"นานา ไรบีนา" ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา ฐานความผิด "ฉ้อโกงทรัพย์" ฉ้อโกงประชาชน 190ล้านบาท คาดเตรียมฝากขังเช้าพรุ่งนี้

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) บุกจับ "นานา ไรบีนา" ดาราสาวชื่อดัง หลังหลอกลวงกลุ่มเพื่อนสนิทและบุคคลใกล้ชิดให้ร่วมลงทุนในธุรกิจต่างๆ เช่น ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ, เทรดหุ้น โดยอ้างผลตอบแทนสูง และแอบอ้างผู้มีชื่อเสียงเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ พบมีการปลอมเอกสารและนำเงินไปหมุนเวียนจ่ายเป็นผลตอบแทนให้รายอื่น มีผู้เสียหาย 17 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 190 ล้านบาท

"นานา ไรบีนา"ปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา คาดเตรียมฝากขังพรุ่งนี้

พฤติการณ์ นานา ไรบีนา  เนื่องด้วยมีผู้เสียหาย จำนวน 17 ราย ได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กรณีเมื่อประมาณปีเดือน ต.ค. 2565 ได้ถูกดาราสาวชื่อดัง ชักชวนให้ร่วมลงทุนในธุรกิจต่างๆ ได้แก่

"นานา ไรบีนา"ปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา คาดเตรียมฝากขังพรุ่งนี้
1. ธุรกิจปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล เสนอผลตอบแทนสูงร้อยละ 4-7 ต่อเดือน
2. ลงทุนเทรดหุ้นกับผู้มีชื่อเสียงในวงการเทรดหุ้น
3. ลงทุนขายหุ้นในธุรกิจกีฬาบาสเก็ตบอล, ร้านอาหารต่างประเทศ และบริษัทต่างๆ ของตน
4. ลงทุนในกองทุนเครือธุรกิจครอบครัวรายใหญ่

ซึ่งผู้ต้องหาได้ชักชวนกลุ่มเพื่อนสนิท, บุคคลใกล้ชิด และกลุ่มผู้ปกครองในโรงเรียนนานาชาติ โดยอาศัยความเชื่อใจและความน่าเชื่อถือของตน ประกอบกับมีการแอบอ้างผู้มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ ทำให้กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินร่วมลงทุนกับผู้ต้องหา ซึ่งในระยะแรกผู้เสียหายบางรายได้รับผลตอบแทนตามที่เสนอจริง ประกอบกับผู้ต้องหาได้นำหลักฐานการโอนเงินปลอมและเอกสารการโอนหุ้นปลอมมาแสดงต่อผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายเกิดความเชื่อมั่นและหลงเชื่อลงทุนกับผู้ต้องหาเรื่อยมา

"นานา ไรบีนา"ปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา คาดเตรียมฝากขังพรุ่งนี้
ต่อมาเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ผู้ต้องหาเริ่มไม่จ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เสียหาย โดยอ้างว่าบัญชีเงินถูกหน่วยงานของรัฐระงับการทำธุรกรรม จึงไม่สามารถดำเนินการจ่ายคืนเงินลงทุนและปันผลการลงทุนได้ เมื่อถูกทวงถาม ก็ได้ออกเช็คเงินสดเพื่อจะชำระเงินลงทุนและเงินปันผลคืนให้กับผู้เสียหาย โดยเมื่อนำเช็คเงินสดไปเรียกเก็บกับธนาคาร กลับถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คเนื่องจากไม่มีเงินในบัญชี  และภายหลังได้ทราบว่าบุคคลมีชื่อเสียงที่ถูกผู้ต้องหากล่าวอ้างนั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนที่ผู้ต้องหาชักชวนแต่อย่างใด ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายรวม กว่า 190 ล้านบาท


จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า นอกจากพฤติการณ์ในการชักชวนระดมทุนแล้ว ผู้ต้องหายังมีการปลอมหลักฐานสลิปการโอนเงิน  ปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้นบริษัทร้านตัดผมชื่อดัง ซึ่งผู้ต้องหาเป็นเจ้าของอยู่ และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าผู้ต้องหาไม่ได้มีการนำเงินไปลงทุนในธุรกิจต่างๆ ตามที่กล่าวอ้าง โดยผู้ต้องหามีการทำธุรกรรมเบิกถอนเงินสดที่ธนาคารเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการนำเงินลงทุนที่ได้รับมาไปหมุนเวียนจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนรายอื่น

"นานา ไรบีนา"ปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา คาดเตรียมฝากขังพรุ่งนี้

ซึ่งลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานและยื่นคำร้องต่อศาลขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาไว้
 


ความคืบหน้าล่าสุด คาดว่าเจ้าหน้าที่จะนำตัว นานา ไรบีนา ส่งศาลเพื่อฝากขังต่อไป โดยตามอำนาจเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ 48 ชั่วโมง แต่เนื่องจาก ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงคาดว่าน่าจะมีการส่งตัวฝากขังที่ศาลอาญาในวันพรุ่งนี้ 4 ธ.ค.68 ในเวลาประมาณ 09.00 น.