- 04 ม.ค. 2560
กองทัพสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ ว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในอิรักและซีรียโดยสหรัฐฯและพันธมิตร ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2557
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว กองทัพสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ ว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในอิรักและซีรียโดยสหรัฐฯและพันธมิตร ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2557 ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตโดยไม่เจตนา รวมกันอย่างน้อย 188 คน กองทัพสหรัฐฯ และพันธมิตรขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งไปยังครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบ
รายงานฉบับดังกล่าวยืนยันว่า การปฏิบัติการทุกครั้งมีการวางแผนล่วงหน้าเพื่อลดความเสี่ยงของการสร้างอันตรายให้แก่พลเรือนมากที่สุด แต่ในบางเวลาและบางโอกาส ความสูญเสียเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ นอกจากนี้ กองทัพสหรัฐฯ และพันธมิตรได้รับรายงานการโจมตี 16 รายการเฉพาะเมื่อเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา ที่อาจทำให้เกิดการเสียชีวิตของพลเรือน
กองทัพสหรัฐฯยังเปิดเผยสถิติของปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในอิรักและซีเรียเพื่อปราบปรามกลุ่มไอเอส ประจำเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา ว่าอยู่ที่ 17,005 ครั้ง แบ่งเป็น 10,738 ครั้งในอิรัก และ 6,267 ครั้งในซีเรีย สำหรับงบประมาณทางทหารเพื่อการนี้ตั้งแต่ปี 2557 อยู่ที่ราว 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) โดยในที่ประชุมได้มีมติเสียงข้างมาก เห็นชอบร่างมติที่เสนอโดยลิกเตนสไตน์ ให้มีการจัดตั้งทีมพิเศษสำหรับทำหน้าที่รวบรวมและวิเคราะห์หลักฐาน เตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินการสืบสวนในคดีอาชญากรรมสงครามและละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในซีเรีย โดยจะทำงานร่วมกับคณะกรรมการสืบสวนกรณีซีเรียของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งเป็นคณะทำงานที่แต่งตั้งโดยคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชอาร์ซี)
การลงมติครั้งนี้ เสียงข้างมาก 105 เสียงเห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าวและมีจำนวน 15 เสียง นั้นไม่เห็นด้วย และงดออกเสียง 52 เสียง โดยมติดังกล่าวมีผลบังคับให้ทุกประเทศสมาชิกและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในความขัดแย้ง รวมถึงกลุ่มภาคประชาสังคมอื่นๆ มอบข้อมูล หลักฐาน หรือเอกสารใดๆ ที่เกี่ยวข้องแก่คณะทำงาน ในการนี้ นายบาชาร์ จาอาฟารี เอกอัครราชทูตซีเรียประจำยูเอ็น กล่าวว่ากลไกดังกล่าวที่ยูเอ็นจีเอเห็นชอบจัดตั้งขึ้น นับเป็นการแทรกแซงต่อกิจการภายในของประเทศสมาชิกอย่างยิ่ง โดยรัสเซียและประเทศพันธมิตรอื่นๆ ของซีเรียได้ออกเสียงคัดค้านต่อร่างมตินี้
ทางด้านนายบัน คี มูน เลขาธิการของสหประชาชาติ ได้เปิดเผยรายงานของคณะกรรมการสืบสวนกรณีซีเรีย ระบุว่า เหตุโจมตีขบวนรถขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ของยูเอ็นและกลุ่มเสี้ยววงเดือนแดงซีเรีย ที่เขตอูเร็ม อัล-คูบรา ใกล้เมืองอเลปโป เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการถูกโจมตีทางอากาศ เหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย บาดเจ็บราว 22 ราย รถบรรทุกถูกทำลาย 17 คัน และสิ่งของบรรเทาทุกข์เสียหายจำนวนมาก
ผลการสืบสวนบ่งชี้ว่า การโจมตีมาจากอากาศยานจำนวนมาก หลากหลายประเภท และใช้อาวุธหลายชนิด อย่างไรก็ตาม รายงานไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นการโจมตีโดยเจตนาหรือไม่ และเป็นการโจมตีของฝ่ายใด กล่าวได้เพียงว่า ไม่น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มกบฏ และมีเพียงเครื่องบินรบของกองทัพซีเรีย รัสเซีย หรือกองกำลังร่วมสหรัฐฯ เท่านั้น ที่มีศักยภาพเพียงพอ รายงานยังกล่าวต่อว่า มีความเป็นไปได้สูงว่าไม่น่าจะเป็นฝีมือของกองกำลังร่วมสหรัฐฯ
ทั้งนี้ คณะกรรมการสืบสวนกรณีซีเรีย ถูกจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2554 เพื่อสอบสวนความการก่ออาชญากรรมสงครามที่อาจขึ้นในสงบครามกลางเมืองซีเรีย โดยคณะกรรมการฯ อ้างว่า มีรายชื่อผู้ต้องสงสัยจากทุกฝ่ายที่เชื่อว่าได้กระทำการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ โดยยังเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) นำกรณีสงครามซีเรียเข้าสู่การพิจารณาในศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี)
เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์