- 04 พ.ย. 2568
สรุปดราม่าร้อนจากรายการโหนกระแส ภรรยาหลวงครูติ๊ก แฉหมดเปลือก ถูกสามีหลอกให้เซ็นหย่า เพราะ "นางงามมีมงจังหวัด"
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 เพจดังสายสรุปอย่าง “อรรถรส” โพสต์สรุปดราม่าร้อนจากรายการ โหนกระแส กรณีของครูติ๊กภรรยาหลวง ที่ออกมาเปิดใจทั้งน้ำตา หลังจับได้ว่าสามีมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ "นางงามเวทีจังหวัด" ถึงขั้นหลอกให้เซ็นหย่า ใดๆ ล่าสุดทางกองประกวดปลดนางงามเป็นทีเรียบร้อยแล้วจ้า
ช่วงเริ่มต้นความสัมพันธ์
- ภรรยาหลวงชื่อ “คุณติ๊ก” ออกมาเล่าเรื่องราวชีวิตหลังถูกสามีที่แต่งงานจดทะเบียนสมรสมาแล้ว 3 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน
- ได้นอกใจไปมีสัมพันธ์กับ “นางงามเวทีจังหวัดหนึ่ง”
- คุณติ๊กเล่าว่าเธอและสามีแต่งงานเดือนพฤศจิกายนปี 64 และมีลูกคนแรกเดือนตุลา 65 และจดทะเบียนสมรสหลังคลอดลูกคนแรก
- เธอเคยเป็นครูอนุบาลมาก่อน แต่ลาออกหลังแต่งงานเพื่อมาช่วยสามีทำธุรกิจรับซื้อมะพร้าวน้ำหอม และดูแลบ้าน ลูก และกิจการ
- ช่วงแรกของชีวิตคู่ดูอบอุ่นมาก สามีเป็นคนดูแลดี ทำกับข้าวให้ ทุ่มเทกับลูก
ความสัมพันธ์เริ่มเปลี่ยน เมื่อน้องนางงามเข้ามา
- ความสัมพันธ์เริ่มเปลี่ยนไปในเดือนธันวาคม 66 เมื่อมีงานเลี้ยงวันเกิดของลูกน้องที่บ้าน มีการจ้าง “น้องชงเหล้า” มาร่วมงาน หนึ่งในนั้นคือนางงาม
- ในงานเลี้ยงคุณติ๊ก เห็นสามีกับหญิงคนนั้นเดินขึ้นรถไปด้วยกัน แม้รถยังจอดอยู่ในพื้นที่บ้าน
- เมื่อเธอเดินออกไปดู ก็เจอสามีเดินออกมาจากรถพอดี ทำให้เริ่มสงสัยว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันตั้งแต่นั้นมา
- คุณติ๊กพยายามโทรหา 4–5 สายแต่สามีไม่รับ ทำให้เริ่มเอะใจและเดินออกไปดู
- เมื่อออกไปถึงหน้าบ้าน เห็นสามีเดินออกมาจากรถฝั่งคนนั่ง ซึ่งเป็นรถของผู้หญิงฝ่ายนั้น เธอเห็นเหตุการณ์ตลอดจากหน้าห้อง ระยะห่างประมาณ 200 เมตร
- คุณติ๊กพยายามถามว่านี่มันเรื่องอะไร สามีอ้างว่า “ไปเคลียร์ค่าตัวเด็กที่จ้างมาชงเหล้า” และยืนยันว่าไม่มีอะไร
- แต่คุณติ๊กมั่นใจว่ามันไม่ปกติ จึงคว้าโทรศัพท์ของสามีมาดูแต่ยังไม่พบหลักฐานในตอนนั้น แม้จะพยายามปล่อยผ่านเพื่อไม่ให้กระทบลูกเล็ก แต่ความสงสัยยังค้างอยู่ในใจ
- นอกจากนี้ คนในพื้นที่ยืนยันเพิ่มเติมว่าเด็กชงเหล้าคนนี้เคยมารับงานที่บ้านมะพร้าวบ่อย ก่อนที่สามีจะแต่งงานกับคุณติ๊กเสียอีก
จากเหตุการณ์ชง และในรถวันนั้น ลามไปสู่การค้ำรถให้กัน
- หลังจากเหตุการณ์ในงานวันเกิด คุณติ๊กยังใช้ชีวิตครอบครัวปกติ จนถึงช่วง กุมภาพันธ์ 2567 ที่เริ่มเห็นความผิดปกติอีกครั้ง
- เธอสังเกตว่าสามีมีการแชทกับหญิงสาวคนเดิม พอถาม ก็ได้รับคำตอบว่า “คุยเรื่องซื้อมะพร้าว”
- โดยอ้างว่าฝ่ายหญิงมีสามีทำสวนมะพร้าว จึงเป็นการคุยธุรกิจเท่านั้น
- จากนั้นมีคนงานในโรงมะพร้าวเริ่มกระซิบว่า น้องคนนี้ออกไปทำงานมะพร้าวกับสามีของเธอด้วย
- คุณติ๊กไม่โวยวาย เก็บข้อมูลไว้เพื่อรอหลักฐานให้ชัดที่สุด จนวันหนึ่งมีเอกสารธนาคารส่งมาที่บ้าน
- ในเอกสารนั้นคือ สัญญาค้ำประกันรถยนต์ราคา 6 แสนกว่าบาท ชื่อผู้ซื้อคือน้องคนนั้น และคนค้ำคือตัวสามีของคุณติ๊ก
- ทั้งที่ในฐานะคู่สมรส เธอต้องเป็นผู้ลงนามยินยอม แต่กลับไม่มีลายเซ็นของเธอในเอกสารเลย
- ตอนแรกสามีโกหกว่าเป็นการค้ำรถให้ “แฟนของเพื่อน” แต่คุณติ๊กไม่เชื่อ เลยเอาชื่อในเอกสารไปค้น พบว่าเป็นชื่อเดียวกับหญิงคนนั้น
มีการเจอแชท ในเชิง18+ และสามีมาหลอกให้หย่า
- ต่อมาคุณติ๊กเจอข้อความแชทที่มีลักษณะ 18+ ชัดเจน ทั้งคำพูดเชิงล่วงเกินและแสดงความสัมพันธ์ทางเพศ
- ทำให้ภรรยาหลวงมั่นใจเต็มร้อยว่า ทั้งคู่เป็นชู้กันแน่นอน ไม่ใช่เพียงคุยเรื่องงาน
- ขณะเดียวกัน มีเหตุการณ์ที่คุณติ๊กเผยว่า “วันคลอดลูกคนที่ 2” สามีกลับไม่อยู่ดูหน้าเด็ก เพราะไปกับหญิงคนนั้น เธอจึงเริ่มรู้ว่าผู้ชายเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
- หลังจากนั้นไม่นาน สามีอ้างว่าต้อง “หย่ากันเพื่อเหตุผลทางธุรกิจ” โดยบอกว่าจะทำให้ทรัพย์สินและภาระหนี้ไม่กระทบลูก ๆ
- คุณติ๊กใจอ่อนเชื่อคำพูด จึงยอมเซ็นใบหย่าโดยไม่รู้ว่าถูกหลอก และเมื่อหย่าเสร็จ ฝ่ายหญิงก็เข้ามาในชีวิตสามีอย่างเปิดเผย
ทางฝั่ง ดาว นางงาม โฟนอินเข้ามาในรายการ โดยสรุปได้ประมาณว่า
- ยอมรับว่าเธอคือคนในเหตุการณ์จริง แต่ยืนยันว่า “วันนั้นไม่มีอะไรเกินเลยในรถ”
- เธออธิบายว่าเป็นเพียงตอนที่ชายฝ่ายสามีแอบเอาทิป 500 บาทมาให้ โดยบอกว่ามีเพื่อนมาด้วย ไม่ได้อยู่กันสองต่อสอง
- เธอยืนยันว่ามี “เพื่อนผู้ชาย” มานั่งเบาะหลังในรถด้วย ขณะตัวเองนั่งเบาะหน้า และสามีของคุณติ๊กมานั่งข้าง ๆ เท่านั้น
- อย่างไรก็ตาม เมื่อพี่หมวยถามย้ำว่า “ตกลงคบกันไหม” เธอตอบว่า “เคยคุยกัน เคยคบหากันมาก่อน ตั้งแต่ก่อนแต่งงานกับครูติ๊ก”
- และยอมรับว่า “ช่วงแรกเคยมีอะไรกัน” แต่ภายหลังยืนยันว่า “ตอนหลังไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศแล้ว”
- คุณติ๊กโต้กลับทันทีว่า “น้องเคยยอมรับกับหนูเองว่าเคยมีอะไรกันช่วงแรก หลังหนูแต่งเข้าบ้านแล้ว” ซึ่งคุณดาวก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพียงยืนยันว่า “หลังจากนั้นไม่ได้มีอะไรอีก”
- เธอยอมรับอีกว่า หลังเหตุการณ์ในเดือนธันวาคม 2566 ทั้งคู่ยังได้ “กลับมาทำงานร่วมกัน” เนื่องจากฝ่ายชายเป็นคนตามตื้อ ชวนให้มาช่วยงาน
- เธอปฏิเสธว่าไม่มีเพศสัมพันธ์ และยืนยันว่าข้อความแชทเชิง 18+ ที่ภรรยาหลวงนำมาเปิด เป็นเพียง “การพูดเล่น ปากไม่ดี” เพราะเธอเป็นคนติดพูดหยาบ และอยากไปทำงานกับเขา เลยพูดแนวแบบนั้น
ประเด็นเรื่องเงิน 200,000 บาท
- คุณดาวยอมรับว่าเธอโอนเงินให้ภรรยาหลวงจริง โดยบอกว่า “อยากแสดงความรับผิดชอบและสำนึกผิด”
- แต่ภรรยาหลวงโต้ว่า “เงิน 200,000 นี้คือค่าด่าลูกของตน” พร้อมโชว์ข้อความที่คุณดาวพิมพ์ว่า “ขอโทษครูติ๊กและลูก ๆ”
- ทางคุณติ๊กบอกว่า ทางคุณดาว “พูดถึงลูกตนด้วยถ้อยคำหยาบ” โดยเฉพาะ “ลูกคนเล็ก”
- แต่คุณดาวยืนยันว่าไม่ได้พูดจาดูหมิ่นเด็ก แต่พูดถึงเด็กที่หมายถึง น้อยของทางสามีคุณติ๊ก
ประเด็นเรื่องสถานะความสัมพันธ์
- ทางพี่หมวยถามตรง ๆ ว่า “ยังคบหากับสามีคนนี้อยู่หรือไม่” คุณดาวตอบว่า “ไม่ค่ะ แต่ยังทำมะพร้าวอยู่
- นอกจากนี้ ดาวยังเล่าว่า “ตอนนั้นผู้ชายมาปรับทุกข์ บอกว่าหย่ากับภรรยาแล้ว ออกมาแต่ตัว” และดาวก็ยืนยันว่า “หนูเองก็มีแฟนแล้ว” แค่รับฟังปัญหาเฉย ๆ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกัน
- พี่หมวยเลยตั้งคำถาม ว่า “ถ้าไม่มีอะไร ทำไมสามีถึงต้องไปค้ำประกันรถให้?”
- คุณดาวตอบว่า ตอนนั้นเธอเพิ่งเริ่มทำมะพร้าว และต้องมีรถใช้ขนของ ผู้ชายจึงเสนอจะช่วยค้ำให้ เพราะครอบครัวเธอไม่สามารถทำเรื่องธนาคารได้
- ทางคุณแตงโม (หลานสามี) สวนทันทีว่า “ถ้าไม่มีเงิน ทำไมให้คนอื่นยืมได้เป็นล้าน แต่รถคันเดียวต้องให้พี่ฉันค้ำ?”
- คุณดาวตอบว่า “ตอนนั้นหนูไม่ได้มีเงินเยอะ และที่บ้านช่วยไม่ได้”
ประเด็นส่วนสาเหตุที่สามีอ้างว่าตัดขาดนางงามไม่ขาด
- สาเหตุที่สามีอ้างว่า “ตัดขาดจากนางงามไม่ได้” เพราะบอกกับเธอว่า “เป็นหนี้นางงาม 2-3 ล้านบาท” ทำให้ต้องติดต่อกันอยู่ตลอด
- ด้านคุณดาวรีบปฏิเสธทันทีว่า “ไม่เคยให้ยืม 2-3 ล้าน” และยืนยันว่าไม่เคยพูดเช่นนั้น
- ฝ่ายคุณติ๊กตอบกลับว่า “คำนี้มาจากปากสามีเองที่บอกกับครอบครัวว่าเป็นหนี้ผู้หญิงคนนี้” ซึ่งเธอเชื่อว่าเป็นข้ออ้างเพื่อปกปิดความสัมพันธ์
ต่อมาในรายการมีการโต้เถียงกันระหว่างคุณแตงโมที่เป็นหลานสามี กับทางคุณดาว
- คุณแตงโมถามว่า “ถ้าแฟนเธอก็ทำมะพร้าวเหมือนกัน แล้วจะมาศึกษาอะไรกับทางนี้
- ฝ่ายคุณดาวตอบว่า “แฟนหนูมีสวน แต่ไม่มีความรู้ด้านการค้าส่ง จึงมาศึกษาการขาย”
- คุณดาวชี้แจงว่า “เพิ่งเริ่มทำมะพร้าวหลังคบแฟนได้ไม่นาน” และย้ำว่า “ไม่ได้แย่งใคร”
- เธออธิบายเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันยังขายมะพร้าวในพื้นที่ของตนเองกว่า 200 ไร่ และให้ฝ่ายชายมาตัดมะพร้าวไปขาย โดยแบ่งผลกำไร แต่ยืนยันว่า “ไม่ได้ยุ่งส่วนตัวอีกต่อไป”
- คุณติ๊กยืนยันว่า หลังหย่า เธอยังอยู่กินกับสามีเหมือนเดิม และรู้มาตลอดว่าสามีกับนางงามยังติดต่อและมีความสัมพันธ์กันแบบ “ผัวเมียแอบ ๆ”
- ช่วงสุดท้าย คุณติ๊กถามตรงว่า “ถ้าไม่มีความสัมพันธ์ ทำไมเคยขู่ว่าลูกตายแล้วจะเรียกเงิน 2 ล้าน?” ซึ่งคุณดาวปฏิเสธทันทีว่า “ไม่เคยเรียก”
- คุณดาวอธิบายว่า “ข้อความนั้นไม่เกี่ยวกับสามีคุณติ๊ก แต่เป็นเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับลูกของตนเองที่เสียชีวิต”
- และยืนยันว่า “ไม่เคยขู่เงิน” พร้อมปฏิเสธว่าตนไม่ใช่เมียน้อย เพราะ “เคยรู้จักกับผู้ชายก่อนคุณติ๊ก”
- อย่างไรก็ตาม ฝั่งคุณติ๊กเปิดแชทอีกชุดที่ฝ่ายหญิงถามสามีว่า “หาตังให้เมียอยู่ เมียคนไหน?” และสามีตอบ “เมียคนเล็ก” และมีต่อท้ายว่า "มาจดทะเบียนสมรสกัน" แต่หลังจากนั้นสายคุณดาวก็หลุดไป
- ช่วงปิดรายการ คุณติ๊กพูดทั้งน้ำตาว่า “ที่ผ่านมาไม่เคยตั้งใจจะแฉใคร แต่ทนไม่ไหวที่ลูกถูกด่าด้วยคำหยาบ และถูกหลอกให้เซ็นหย่า”
- เธอเผยว่าเคยพยายามประคับประคองความสัมพันธ์ แต่ทางสามีก็ยังไม่จบกับทางนางงาม ไม่พอ จากเงินที่เขาส่งเลี้ยงดูลูก ก็เริ่มไม่มี
- เธอพยายามออกมาพูดเรื่องนี้หลายครั้ง แต่มันไม่ดัง จนทางฝั่งคู่กรณีมีชื่อเสียงเลยเป็นกระแส
- ส่วนเรื่องสามี เธอต่อว่าสามีอยู่แล้ว ไม่ได้บอกว่า สามีตนเป็นคนดี
ครูติ๊กทิ้งท้ายว่า
“ไม่ได้ต้องการเงิน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฟ้องได้หรือไม่ หนูแค่อยากให้สังคมเห็นความจริง ว่าผู้หญิงแบบนี้ไม่ควรเป็นแบบอย่างให้เด็ก”
ทางด้านทนายแก้วอธิบายข้อกฎหมายว่า
"แม้คุณติ๊กจะเซ็นใบหย่าไปแล้ว แต่หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นการหย่าที่เกิดขึ้นเพื่อหลอกลวง ก็ยังถือว่า “ยังเป็นผัวเมียกันตามกฎหมาย” และภรรยาหลวงยังสามารถ “ฟ้องชู้” ได้ภายใน 1 ปี นับจากวันที่รู้เรื่อง
ล่าสุดทางกองได้สั่งปลดนางงามแล้ว แต่ว่างานนี้อย่าไปว่า ไปด่ากองนะคะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับทางกองประกวด เป็นเรื่องของผู้ประกวดล้วนๆ และเชื่อว่าจากนี้ ทางกอง ก็จะพิจารณาเรื่องคุณสมบัติ ผู้ประกวดมากขึ้น
ขอบคุณ อรรถรส






