เปิดทรัพย์สิน "นานา ไรบีนา" ถูกยึด พบของน่าสนใจหลายรายการ

เปิดรายการทรัพย์สิน "นานา ไรบีนา" ที่ถูกยึดหลังโดนจับ คดีหลอกเพื่อนสนิทลงทุนเสียหาย 190 ล้าน พบว่ามีหลายรายการที่น่าสนใจ

คืบหน้าล่าสุดกรณีกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันจับกุม นางไรบีนา (นานา ไรบีนา) อายุ 44 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 7195/2568 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ฐานความผิด “ฉ้อโกงทรัพย์ และกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”

 

เปิดทรัพย์สิน นานา ไรบีนา ถูกยึดหลังโดนรวบ น่าสนใจหลายรายการ
 

เปิดทรัพย์สิน นานา ไรบีนา ถูกยึดหลังโดนรวบ น่าสนใจหลายรายการ

 

พฤติการณ์ เนื่องด้วยมีผู้เสียหาย จำนวน 17 ราย ได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กรณีเมื่อประมาณปีเดือน ต.ค. 2565 ได้ถูกดาราสาวชื่อดัง ชักชวนให้ร่วมลงทุนในธุรกิจต่างๆ ได้แก่

1. ธุรกิจปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล เสนอผลตอบแทนสูงร้อยละ 4-7 ต่อเดือน

2. ลงทุนเทรดหุ้นกับผู้มีชื่อเสียงในวงการเทรดหุ้น

3. ลงทุนขายหุ้นในธุรกิจกีฬาบาสเก็ตบอล, ร้านอาหารต่างประเทศ และบริษัทต่างๆ ของตน

4. ลงทุนในกองทุนเครือธุรกิจครอบครัวรายใหญ่

ซึ่งผู้ต้องหาได้ชักชวนกลุ่มเพื่อนสนิท, บุคคลใกล้ชิด และกลุ่มผู้ปกครองในโรงเรียนนานาชาติ โดยอาศัยความเชื่อใจและความน่าเชื่อถือของตน ประกอบกับมีการแอบอ้างผู้มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ ทำให้กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินร่วมลงทุนกับผู้ต้องหา ซึ่งในระยะแรกผู้เสียหายบางรายได้รับผลตอบแทนตามที่เสนอจริง ประกอบกับผู้ต้องหาได้นำหลักฐานการโอนเงินปลอมและเอกสารการโอนหุ้นปลอมมาแสดงต่อผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายเกิดความเชื่อมั่นและหลงเชื่อลงทุนกับผู้ต้องหาเรื่อยมา
 

เปิดทรัพย์สิน นานา ไรบีนา ถูกยึดหลังโดนรวบ น่าสนใจหลายรายการ

 

ต่อมาเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ผู้ต้องหาเริ่มไม่จ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เสียหาย โดยอ้างว่าบัญชีเงินถูกหน่วยงานของรัฐระงับการทำธุรกรรม จึงไม่สามารถดำเนินการจ่ายคืนเงินลงทุนและปันผลการลงทุนได้ เมื่อถูกทวงถาม ก็ได้ออกเช็คเงินสดเพื่อจะชำระเงินลงทุนและเงินปันผลคืนให้กับผู้เสียหาย โดยเมื่อนำเช็คเงินสดไปเรียกเก็บกับธนาคาร กลับถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คเนื่องจากไม่มีเงินในบัญชี และภายหลังได้ทราบว่าบุคคลมีชื่อเสียงที่ถูกผู้ต้องหากล่าวอ้างนั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนที่ผู้ต้องหาชักชวนแต่อย่างใด ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายรวมกว่า 190 ล้านบาท

 

เปิดทรัพย์สิน นานา ไรบีนา ถูกยึดหลังโดนรวบ น่าสนใจหลายรายการ

 

จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า นอกจากพฤติการณ์ในการชักชวนระดมทุนแล้ว ผู้ต้องหายังมีการปลอมหลักฐานสลิปการโอนเงิน ปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้นบริษัทร้านตัดผมชื่อดัง ซึ่งผู้ต้องหาเป็นเจ้าของอยู่ และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าผู้ต้องหาไม่ได้มีการนำเงินไปลงทุนในธุรกิจต่างๆ ตามที่กล่าวอ้าง โดยผู้ต้องหามีการทำธุรกรรมเบิกถอนเงินสดที่ธนาคารเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการนำเงินลงทุนที่ได้รับมาไปหมุนเวียนจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนรายอื่น ซึ่งลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานและยื่นคำร้องต่อศาลขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาไว้

 

เปิดทรัพย์สิน นานา ไรบีนา ถูกยึดหลังโดนรวบ น่าสนใจหลายรายการ

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหาในหมู่บ้านหรู ซอยเอกมัย เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร และสามารถจับกุมนางไรบีนาฯ บุคคลตามหมายจับได้ พร้อมทั้งได้ตรวจยึดพยานเอกสารและพยานวัตถุ ที่น่าสนใจดังนี้

รายการตรวจยึดที่น่าสนใจ

1. โทรศัพท์ iPhone 7 เครื่อง

2. art toy Bearbrick และอื่นๆ 11 กล่อง

3. Ledger-Nano-X (hardware wallet) 1 ชิ้น

4. กระเป๋า Hermes Birkin 1 ใบ

5. กระเป๋าหิ้ว Louis Vuitton 1 ใบ

6. จิวเวลรี่ แบรนด์ต่างๆ ประมาณ 50 ชิ้น

7. รถยนต์ Mini Cooper รุ่น Aceman สีขาว 1 คัน

นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบการถือครองอสังหาริมทรัพย์ โฉนดที่ดิน จ.อ่างทอง จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 64 ตร.วา จ.อ่างทอง และโฉนดที่ดิน กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 87.9 ตร.วา ซึ่งจะได้ดำเนินการตรวจสอบการได้มา และได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมสิ่งของตรวจยึด นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

เปิดทรัพย์สิน นานา ไรบีนา ถูกยึดหลังโดนรวบ น่าสนใจหลายรายการ

 

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน โปรดใช้ความระมัดระวังในการร่วมลงทุนหรือปล่อยสินเชื่อกับบุคคลใดๆ ที่อ้างผลตอบแทนสูงเกินจริง และใช้ความน่าเชื่อถือเป็นเครื่องมือชักชวน โดยอาจมีการแอบอ้างธุรกิจ การลงทุน หรือบุคคลมีชื่อเสียงสร้างความน่าเชื่อถือ หากพบการเชิญชวนในลักษณะดังกล่าว ควรตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน และระมัดระวังมิจฉาชีพที่อ้างลงทุนในธุรกิจต่างๆ พร้อมเสนอผลตอบแทนสูงรายเดือน หรืออ้างการลงทุนร่วมกับผู้ประกอบการและบุคคลที่มีชื่อเสียง เพื่อหลอกลวงให้โอนเงินร่วมลงทุน ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน