมานั่งตรงข้าม และจ้องหน้าปุ้ย ซึ่งปุ้ยได้ลุกเดินหนีทันที
- หลังจากนั้น เวลาปุ้ยมาทำงาน จะเห็นชายหัวโล้นคนเดิม ทำทีเป็นนั่งตรงทางที่ปุ้ยต้องผ่าน จากลานจอดรถ ไปที่สถานี จนปุ้ยเริ่มสังเกตได้ว่า นี่คือการดักรอ
- พอปุ้ยสังเกตว่า คนเดิม ทำแบบเดิม ๆ จนไม่ใช่เรื่องปกติ ปุ้ยได้แจ้ง รปภ. ฝ่ายอาคาร และทีมงานให้ช่วยสังเกตพฤติกรรม
- ปุ้ยลองเปลี่ยนที่จอดรถ เปลี่ยนเส้นทางเดินขึ้นสถานี เพื่อเลี่ยงการเดินผ่านชายคนนี้ (เพราะคิดในแง่ดี ว่าบางทีคิดว่าเค้าอาจไม่ได้ตามเรา เค้าอาจแค่มารอส่งของ)
- แต่…ก็ชัดเจนว่าดัก ตามปุ้ย เพราะมีพยาน หลักฐาน ทั้งจาก รปภ. ทีมงาน ว่าชายหัวโล้นคนเดิม บางครั้งโพกหัว บางครั้งไม่โพก ก็จะเปลี่ยนจุดมาดักรอ เพื่อให้เห็นปุ้ย ตามทางต่างๆ ที่จะขึ้นมาทำงานได้
- ปุ้ยเองระวังตัว และเพื่อน พี่ น้องที่ทำงานดูแลปุ้ยดีมาก ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่มีโอกาสมาใกล้ปุ้ยได้ ก่อนที่จะหายไปจากบริเวณที่ทำงาน … จนกระทั่งโผล่มาก่อเหตุล่าสุด ด้วยการสะกดรอยตาม คุกคามระยะประชิด ในวันที่ 15 ตุลาคม 2568
เรื่องนี้กระทบกับสภาพจิตใจของปุ้ยมาก การถูกคุกคาม ถูกสะกดรอยตาม ทำให้ปุ้ยรู้สึกไม่ปลอดภัยในการใช้ชีวิต แต่ปุ้ยก็ได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่างที่ควรจะทำ เพื่อปกป้อง ดูแลความปลอดภัยให้ตัวเองแล้ว หลังจากนี้ คงต้องให้เวลาตำรวจได้ทำงาน และได้แต่หวังว่าคดีจะมีความคืบหน้าค่ะ
ขณะเดียวกัน เพจ โบโบ กวนจีน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของผู้ประกาศข่าว ก็ได้แชร์โพสต์ดังกล่าวและระบุว่า เพื่อนโบโบ โดนสะกดรอยตาม ไปที่ทำงาน และขับรถตามมาเป็นปี และเริ่มมีการคุกคามแล้ว หากใครพบเห็นเบาะแส หรือมีคำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินคดี รบกวนหน่อยนะคะ เพื่อนคือผู้ประกาศข่าวช่อง TNN24 คุณนิรัชญา หมอนทอง (หากเจอเพื่อนโบโบฝากมองรอบๆ ให้หน่อยนะคะว่ามีคนสะกดรอยตามหรือเปล่าค่า ขอบคุณนะคะ)
ที่มา FB : นิรัชญา หมอนทอง






