- 17 พ.ย. 2559
มีนักเคลื่อนไหวขวาจัดราว 40 คนได้ฝ่าด่านรักษาความปลอดภัย และทุบประตูกระจกเข้าไปในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ของประเทศบราซิล จนทำให้การประชุมที่เพิ่งจะเริ่มต้องหยุดชะงักลง
สำนักข่าวเอเอฟพี ได้รายงานว่า มีนักเคลื่อนไหวขวาจัดราว 40 คนได้ฝ่าด่านรักษาความปลอดภัย และทุบประตูกระจกเข้าไปในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ของประเทศบราซิล จนทำให้การประชุมที่เพิ่งจะเริ่มต้องหยุดชะงักลง
ผู้ประท้วงกลุ่มนี้ได้ขึ้นไปยึดโพเดียมและตะโกนว่า “จะเอานายพล จะเอานายพล” ซึ่งสื่อความถึงการสนับสนุนให้ทหารทำการรัฐประหาร ยึดอำนาจ
เวลานั้นห้องประชุมสภาผู้แทนฯ แทบไม่มี ส.ส.หลงเหลืออยู่แล้ว ทว่าภาพกิจกรรมของผู้ประท้วงหลายสิบชีวิตได้ถูกเผยแพร่ทางสื่อโทรทัศน์ ก่อนที่พวกเขาจะถูกตำรวจควบคุมตัวไปสอบสวน
ต่อมาในช่วงบ่าย อเล็กซานเดร ปาโรลา โฆษกของประธานาธิบดี มิเชล ทีเมอร์ ได้ออกมาติเตียนการกระทำของนักเคลื่อนไหวกลุ่มนี้ว่าเป็นการ “ดูหมิ่น” รัฐบาล และยังละเมิดหลักการอยู่ร่วมกันในระบอบประชาธิปไตย
ในวันเดียวกัน ตำรวจปราบจลาจลได้ยิงแก๊สน้ำตา กระสุนยาง และระเบิดเสียงเข้าสลายกลุ่มผู้ประท้วงในเมืองรีโอเดจาเนโร ซึ่งไม่พอใจที่ภาครัฐจะบังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัดเข้มงวดภายในรัฐรีโอ
ผู้ประท้วงกว่า 2,000 คนซึ่งมีทั้งครูและตำรวจซึ่งไม่ได้อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ได้เผชิญหน้ากับหน่วยปราบจลาจลที่ด้านนอกอาคารรัฐสภาท้องถิ่นของรัฐรีโอ
ลูอิซ เฟอร์นันโด เปเซา ผู้ว่าการรัฐรีโอซึ่งเป็นสมาชิกพรรคแนวร่วมประชาธิปไตยบราซิล (PMDB) ของประธานาธิบดี มิเชล ทีเมอร์ พยายามผลักดันให้มีการตัดลดงบประมาณรายจ่ายของรัฐลง เนื่องจากเงินคงคลังลดลงทุกที
รัฐรีโอเผชิญวิกฤตขาดแคลนงบประมาณอย่างรุนแรงตลอดช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ถึงขั้นต้องประกาศภัยพิบัติสาธารณะ (state of public calamity) และขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง ก่อนที่จะเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกส์ฤดูร้อนเมื่อเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา
บราซิลเคยถูกปกครองโดยรัฐบาลทหารระหว่างปี 1964-1985 แต่ถึงกระนั้นก็มีชาวบราซิลเพียงส่วนน้อยที่คิดว่าควรจะปล่อยให้กองทัพกลับเข้ากุมบังเหียนประเทศอีกครั้ง เพื่อตอบโต้พฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชันของนักการเมือง และรับมือเศรษฐกิจที่กำลังมีปัญหาอย่างหนักนั่นเอง
เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์
ขอขอบคุณ AFP