มั่ว หรือ รับใช้การเมือง!! "โดนัลด์ ทรัมป์" ตั้งข้อสงสัย "ข่าวกรองสหรัฐฯ" มั่วเรื่อง "รัสเซีย" แฮกข้อมูลเลือกตั้งเพราะที่ผ่านมาเคยผิดพลาด

โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตั้งข้อสงสัยอีกครั้งต่อรายงานข่าวกรองอเมริกาซึ่งพบว่ารัสเซียแฮกระบบแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดี

สำนักข่าวเอเอฟพี ได้รายงาน ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ  ตั้งข้อสงสัยอีกครั้งต่อรายงานข่าวกรองอเมริกาซึ่งพบว่ารัสเซียแฮกระบบแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยหยิบยกคำประเมินของจูเลียน แอสซานจ์ ผู้ก่อตั้งวิกิลิกส์ มาย้ำว่าข้อมูลที่รั่วไหลซึ่งก่อความเสียหายแก่ฝ่ายเดโมแครตนั้น ไม่ได้มาจากรัสเซีย โดยทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ อีกครั้งว่า
       
    
   "จูเลียน แอสซานจ์ บอกว่าวัยรุ่นอายุ 14 ปีอาจแฮกโปเดสซา ทำไมคณะกรรมการแห่งชาติของพรรคเดโมแครตถึงไม่ระมัดระวัง และยังบอกอีกว่ารัสเซียไม่ได้มอบข้อมูลแก่เขา"        


       อีเมล์หลายพันฉบับที่ถูกแฮกจากคณะกรรมการแห่งชาติของพรรคเดโมแครตและจากจอห์น โปเดสตา ประธานทีมหาเสียงของฮิลลารี คลินตัน ซึ่งเผยแพร่โดยเว็บไซต์วิกิลีกส์ ไม่กี่สัปดาห์ก่อนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 


       
       ประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯสรุปว่าปฏิบัติการแฮกและเผยแพร่ข้อมูลอีเมล์ ออกแบบมาเพื่อผลักดัน ทางด้านนายโดนัลด์  ทรัมป์ เข้าสู่เวทีการเมือง เนื่องจากว่าทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ นั้นเป็นผู้ที่ชื่นชมทางด้านผู้นำรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน นั่นเอง แต่ทางด้านรัสเซีย ก็ปฎิเสธมาตลอด กับการกล่าวหาของสหรัฐฯว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการแทรกแซงทางไซเบอร์

        มั่ว หรือ รับใช้การเมือง!! "โดนัลด์ ทรัมป์" ตั้งข้อสงสัย "ข่าวกรองสหรัฐฯ" มั่วเรื่อง "รัสเซีย" แฮกข้อมูลเลือกตั้งเพราะที่ผ่านมาเคยผิดพลาด
       

จูเลียน แอสซานจ์ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ้อกซ์นิวส์เมื่อวันอังคาร ว่าบัญชีจีเมล์ของโปเดสซา "เด็กอายุ 14 ขวบก็สามารถแฮกได้ ยืนยันว่ารัฐบาลรัสเซียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับต้นตอของแหล่งข้อมูลที่ได้จากการแฮกเลยแหล่งข้อมูลไม่ได้มาจากรัฐบาลรัสเซีย มันไม่ใช่ฝ่ายรัฐ

 

มั่ว หรือ รับใช้การเมือง!! "โดนัลด์ ทรัมป์" ตั้งข้อสงสัย "ข่าวกรองสหรัฐฯ" มั่วเรื่อง "รัสเซีย" แฮกข้อมูลเลือกตั้งเพราะที่ผ่านมาเคยผิดพลาด
       
       นายโดนัลด์ ทรัมป์ อ้างว่าหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ก็เคยผิดพลาดมาแล้วในอดีต ยกตัวอย่างเช่นเคยบอกว่าอิรักมีอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ผลการค้นพบที่นำพาประเทศแห่งนี้เข้าสู่สงคราม ขณะที่เขาตั้งคำถามอย่างเปิดเผยซ้ำๆเกี่ยวกับการทำงานของประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ
       

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะยังคงใช้สื่ออย่างทวิตเตอร์ต่อไป แม้ว่าจะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค.นี้ก็ตาม

นายฌอน สไปเซอร์ ว่าที่โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า การให้ข่าวและออกแถลงการณ์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย จะยังคงมีต่อไปแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊คและอินสตาแกรม และในความเป็นจริงนั้น เมื่อใดที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีต เขาจะได้ในสิ่งที่ต้องการ

 

ก่อนหน้านี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์เคยให้สัมภาษณ์ว่า จะทบทวนเรื่องการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นอาวุธสำคัญในช่วงการรณรงค์หาเสียง โดยระบุว่า เขาจะพยายามระมัดระวังเมื่อต้องใช้โซเชียลมีเดีย

นายโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งได้ทวีตชื่นชมประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ว่าเป็นคนที่ฉลาดมาก หลังจากที่ผู้นำรัสเซีย ประกาศว่าจะไม่ขับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ออกจากประเทศ แม้สหรัฐฯ จะออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียก็ตาม

 

 

ในขณะที่ นักการทูตรัสเซีย 35 คนที่ถูกเนรเทศออกจากสหรัฐฯ พร้อมด้วยครอบครัว กลับถึงกรุงมอสโกของรัสเซียหลังประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯมีคำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดีขับนักการทูตเหล่านี้ออกนอกประเทศภายใน 72 ชม.เนื่องจากสงสัยเป็นสายลับ และสั่งปิดสำนักงานของรัสเซียสองแห่งในรัฐนิวยอร์กและรัฐแมรีแลนด์ ที่เชื่อว่าใช้เป็นแหล่งรวบรวมข่าวกรอง

บารัค โอบามา ออกมาตรการนี้เพื่อตอบโต้รัสเซียกรณีโจมตีไซเบอร์แทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเลือกไม่ขับนักการทูตสหรัฐฯเพื่อตอบโต้กลับ และจะรอปรับปรุงความสัมพันธ์กับสหรัฐฯภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐใน 20 ม.ค.นี้

 

 

ผู้นำรัสเซีย ไม่ได้ตอบโต้การกระทำของ ผู้นำสหรัฐฯ แบบเดียวกัน แต่ใช้วิธีการด้วยการปฏิเสธเนรเทศนักการทูตชาวอเมริกันในจำนวนที่เท่ากันตามการเสนอแนะของกระทรวงการต่างประเทศ แต่รัสเซียต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัฐบาลสหรัฐฯชุดต่อไป ภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมป์

ด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชื่นชมผู้นำรัสเซียว่าเป็นคนที่ฉลาดที่ตอบโต้ บารัค โอบามา แบบสุขุม นุ่มลึก  และเผยว่าเขามี ข้อมูลจริง เกี่ยวกับการจารกรรมระบบฐานข้อมูลอีเมลของสถาบันการเมืองในสหรัฐฯ โดยเฉพาะของพรรคเดโมแครต ที่หลายฝ่ายไม่เคยทราบมาก่อน และจะเผยแพร่ภายในสัปดาห์นี้

 




เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์